“นายกฯ”เดินตามรอยประชานิยมของ"ทักษิณ” ทั้ง "กองทุนหมู่บ้าน-โอท็อป"หว่านเงินล่วงหน้าขยายวงเงินSML เป็น 1.5 - 2 ล้านบาท ไล่จี้หน่วยงานรัฐเร่งเบิกใช้งบประมาณ ฟุ้งหวังกระตุ้นเศรษฐกิจได้
วานนี้ (29) นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการการบูรณาการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์(โอท็อป) และเอสเอ็มแอล โดยมีนาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี นาย สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยก่อนเปิดประชุม นายกรัฐมนตรีได้พูดผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ของศูนย์เครือข่ายถ่ายทอดความรู้ไปยังที่ว่าการอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตอนหนึ่งว่า ต้องขอบคุณนายอำเภอที่ทำให้โครงการทั้งเอสเอ็มแอล โอท็อป และกทบ.ประสบผลสำเร็จ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน เพราะถือว่าการทำงานดังกล่าว เป็นเรื่องของชุมชนและหมู่บ้าน ประชาชนจะต้องได้รับการสนับสนุนจากโครงการต่างๆ ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งตนดีใจที่โครงการเหล่านี้ ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ สามารถเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ลดรายจ่าย อย่างไรก็ตาม ขอให้นายอำเภอช่วยดูแลอย่ามีปัญหาการรั่วไหลของเงิน เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน ซึ่งรัฐบาลก็จะติดตามไปเรื่อยๆ
นายสมชาย แถลงว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสู่ระดับรากหญ้าครั้งนี้ ได้เน้นย้ำ 3 เรื่องสำคัญ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ประกอบด้วย กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(กทบ.) ในการสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น โดยอาจขยายวงเงินออกไปเป็น 1.5 - 2 ล้านบาทได้ และจะส่งเงินพัฒนาชุมชนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแล และจะให้งบประมาณเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริงโดยโปร่งใส ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นฝ่ายติดตามดูแล รวมถึงโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) ที่จะเน้นการผลิตสินค้าอย่างมีคุณภาพ รวมถึงจัดงานโอท็อปซิตี้ เป็นครั้งคราว ตามงานเทศกาลต่างๆ ด้วย
" ปัญหาของเราทุกวันนี้ ยังมีอีกมากมาย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่ยังรุมเร้าอย่างสาหัส จึงได้เชิญทุกฝ่ายมาระดมความเห็นเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ ดังนั้น เพื่อให้ระบบเดินไปได้ อยากให้ทุกหน่วยงานเร่งใช้จ่ายงบประมาณ อย่านิ่งนอนใจ และให้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีเงินหุมนเวียนในตลาด ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่เราช่วยกันระดมความเห็นวันนี้ ทั้งเอสเอ็มแอล กองทุนหมู่บ้าน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็อยากให้นำไปปฏิบัติได้จริง "นายสมชายกล่าว
ด้านนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้แกนนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้กำหนดกรอบการเร่งรัดเบิกจ่ายเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เพราะส่วนหนึ่ง ไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจของโลก และประชาชนก็ไม่มั่นใจด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นาย สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจ ได้จดรายชื่อกระทรวงและหน่วยงานที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ หรือใช้จ่ายงบประมาณล่าช้า ให้เร่งขับเคลื่อนเบิกจ่าย อย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกหลังจากนี้ ที่เราจะมีโอกาสฝ่าวิกฤตทางการเงินและสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า ได้มีชมรมสมาชิกรัฐสภารักสตรีไทย ประมาณ 10 คน เดินทางมามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจต่อนายกรัฐมนตรี
วานนี้ (29) นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการการบูรณาการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์(โอท็อป) และเอสเอ็มแอล โดยมีนาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี นาย สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยก่อนเปิดประชุม นายกรัฐมนตรีได้พูดผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ของศูนย์เครือข่ายถ่ายทอดความรู้ไปยังที่ว่าการอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตอนหนึ่งว่า ต้องขอบคุณนายอำเภอที่ทำให้โครงการทั้งเอสเอ็มแอล โอท็อป และกทบ.ประสบผลสำเร็จ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน เพราะถือว่าการทำงานดังกล่าว เป็นเรื่องของชุมชนและหมู่บ้าน ประชาชนจะต้องได้รับการสนับสนุนจากโครงการต่างๆ ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ซึ่งตนดีใจที่โครงการเหล่านี้ ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ สามารถเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ลดรายจ่าย อย่างไรก็ตาม ขอให้นายอำเภอช่วยดูแลอย่ามีปัญหาการรั่วไหลของเงิน เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน ซึ่งรัฐบาลก็จะติดตามไปเรื่อยๆ
นายสมชาย แถลงว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสู่ระดับรากหญ้าครั้งนี้ ได้เน้นย้ำ 3 เรื่องสำคัญ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ประกอบด้วย กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(กทบ.) ในการสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น โดยอาจขยายวงเงินออกไปเป็น 1.5 - 2 ล้านบาทได้ และจะส่งเงินพัฒนาชุมชนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแล และจะให้งบประมาณเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริงโดยโปร่งใส ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นฝ่ายติดตามดูแล รวมถึงโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) ที่จะเน้นการผลิตสินค้าอย่างมีคุณภาพ รวมถึงจัดงานโอท็อปซิตี้ เป็นครั้งคราว ตามงานเทศกาลต่างๆ ด้วย
" ปัญหาของเราทุกวันนี้ ยังมีอีกมากมาย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่ยังรุมเร้าอย่างสาหัส จึงได้เชิญทุกฝ่ายมาระดมความเห็นเพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ ดังนั้น เพื่อให้ระบบเดินไปได้ อยากให้ทุกหน่วยงานเร่งใช้จ่ายงบประมาณ อย่านิ่งนอนใจ และให้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีเงินหุมนเวียนในตลาด ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่เราช่วยกันระดมความเห็นวันนี้ ทั้งเอสเอ็มแอล กองทุนหมู่บ้าน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็อยากให้นำไปปฏิบัติได้จริง "นายสมชายกล่าว
ด้านนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้แกนนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้กำหนดกรอบการเร่งรัดเบิกจ่ายเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เพราะส่วนหนึ่ง ไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจของโลก และประชาชนก็ไม่มั่นใจด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันขับเคลื่อนนโยบายให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นาย สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจ ได้จดรายชื่อกระทรวงและหน่วยงานที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ หรือใช้จ่ายงบประมาณล่าช้า ให้เร่งขับเคลื่อนเบิกจ่าย อย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกหลังจากนี้ ที่เราจะมีโอกาสฝ่าวิกฤตทางการเงินและสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่า ได้มีชมรมสมาชิกรัฐสภารักสตรีไทย ประมาณ 10 คน เดินทางมามอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจต่อนายกรัฐมนตรี