xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯจัดกิจกรรม"สะอาด"แต่งดำร่วมอาลัยพระพี่นางเธอฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯ แต่งดำร่วมกิจกรรม"มนุษย์สะอาด" เพื่อเป็นการไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ งดปราศรัยประเด็นการเมืองชั่วคราว ด้านที่ปรึกษา"ปฐมพงษ์"นำหลักฐานการใช้อาวุธสงครามสลายผู้ชุมนุม ปฏิเสธพันธมิตรฯ สร้างสถานการณ์ โบ้ยฝีมือ เสธ.อันธพาล

วานนี้(14 พ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ซึ่งถือเป็นวันแรกที่จัดงานพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยผู้ชุมนุมต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดดำ ได้ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบรรยากาศโดยรอบได้มีการตั้งเต้นท์เพื่อล่ารายชื่อ 20,000 ชื่อ เพื่อถอดถอน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ที่บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) โดยมีผู้ชุมนุมให้ความสนใจไม่ขาดสาย ซึ่งคาดว่าในช่วงเย็นผู้ชุมนุมจะมีเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวถึง กรณีงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอฯว่า ทางพันธมิตรฯ จะมีการจัดกิจกรรมภายในที่ชุมนุม เพื่อให้สอดคล้องกับงานพระราชพิธีฯ ภายใต้โครงการ "มนุษย์สะอาด" คือร่วมกันรณรงค์ความสะอาดในพื้นที่ชุมนุม เพื่อถวายความจงรักภักดี ขณะที่บนเวทีปราศรัย จะงดการปราศรัยโจมตีเรื่องการเมืองในขณะนี้ แต่จะมีการพูดถึงอนาคตของการเมืองใหม่ รวมทั้งจะมีการถ่ายทอดสด งานพระราชพิธีผ่านสถานีโทรทัศน์ ASTVและผ่านจอโปรเจกเตอร์ ให้แก่ผู้ชุมุนมในทำเนียบรัฐบาลได้รับชม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายพิภพ แถลงข่าวอยู่นั้น มีนายกฤตโชค จินดาณพล ที่อ้างตนว่าเป็นที่ปรึกษาของ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานคณะกรรมการที่ปรึกษากองทัพไทย และเป็นนักวิชาการของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้นำหลักฐานภาพถ่ายความเสียหายบนอาคารสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (กพ.) ที่ถูกแรงระเบิดในวันที่ 7 พ.ย. เวลา 03.00 น. ซึ่งประกอบด้วย ภาพหลังคาพัง ไม้ที่ถูกแรงอัดระเบิด พร้อมภาพถ่ายชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดชนิด M 5 ที่เป็นระเบิดเสียงและสะเก็ดระเบิดชนิด M 79 ให้สื่อมวลชนดู
นายกฤตโชค กล่าวว่า หลังเกิดเหตุระเบิดในวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ปรากฏเป็นข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมา ตนจึงเข้ามาฟังการปราศรัยในที่ชุมนุม และตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุระเบิดรายวันที่เกิดขึ้นในที่ชุมนุม
ต่อมาวันที่ 10 พ.ย. เวลา 03.30 น. ก็ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้ง ในพื้นที่ชุมนุม ซึ่งห่างจากเวทีปราศรัยประมาณ 10 เมตร โดยเสียงดังมาจากบริเวณดาดฟ้าของตึกกพ. ตนจึงได้ขอรปภ.ของตึกขึ้นไปตรวจสอบบริเวณดาดฟ้าที่อยู่บนชั้น 4 พบว่ามีรอยเท้า คล้ายรองเท้าคอมแบต โค้ก 2 กระป๋อง และขี้บุหรี่ที่เพิ่งดูดใหม่ๆ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของพันธมิตรฯ แน่นอน
"วันที่ 11 พ.ย. ผมได้เข้าพบกับผู้ใหญ่ในกพ. ท่านได้มอบภาพถ่ายความเสียหายบนตึกกพ.วันที่ 7 พ.ย. ที่ผมนำมาให้สื่อดู เป็นสะเก็ตระเบิดเสียงชนิด M 5 ที่ซ้อมยิง มีรัศมียิงได้ระยะไกลถึง 100 เมตร และสะเก็ดระเบิดชนิด M 79 และเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ตกบริเวณเต็นท์หน้าเวทีทำเนียบฯ ในวันที่ 10 พ.ย. ที่ยิงจากที่สูง โดยใช้ปืนยิงชนิดเดียวกัน และผู้ที่จะยิงปืนชนิดนี้ได้ ต้องเป็นหน่วย ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) หน่วย อรินทราช และ ทหาร แต่ผมไม่ได้เจาะจงว่า จะเป็นหน่วยใด แต่กระสุนที่ใช้ เป็นอาวุธสงคราม ผมจึงเป็นห่วงผู้ชุมนุมที่ไม่รู้เรื่อง และหากระเบิดครั้งล่าสุดที่ยิงมาไม่ติดเต็นท์ ต้องมีคนตายไม่น้อยกว่า1-2 คน" นายกฤตโชคกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกฤตโชค กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้น เป็นระเบิดชนิดเดียวกันที่ทำให้"น้องโบว์" น.ส. อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิต ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับนายทหารคนหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหว ที่ระบุจะดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ และยังทำหนังสือรายงานการเกิดเหตุไปที่หน่วยงาน กอ.รมน. และแม่ทัพภาคที่ 1 และสน.ดุสิต
กำลังโหลดความคิดเห็น