xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเร่งบรรจุแก้รธน. สร้างเงื่อนไขขัดแย้งอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช แและอดีตสมาชิก

สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.50) กล่าววิเคราะห์เหตุการณ์ทางการเมือง ภายหลังรายการความจริงวันนี้

สัญจร ว่า ความแตกแยกที่เกิดขึ้นขณะนี้ เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงเกรงว่าจะเกิดความแตกแยก

ในสังคมจะมีมากขึ้น ซึ่งการที่รัฐสภาและรัฐบาลแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงด้วยการ

แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้มี ส.ส.ร.3 นั้น จึงไม่ใช่ทางออกของปัญหา และไม่วิธีการ

ลดความรุนแรง ตรงกันข้าม การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้หา

เหตุผลมาสนับสนุนการแก้ไขไม่ได้ การแก้รัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่การแก้ความรุนแรง เพราะยังมีฝ่ายหนึ่ง

ที่หวงแหนรัฐธรรมนูญอยู่ การแก้สิ่งที่หวงแหน จึงเท่ากับเป็นการทุบกล่องดวงใจ ดังนั้นการเดิน

หน้าแก้รัฐธรรมนูญ และการปล่อยให้คนผิดอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เชิดหน้า ชูตาเสมือนหนึ่งคน

ไม่มีความผิด อีกทั้งยังปล่อยให้มีการยั่วยุกันผ่านทางวิทยุชุมชน ความรุนแรงก็ไม่มีทางจบลงได้

เพราะถือว่ารัฐบาลมีพฤติกรรม ปากว่าตาขยิบ
"ส.ส.ร.3 ไม่ควรเกิดด้วยซ้ำไป เพราะตอนนี้รัฐบาลยังไม่รู้เหตุผลเลยว่า จะแก้ไปทำไม จะ

แก้ประเด็นไหน หรือต้องการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะความรู้สึกของนักการเมืองที่เกรงว่า จะถูกเช็คบิล

จากรัฐธรรมนูญ จึงต้องรีบแก้ ซึ่งเป็นปัญหาของคนเพียง บางกลุ่ม เท่ากับว่าเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้

กติกาถือว่าไม่ถูกต้อง การตั้งส.ส.ร.ขึ้นมาจึงเป็นการหาแพะมารับบาปจากรัฐบาล เพราะหากมีการตั้ง

ขึ้นมาฝ่ายการเมือง ก็ต้องแทรกแซงได้ เท่ากับว่าเป็นการทำลายปฏิรูปการเมือง ดังนั้นการมี ส.ส.ร.3

จึงไม่ได้ทำให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้น ตรงกันข้ามกลับจะเพิ่มความแตกแยกมากขึ้น" นายคมสัน

กล่าวและว่า ทั้งนี้ตนไม่คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ แต่หากคิดว่าประเด็นต่างๆ ในรัฐธรรมนูญมี

ปัญหาก็ควรให้นักวิชาการที่มีความเป็นกลาง ศึกษาข้อดี ข้อเสีย จากนั้นจึงนำผลการศึกษามาดูก่อน

จะแก้ไข
ส่วนกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของ

คณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) บรรจุไว้ในวาระ แต่ไม่ได้นำมาพิจารณา

นั้น เรื่องนี้ตนเห็นว่า แม้ นพ.เหวง โตจิราการ และคณะจะอ้างว่า การเสนอร่างโดยอาศัยรัฐธรรมนูญ

มาตรา 291 พร้อมกับรายชื่อประชาชนจำนวน 7 หมื่นรายชื่อ แต่ก็ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว

ไม่มีความสมบูรณ์ เพราะยังไม่มีกฎหมายรับรองการเสนอกฎหมาย
"การที่นายชัยนำร่างเสนอแก้ไขกฎหมาย ฉบับคปพร.บรรจุเข้าวาระการพิจารณา แม้ไม่มี

การพิจารณาสภาจึงเป็นการข่มขืนรัฐธรรมนูญ และเพิ่มความร้อนแรงของการการเมือง ดังนั้นนายชัย

จะต้องระงับทั้งการแก้ไขญัตติเสนอร่างแก้ไขฉบับ คปพร. มิฉะนั้นนายชัย อาจมีความผิดฐานจงใจ

ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 270 อาจจะทำให้นำไปสู่ถอนถอนได้" นายคมสัน กล่าว และว่า ทั้งนี้

รัฐสภาควรระงับการเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ยกร่างโดย นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ

รมต.ประจำสำนักนายกฯ ด้วยเพราะจะเป็นการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองที่นำไปสู่ความวิกฤตได้

**ติงรัฐบาลอย่าสาดน้ำมันเข้ากองไฟ
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ประธานวิปรัฐบาล ระบุจะมีการเรียก

ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 ในสัปดาห์หน้าว่า กลุ่ม

40 ส.ว. ยังไม่มีมติว่าจะคัดค้านหรือสนับสนุน แต่โดยส่วนตัวเห็นว่า ถ้ารัฐบาลใช้เสียงข้างมากลากไป

จะยิ่งก่อให้เกิดวิกฤติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรง ก็เหมือนการสาดน้ำมันเติม

เชื้อไฟเข้าไปในขณะที่ไฟกำลังไหม้บ้าน แทนที่จะช่วยกันดึงเชื้อไฟออกมา การแก้รัฐธรรมนูญไม่

ควรทำในช่วงนี้ ควรมุ่งหน้าแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการสานเสวนาลดความขัดแย้งดีกว่า

**นัดถก 5 พรรคร่วม 5 พ.ย.นี้
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดนัดหารือกับ

หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค ในวันพุธที่ 5 พ.ย. นี้ เพื่อทำความเข้าใจขั้นสุดท้าย ให้ได้ข้อสรุป

ที่ตรงกันในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291
ทั้งนี้ ขั้นตอนการยกร่างอยู่ในขั้นการพิจารณารายละเอียด โดยนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยกร่างฯ ได้นำร่างเสนอวิป

รัฐบาลแต่ละพรรค เพื่อขอให้สมาชิกแต่ละพรรคลงชื่อสนับสนุน ทั้งนี้ ในฐานะประธานวิปได้นำเรียน

ให้นายกรัฐมนตรี เร่งสรุปในเรื่องนี้ โดยการประชุมพรรคพลังประชาชนในวันนี้ (เวลา 13.00 น.) จะ

ให้สมาชิกลงนามสนับสนุนร่างแก้ไขฯ โดยต้องใช้เสียง ส.ส.จำนวน 1 ใน 5 ของสมาชิกรัฐสภา ตาม

รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ คาดว่าหากการรวบรวมรายชื่อไม่มีปัญหา จะสามารถยื่นญัตติต่อรัฐสภาได้ภายใน

สัปดาห์นี้
"สำหรับการแก้ไขในรายละเอียด อาจมีการแก้ไขในขั้นกรรมาธิการฯ หรืออาจมีการแก้ไข

เลย หากที่ประชุมพรรค มีสมาชิกท้วงติง เรื่องความเรียบร้อย คงคาดหวังอะไรไม่ได้ เพราะสมาชิกแต่

ละคน มีความคิดเห็นเป็นของตนเอง เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีเพียงบางประเด็นที่มีการ

พูดคุยกันมาก่อนเช่น ที่มาของ ส.ส.ร. ซึ่งมีการคุยกันไปแล้ว" นายวิทยากล่าว

**ตั้งส.ส.ร.3จำนวน120 คนใน60วัน
เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ ที่พรรคพลังประชาชนได้นัดประชุมวาระพิเศษ โดยเชิญนาย

สุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา

291 แต่มีส.ส.มาเข้าร่วมประชุมอย่างบางตา เนื่องจาก ส.ส.ส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะได้มีการหารือ

ในกาประชุมพรรควันที่ 4 พ.ย.นี้ อีกครั้ง
หลังการประชุม ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน ได้แถลงถึง

ความคืบหน้าประเด็นการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในที่ประชุมนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรี

ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงว่า การ

แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้งส.ส.ร.3 เป็นแนวทางที่รัฐบาลอยากให้เกิดความสมานฉันท์ให้

ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมทั้งฝ่ายค้าน หรือวุฒิสภา และประชาชนทั่วไป เพราะต้องการให้ทุกคนได้มีส่วน

ร่วมอย่างแท้จริง และให้ส.ส.ร.ที่จะตั้งขึ้น จำนวน 120 คน ภายในเวลา 60 วัน ได้ทำงานอย่างอิสระ

ปราศจากการครอบงำโดยขั้นตอนในการดำเนินการจะใช้เวลา 180 วัน หรือ ประมาณ 8 เดือน ก่อนที่

จะเสนอเข้าสู่สภาเพื่อลงมติเห็นชอบ
ทั้งนี้ ขณะนี้พรรคได้รวมรายชื่อส.ส.และส.ว. ครบตามจำนวนแล้ว คาดว่าจะยื่นญัตติ

เสนอต่อประธานรัฐสภาได้ในสัปดาห์หน้า และอาจนำเข้าบรรจุสู่วาระการประชุมวาระแรก ในวันที่

12-13 พ.ย. นี้ จากนั้นตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมสองสภา ไปพิจารณาใช้เวลา 1 เดือนอย่างเร็ว

**เด็กมัชฌิมาฯสวนมติวิปค้านแก้รธน.
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย ในฐานะวิปรัฐบาล

กล่าวถึงการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในวันนี้ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมวิป เพราะติดภารกิจ

แต่เคยแสดงความเห็นค้านในเรื่องนี้ไว้แล้ว เพราะจากการได้หารือกับบรรดาเพื่อนส.ส.ต่างพรรค ทั้ง

ในส่วนพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน ส่วนใหญ่ต่างมีความเห็นไปในแนวเดียวกันว่า รัฐบาลควร

ชะลอการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 อย่างที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากยังมีปัญหา

เกี่ยวคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครเป็นส.ส.ร. ที่สังคมยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในที่มาที่ไปของส.ส.ร.

ว่าปลอดจากภาคการเมืองจริงหรือไม่ และที่สำคัญจะยิ่งขยายความขัดแย้งกับกลุ่มพันธมิตรฯ และ

ชนชั้นกลางที่ส่วนใหญ่คัดค้านในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ หากยังดันทุรังตั้ง ส.ส.ร.3 มาแก้รัฐธรรมนูญแล้ว สุดท้ายเมื่อเอาเรื่องนี้เข้า

พิจารณาในสภาฯ ตนเกรงว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ เพราะเป็นที่รู้แล้วว่า พรรคฝ่าย

ค้านไม่โหวตให้ผ่านแน่ ขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเอง บางส่วนเสียงก็ยังแตก เกรงว่าจะมีส.ส.

พรรคร่วมรัฐบาลไม่โหวตสนับสนุนในเรื่องนี้ สู้เอาเวลาของรัฐบาลที่เหลือมาเร่งแก้ไขปัญหาวิกฤต

เศรษฐกิจที่กำลังส่งผลกระทบต่อสังคมไทยดีกว่า
เรื่องนี้มีเพื่อน ส.ส.ส่วนใหญ่เห็นพ้องกับความคิดนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าที่จะพูด สำหรับ

ตน เมื่อกล้าพูดแล้วก็ขอรับผิดชอบในสิ่งที่พูดไปว่าหากยังคงมีมติเดินหน้าในเรื่องนี้ คาดว่าในอนาคต

อันใกล้จะมีปัญหาเกี่ยวกับการผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น