ผู้จัดการรายวัน - รมว.คลังโทษกม.เข้มทำเมกะโปเจกต์อืด เผยนายกฯเรียกถก 3 โครงการพุธที่ 5 พ.ย.นี้ ปลุกทุกคนช่วยพัฒนาชาติ แนะลืมข้อเสียมองข้อดี เตือนระวังจนกว่าเพื่อนบ้าน เผยรายได้ท่องเที่ยวหด เพราะนานาชาติไม่แนะนำให้มาไทย
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งในรายการ ‘รัฐบาลของประชาชน’ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) และสถานีวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ ถึงเหตุผลของความล่าช้าในการดำเนินโครงการเมะโปรเจกต์ต่างๆของรัฐบาลว่า ผู้ดำเนินโครงการหลายระดับกลัวเรื่องกฎระเบียบ เดี๋ยวนี้กฎระเบียบเราเข้มจนกระทั่งคนกลัวที่จะทำการพัฒนาประเทศเพราะกลัวผิดกฏหมาย จึงขอฝากไว้ว่าในอนาคตการบริหารประเทศก็ต้องดูกฎระเบียบที่พอเหมาะพอสม
"เพราะถ้ากฎระเบียบแน่นอย่างวันนี้ก็จะทำให้ทุกคนนอนอยู่บ้านดีกว่าไม่ทำอะไรรับรองได้เป็นปลัดกระทรวงแน่ เพราะแค่เริ่มทำอะไรเดี๋ยวก็ถูกสอบแล้ว ซึ่งอันนี้น่ากังวลเพราะถ้ามีการตรวจสอบลึกต้องมองว่าคนทำเขาไม่ได้อะไร เงินเขาก็ได้เท่าเก่า เขาจะทำหรือไม่ทำก็ได้เท่าเก่า ถ้ามองในแง่ที่คนนั้นจะได้ประโยชน์ตรงนั้นตรงนี้โครงการเหล่านี้จะช้ามากแล้วสุดท้ายประเทศก็จะไม่สามารถที่แข่งขันได้ จะเป็นประเทศที่ค่อยๆพัฒนาช้าเหมือนประเทศเพื่อนบ้านในสมัยก่อนๆ"
รมว.คลัง กล่าวอีกว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจะเรียกประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในวันพุธที่ 5 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว(ดอนเมือง) ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 5 พ.ย.นายกรัฐมนตรีจะเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจกต์ในส่วนที่มีความสำคัญ 3 เรื่องได้แก่ โครงการรถไฟฟ้า 3 สาย โครงการลงทุนด้านการศึกษาและสาธารณสุข และโครงการด้าน แหล่งน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
นายสุชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศว่าคนในชาติของเราก็เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น ถ้าเราดูน้องชายน้องสาวเราในแง่ลบก็จะมีเรื่องลบเยอะแยะจนอยู่ร่วมกันไม่ได้ในครอบครัว แล้วถ้าเขาดูเราก็เหมือนกันมีเรื่องแย่ๆตั้งเยอะ แต่ถ้าในครอบครัวเราไม่ได้ดูอย่างนั้น แต่ดูข้อดีระหว่างกัน ส่วนข้อเสียลืมๆไป ครอบครัวเราถึงอยู่ได้ดีเจริญรุ่งเรืองได้
‘เช่นเดียวกับประเทศเราต้องคิดว่านี่คือประเทศของเราทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบประเทศ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง และถ้ามีข้อจำกัดอะไรเยอะแยะคนอื่นก็ไม่มาเหลียวแล เพราะประเทศมีตั้งร้อยกว่าประเทศที่เขาจะไปเที่ยวไปติดต่ออะไรต่อมิอะไร เราก็จะพัฒนาช้าล้าหลังเพราะคนอื่นไปข้างหน้า วันหนึ่งเรานึกขึ้นมาได้ว่า50ปีให้หลังแล้วเราก็จะมาถามว่าทำไมเราจนกว่าคนอื่น ทั้งที่เราเคยรวยกว่าคนอื่น แล้วเวลาของการพัฒนาก็หมดไป เราก็แก่ลงไปในระหว่างนั้น เราไม่ได้อยู่ สิ่งเหล่านี้ก็จะต้องกลับมาคิดมาดูแลกัน’
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า เพื่อนบ้านของเราบางประเทศในแหลมทองเคยเจริญรุ่งเรืองกว่าเรา แล้วเขาอยู่เฉยๆ 50 ปีวันนี้ยังจนอยู่ นอกจากนี้ด้านอินโดจีนเขาก็เคยมีปัญหา แต่ปัจจุบันเขาเลิกฮิตแล้วในเรื่องของการเอาปืนยิงกัน อย่างเช่นในเวียดนามและกัมพูชา เขาเลิกแล้ว เขาช่วยกันขายเฝอและไม่ได้มองความแตกต่างแต่เขาช่วยกันทำ
นายสุชาติ กล่าวว่าเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวหายไปเยอะเลยตนก็สงสารนายวีรศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะหลายประเทศในภูมิภาคนี้เขาแนะนำคนเขาว่าเมืองไทยมีข้อจำกัดอะไรบ้าง ซึ่งประเทศที่เขาแนะนำนักท่องเที่ยวของเขาก็มีจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แล้วเขาได้ยินคำแนะนำเขาก็ไม่มา ซึ่งถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เลิกแนะนำ
‘ผมว่าเมืองไทยยังมีปัญหา ก็เรียนให้รมต.ท่องเที่ยวว่าให้บินไปคุยระดับรัฐมนตรี แต่ว่าคุยเสร็จแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิก ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมาคนที่ทำท่องเที่ยวก็จะเห็นว่าจีนไม่มาเลย เป็นเพราะมันยังมีข้อที่เขายังไม่แนะนำ ทั้งที่รายได้ท่องเที่ยวแทบไม่ต้องทำอะไรเลย 100 บาทที่เขาจ่ายก็เป็นของที่เรามีอยู่แล้วเราไม่ต้องมีต้นทุนเลย ซึ่งในภูมิภาคนี้ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆของคนที่จะมาเที่ยว อันนี้ผมก็เสียดายต้นทุนก็ไม่มี รายได้ก็เยอะ’
อย่างไรก็ตามมาตรการดูแลและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีการคุ้มครองเงินฝาก3ปี ดูแลสภาพคล่อง ดูแลเรื่อง SME เพิ่มงบประมาณแสนล้าน ดูแลกองทุนหมู่บ้าน ดูแลเรื่องเอสเอ็มแอล รวมทั้งจะดูแลโอท็อปให้กลับมามีชีวิตใหม่ ซึ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลทำได้
นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลไหนมา ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลนี้ หรือฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาลต้องดูแลระบอบประชาธิปไตยเหล่านี้ให้ได้ทำงาน ระบอบประชาธิปไตยที่มีตัวแทนประชาชนผ่านการเลือกตั้ง เพราะส.ส.ก็คือตัวแทนของประชาชน ประชาชนในพื้นที่หนึ่งเขาเรียนหนังสือได้แค่นี้ ฐานะเขาอย่างนี้เขาก็เลือกตัวแทนเขาอย่างนี้ จะให้จบปริญญาเอกทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นไม่ใช่ระบบตัวแทน
‘ระบบตัวแทนที่เป็นอยู่อย่างนี้ถูกแล้ว เขามาเป็นตัวแทนของกลุ่มนี้เขามีความรู้อย่างนี้ถูกแล้ว แล้วมาเขาก็มีสิทธิ์มีเสียงถ้าประเทศเราเล็กๆทุกคนเขาก็มาอยู่ในสภาได้ อย่างสวิสเซอร์แลนด์ทุกคนก็ไปอยู่ในสภาได้ แล้วก็ไปลงความเห็นกัน การศึกษาต่างกัน ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงวันแมนวันโหวต แล้วระบบนี้มันก็ต้องเป็นอย่างนี้ และวันนี้ก็ดีกว่า 70ปีที่แล้ว ถ้าปล่อยต่อไปยังงี้มันก็จะดี แล้วเรื่องไม่โปร่งใสคอรัปชั่นมันก็คงมี และอีกหน่อยก็เหมือนอมริกา ยุโรปที่ประชาชนเอาเงินมาใส่กล่องให้คุณโอบาม่า คุณแมคเคนไปหาเสียงเลือกตั้งแล้วก็ขึ้นมาทำงานเพื่อคนที่ส่งเขามา ระบบจะเป็นอย่างนั้นจะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับคนในชาติถ้ามันมีปัญหาเรื่อยๆมันก็จะช้าแล้วประเทศก็จะพัฒนา ดังนั้นจะเห็นได้ว่าระดับการพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับการพัฒนาประชาธิปไตยเห็นๆอยู่แล้ว’
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งในรายการ ‘รัฐบาลของประชาชน’ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) และสถานีวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ ถึงเหตุผลของความล่าช้าในการดำเนินโครงการเมะโปรเจกต์ต่างๆของรัฐบาลว่า ผู้ดำเนินโครงการหลายระดับกลัวเรื่องกฎระเบียบ เดี๋ยวนี้กฎระเบียบเราเข้มจนกระทั่งคนกลัวที่จะทำการพัฒนาประเทศเพราะกลัวผิดกฏหมาย จึงขอฝากไว้ว่าในอนาคตการบริหารประเทศก็ต้องดูกฎระเบียบที่พอเหมาะพอสม
"เพราะถ้ากฎระเบียบแน่นอย่างวันนี้ก็จะทำให้ทุกคนนอนอยู่บ้านดีกว่าไม่ทำอะไรรับรองได้เป็นปลัดกระทรวงแน่ เพราะแค่เริ่มทำอะไรเดี๋ยวก็ถูกสอบแล้ว ซึ่งอันนี้น่ากังวลเพราะถ้ามีการตรวจสอบลึกต้องมองว่าคนทำเขาไม่ได้อะไร เงินเขาก็ได้เท่าเก่า เขาจะทำหรือไม่ทำก็ได้เท่าเก่า ถ้ามองในแง่ที่คนนั้นจะได้ประโยชน์ตรงนั้นตรงนี้โครงการเหล่านี้จะช้ามากแล้วสุดท้ายประเทศก็จะไม่สามารถที่แข่งขันได้ จะเป็นประเทศที่ค่อยๆพัฒนาช้าเหมือนประเทศเพื่อนบ้านในสมัยก่อนๆ"
รมว.คลัง กล่าวอีกว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจะเรียกประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในวันพุธที่ 5 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว(ดอนเมือง) ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่ 5 พ.ย.นายกรัฐมนตรีจะเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจกต์ในส่วนที่มีความสำคัญ 3 เรื่องได้แก่ โครงการรถไฟฟ้า 3 สาย โครงการลงทุนด้านการศึกษาและสาธารณสุข และโครงการด้าน แหล่งน้ำเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
นายสุชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศว่าคนในชาติของเราก็เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น ถ้าเราดูน้องชายน้องสาวเราในแง่ลบก็จะมีเรื่องลบเยอะแยะจนอยู่ร่วมกันไม่ได้ในครอบครัว แล้วถ้าเขาดูเราก็เหมือนกันมีเรื่องแย่ๆตั้งเยอะ แต่ถ้าในครอบครัวเราไม่ได้ดูอย่างนั้น แต่ดูข้อดีระหว่างกัน ส่วนข้อเสียลืมๆไป ครอบครัวเราถึงอยู่ได้ดีเจริญรุ่งเรืองได้
‘เช่นเดียวกับประเทศเราต้องคิดว่านี่คือประเทศของเราทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบประเทศ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง และถ้ามีข้อจำกัดอะไรเยอะแยะคนอื่นก็ไม่มาเหลียวแล เพราะประเทศมีตั้งร้อยกว่าประเทศที่เขาจะไปเที่ยวไปติดต่ออะไรต่อมิอะไร เราก็จะพัฒนาช้าล้าหลังเพราะคนอื่นไปข้างหน้า วันหนึ่งเรานึกขึ้นมาได้ว่า50ปีให้หลังแล้วเราก็จะมาถามว่าทำไมเราจนกว่าคนอื่น ทั้งที่เราเคยรวยกว่าคนอื่น แล้วเวลาของการพัฒนาก็หมดไป เราก็แก่ลงไปในระหว่างนั้น เราไม่ได้อยู่ สิ่งเหล่านี้ก็จะต้องกลับมาคิดมาดูแลกัน’
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า เพื่อนบ้านของเราบางประเทศในแหลมทองเคยเจริญรุ่งเรืองกว่าเรา แล้วเขาอยู่เฉยๆ 50 ปีวันนี้ยังจนอยู่ นอกจากนี้ด้านอินโดจีนเขาก็เคยมีปัญหา แต่ปัจจุบันเขาเลิกฮิตแล้วในเรื่องของการเอาปืนยิงกัน อย่างเช่นในเวียดนามและกัมพูชา เขาเลิกแล้ว เขาช่วยกันขายเฝอและไม่ได้มองความแตกต่างแต่เขาช่วยกันทำ
นายสุชาติ กล่าวว่าเดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวหายไปเยอะเลยตนก็สงสารนายวีรศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะหลายประเทศในภูมิภาคนี้เขาแนะนำคนเขาว่าเมืองไทยมีข้อจำกัดอะไรบ้าง ซึ่งประเทศที่เขาแนะนำนักท่องเที่ยวของเขาก็มีจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แล้วเขาได้ยินคำแนะนำเขาก็ไม่มา ซึ่งถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เลิกแนะนำ
‘ผมว่าเมืองไทยยังมีปัญหา ก็เรียนให้รมต.ท่องเที่ยวว่าให้บินไปคุยระดับรัฐมนตรี แต่ว่าคุยเสร็จแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิก ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมาคนที่ทำท่องเที่ยวก็จะเห็นว่าจีนไม่มาเลย เป็นเพราะมันยังมีข้อที่เขายังไม่แนะนำ ทั้งที่รายได้ท่องเที่ยวแทบไม่ต้องทำอะไรเลย 100 บาทที่เขาจ่ายก็เป็นของที่เรามีอยู่แล้วเราไม่ต้องมีต้นทุนเลย ซึ่งในภูมิภาคนี้ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆของคนที่จะมาเที่ยว อันนี้ผมก็เสียดายต้นทุนก็ไม่มี รายได้ก็เยอะ’
อย่างไรก็ตามมาตรการดูแลและกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีการคุ้มครองเงินฝาก3ปี ดูแลสภาพคล่อง ดูแลเรื่อง SME เพิ่มงบประมาณแสนล้าน ดูแลกองทุนหมู่บ้าน ดูแลเรื่องเอสเอ็มแอล รวมทั้งจะดูแลโอท็อปให้กลับมามีชีวิตใหม่ ซึ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐบาลทำได้
นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลไหนมา ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลนี้ หรือฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาลต้องดูแลระบอบประชาธิปไตยเหล่านี้ให้ได้ทำงาน ระบอบประชาธิปไตยที่มีตัวแทนประชาชนผ่านการเลือกตั้ง เพราะส.ส.ก็คือตัวแทนของประชาชน ประชาชนในพื้นที่หนึ่งเขาเรียนหนังสือได้แค่นี้ ฐานะเขาอย่างนี้เขาก็เลือกตัวแทนเขาอย่างนี้ จะให้จบปริญญาเอกทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ เพราะนั่นไม่ใช่ระบบตัวแทน
‘ระบบตัวแทนที่เป็นอยู่อย่างนี้ถูกแล้ว เขามาเป็นตัวแทนของกลุ่มนี้เขามีความรู้อย่างนี้ถูกแล้ว แล้วมาเขาก็มีสิทธิ์มีเสียงถ้าประเทศเราเล็กๆทุกคนเขาก็มาอยู่ในสภาได้ อย่างสวิสเซอร์แลนด์ทุกคนก็ไปอยู่ในสภาได้ แล้วก็ไปลงความเห็นกัน การศึกษาต่างกัน ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงวันแมนวันโหวต แล้วระบบนี้มันก็ต้องเป็นอย่างนี้ และวันนี้ก็ดีกว่า 70ปีที่แล้ว ถ้าปล่อยต่อไปยังงี้มันก็จะดี แล้วเรื่องไม่โปร่งใสคอรัปชั่นมันก็คงมี และอีกหน่อยก็เหมือนอมริกา ยุโรปที่ประชาชนเอาเงินมาใส่กล่องให้คุณโอบาม่า คุณแมคเคนไปหาเสียงเลือกตั้งแล้วก็ขึ้นมาทำงานเพื่อคนที่ส่งเขามา ระบบจะเป็นอย่างนั้นจะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับคนในชาติถ้ามันมีปัญหาเรื่อยๆมันก็จะช้าแล้วประเทศก็จะพัฒนา ดังนั้นจะเห็นได้ว่าระดับการพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับการพัฒนาประชาธิปไตยเห็นๆอยู่แล้ว’