xs
xsm
sm
md
lg

ส.ผู้ค้าปลีกไทยโต้“ยรรยง”ชี้ไม่โปร่งใสพ.ร.บ.ค้าปลีกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ออกโรงโต้”ยรรยง” หลังถอนตัวจากคณะกรรมการค้าปลีก ชี้กรมการค้าภายในไม่โปร่งใส กรณีพิจารณาร่างพ.ร.บ.ค้าปลีกฯ

แหล่งข่าวสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวตอบโต้กรณีที่อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า การที่สมาคมฯ ได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการทำงานของคณะกรรมการค้าปลีกค้าส่งที่ ครม. ได้อนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งขึ้นนั้น เป็นการแสดงความเห็นแก่ตัว และมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน ว่า การที่สมาคมฯ ตัดสินใจถอนตัวจากการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าว และคณะอนุกรรมการทั้ง 4 คณะก็เนื่องจาก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมจากกรมการค้าภายใน และไม่เคยได้เห็นความโปร่งใสในการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องนี้
“ตั้งแต่ต้น เมื่อสองปีที่แล้วกรมการค้าภายในเคยเชิญพวกเราไปลงนามในสัญญาห้ามเปิดสาขาใหม่ภายใน 30 วัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นกรมฯได้ออกข่าวอย่างแพร่หลายว่าจะเป็นบันทึกความเข้าใจชะลอการเปิดสาขาไว้ก่อน 30 วัน ซึ่งเป็นการหลอกลวงสาธารณชนอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ภายหลังที่กรมการค้าภายในได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดทำร่าง พรบ.ค้าปลีกค้าส่งขึ้นในสมัยรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์  ก็ได้เชิญบุคคลจากวงการต่างๆ มาร่วม แต่ในการประชุมทุกครั้ง กรมการค้าภายในไม่เคยสนใจข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของบุคคลเหล่านั้น และความเห็นต่างๆที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของกรมการค้าภายในก็จะไม่ได้รับการบันทึกไว้ในรายงานการประชุม ที่สำคัญคือ กรมการค้าภายในมีร่าง พรบ. อยู่แล้ว และไม่ว่าคณะกรรมการฯ จะมีความคิดเห็นอย่างไร ร่าง พรบ. ก็ยังคงเดิมไม่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลง มุ่งเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ และเครือข่ายพ่อค้าคนกลางดั้งเดิมเป็นสำคัญ”
สำหรับความพยายามครั้งล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์ ในการนำเสนอร่าง พรบ. เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ครม. ได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นศึกษาปัญหาในภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และจัดทำข้อเสนอแนะต่อ รมว. พาณิชย์ เพื่อจัดทำร่าง พรบ. ค้าปลีกค้าส่ง และคณะกรรมการดังกล่าวเพิ่งเริ่มดำเนินงานนั้น สมาคมฯเห็นว่า การกระทำของกระทรวงพาณิชย์เป็นขัดต่อมติของ ครม. โดยสิ้นเชิง และการกระทำดังกล่าวก็เหมือนกับพฤติกรรมที่ผ่านมาคือ ไม่มีความจริงใจ และไม่มีความโปร่งใสในการแก้ปัญหา มีเจตนาเพียงอย่างเดียวคือต้องการผลักดัน ร่าง พรบ. ที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ และเครือข่ายพ่อค้าคนกลาง เข้าสู่สภาให้จงได้ ไม่ว่าผลกระทบระยะยาวต่อผู้บริโภค และเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร
  แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า แม้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันสินค้ามีราคาสูงขึ้นแต่ กรมการค้าภายใน ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ไม่เคยสนใจถึงทางเลือกและผลประโยชน์ของผู้บริโภคแต่อย่างใด และไม่สนใจแม้กระทั่งผลประโยชน์ของร้านค้าปลีกรายย่อย ซึ่งปัจจุบันก็คือ ลูกค้าที่สำคัญของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เพราะสามารถซื้อสินค้าราคาย่อมเยาไปขายต่อให้กับผู้บริโภคได้ แต่กลับมุ่งที่จะปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ และเครือข่ายพ่อค้าคนกลางดั้งเดิมเป็นสำคัญ ทั้ง ๆ ที่กลุ่มดังกล่าวเอารัดเอาเปรียบร้านค้าปลีกรายย่อยและผู้บริโภคมาเป็นเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งในรูปแบบของการกักตุนสินค้าและขึ้นราคาสินค้า ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่สามารถพึ่งพารัฐได้ในภาวะการณ์เช่นนี้ แล้วผู้บริโภคจะสามารถพึ่งใครได้
กำลังโหลดความคิดเห็น