เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์รับประทานอาหารเย็นกับเพื่อนศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรุ่น 87 (เข้าปี 2511 ออกปี 2515) หรือเรียกกันย่อ ๆ ว่า “ส.ก. 87” กลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความคิดทางการเมืองยืนอยู่ข้างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีอดีตอาจารย์ของเราท่านหนึ่งที่อยู่แนวหน้าของที่ชุมนุมชนิดไม่ได้ขาดมา 3 ปีให้เกียรติร่วมด้วย หนึ่งในหัวข้อที่สนทนากันคือความเปลี่ยนแปลงในตัวเพื่อนเราคนสำคัญ....
อ๋อย – จาตุรนต์ ฉายแสง !
หลายคนสงสัยว่าไฉนเพื่อนอ๋อยที่เคยระวังรักษาตัวมาโดยตลอดให้มีภาพลักษณ์ประนีประนอมมีเหตุมีผลถึงได้แปรเปลี่ยนมาปรากฏตัวใส่เสื้อสีแดงร่วมรายการ “ความจริงวันนี้สัญจร” ครั้งแรกที่เมืองทองธานีร่วมกับกลุ่มสามเกลอ
วันนั้นผมยังไม่ชัดเจนนัก แต่วันนี้อยากจะฟันธงลงไปว่างานนี้ที่เพื่อนลงแรงแสดงตัวเลือกข้างชัดเจน นอกเหนือจากเหตุผลสวยงามที่อ้างแล้วก็เพราะมองไกล ! ไกลแค่ไหนหรือ ? ก็ไกลถึงตำแหน่ง...
นายกรัฐมนตรีประเทศไทย !
ด้วยพลัง “เสียงข้างมากลากไป” ของการเมืองเก่า และการตัดสินใจไม่รัฐประหาร – ไม่ว่าจะรูปแบบใด - ของผบ.ทบ.คนนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงสำเร็จได้ไม่ยาก หรือถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เสียหายเท่าไรนัก แต่สุดท้ายสถานการณ์จะไปจบลงที่การเลือกตั้งทั่วไป แล้วผลก็จะออกมาเหมือนเดิมคือเผ่าพันธุ์พรรคไทยรักไทยจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ อาจจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเสียด้วยซ้ำ
ถึงเวลานั้น การนิรโทษกรรมสมาชิกบ้านเลขที่ 111 คงไม่ยาก
หรือถ้าสถานการณ์ผันแปร มีการประนีประนอมในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง การนิรโทษกรรม “ทุกฝ่าย” ก็จะส่งผลอีหรอบเดียวกัน และการเมืองก็จะไปสิ้นสุดที่การเลือกตั้งทั่วไปอยู่ดี หรือต่อให้มีการนิรโทษฯเลย โทษเว้นวรรค 5 ปีขณะนี้ก็เดินหน้าไปแล้วปีเศษ ๆ
แม้โอกาสที่ผบ.ทบ.จะตัดสินใจใหม่เรื่องรัฐประหารรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หรือ “หยุดการใช้อำนาจรัฐ” อาจจะเกิดขึ้นได้หากเกิดการสูญเสียชีวิตประชาชนขึ้นอีกเหมือนวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ยังมีความเป็นไปได้ แต่การชุมนุมมวลชนเสื้อแดงในลักษณะโชว์พลังทำนอง “สวนสนาม” ก็น่าจะทำให้ผบ.ทบ.คนนี้ที่ปกติคิดนานอยู่แล้วมีอันต้องคิดนานยิ่งขึ้นไปอีก เพราะถ้าตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งแทนที่จะลอยตัวอยู่เฉย ๆ ก็ไม่น่าจะหลีก เลี่ยงอนาคตของความเป็นคนมือเปื้อนเลือดพ้น ไม่ง่ายเหมือน 19 กันยายน 2549 แน่
เพื่อนผมน่าจะดีดลูกคิดรางแก้วดูแล้วเห็นว่าถึงเวลาจะต้องแสดงตัวแสดงบทบาท “วีรบุรุษนักประชาธิปไตย” เสียแต่เนิ่น ๆ
มวลชนคนเสื้อแดงขณะนี้ไม่ได้บริหารจัดการโดยเนวิน ชิดชอบ ส.ก.รุ่นน้อง 3 ปีอีกต่อไป
อาจจะเพราะเนวิน ชิดชอบไม่อยากจะเข้ามายุ่งกับแนวทางล่อแหลมหมิ่นเหม่ต่อการกระทบสถาบันเบื้องสูง หรือเพราะระยะเป็นหลักในแก๊งออฟโฟร์สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวชทำให้ได้สนิทกับผบ.ทบ.ในระดับหนึ่ง หรือเพราะมีอนาคตในการเลือกตั้งกับกลุ่มก้อนของตัวเองดีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นไปในลักษณะมุ้งหนึ่งในเผ่าพันธุ์ไทยรักไทยหรือแยกมุ้งออกมา หรือผสมผสานกันทุกเหตุผล แต่ผลก็คือขณะนี้งานมวลชนของคนเสื้อแดงน่าจะอยู่ในฝีมือบริหารจัดการของ...
หมอมิ้ง – นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช !
เพื่อน ส.ก. 87 อีกคนหนึ่งที่เป็นมันสมองให้พ.ต.ท.ทักษิณ – คุณหญิงพจนาน ชินวัตรมานาน
หมอมิ้งวางแผนสร้างพรรคเพื่อไทยอยู่ขณะนี้อย่างเข้มข้น เมื่อมาได้บริหารจัดการงานมวลชนเต็มรูปเข้าไปอีก ทำให้เพื่อนมีความมั่นใจมากว่า “ชัยชนะเบ็ดเสร็จของประชาชน” ในมุมมองของตนอยู่ไม่ไกล
“ชัยชนะเบ็ดเสร็จของประชาชน” ครั้งนี้ใกล้กว่าเมื่อครั้งหมอมิ้งแปรตัวเองเป็น “สหายจรัส” จับปืนเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยเขตงานอีสานใต้เสียอีก !
ทำไมอ๋อยจะเข้ามาผสานมือกับหมอมิ้งร่วมออกแบบการเมืองทั้งในระบบและนอกระบบไม่ได้
นอกจากเห็น “จุดร่วม” ที่เข้าไปทำงานให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเหมือนกัน และเป็นเพื่อน ส.ก. 87 กันมานานวันแล้ว
กาลครั้งหนึ่งเมื่อหมอมิ้งจับปืนร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์เขตอีสานใต้ใช้ชื่อจัดตั้งว่า “สหายจรัส” อ๋อยเองก็เข้าป่าจับปืนใช้ชื่อจัดตั้งว่า “สหายสุภาพ” อยู่เขตงานทางเหนือ
สรุปก็คือทัพหลักของเผ่าพันธุ์ไทยรักไทยขณะนี้ร่วมบริหารโดย 2 สหายที่เคยจับปืนหวังยึดอำนาจรัฐเปลี่ยนระบอบการปกครองประเทศมาด้วยกัน
สหายสุภาพ + สหายจรัส !
มันสมองและมือเท้าระดับแกนที่อยู่ในขบวนนี้ยังมีอีกหลายสหาย บางคนเป็นนักเคลื่อนไหวมวลชน บางคนในนักวิชาการในรั้วจามจุรีที่มีผลงานโดดเด่นในเว็บไซต์ รวมทั้ง “สหายแผ้ว” จรัล ดิษฐาอภิชัย เอ็นไซโคลปีเดียเคลื่อนที่ในประเด็น “การปฏิวัติฝรั่งเศส” คนนั้น และสมยศ พฤกษาเกษมสุข
ขบวนนี้ด้านเปิดจะเน้นงาน “ตีปลาหน้าไซ” และ “สวนสนาม” ต่อต้านรัฐประหาร เพื่อให้ผบ.ทบ.คิดหนัก
ส่วนด้านปิดเน้นอะไรผมคงเขียนตรงนี้ไม่ได้ ท่านผู้อ่านวิเคราะห์ดูเอง
เชื่อมโยงไปสู่กลุ่ม 3 เกลอที่มี “หน้าร้าน” เป็นจอ NBT และรายการความจริงวันนี้สัญจร รวมทั้งปากของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เสียดายที่สหายคนหนึ่ง “เลยธง” ไปเสียก่อนเลยต้องหนีหมายจับข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปพำนักนอกประเทศก่อน
สหายสมชาย – ชูชีพ ชีวสุทธิ์ !
อีกหนึ่งฮาร์ดคอร์จากเขตงานอีสานใต้เพื่อนรักเพื่อนเกลอกับหมอมิ้งที่ออกมาเคลื่อนไหวเปิดเผยตั้งแต่กลางปี 2549
อ้อ “สหายเข้ม” นพ.เหวง โตจิราการ ดูเหมือนจะถอยออกไประดับหนึ่ง เพราะหลาย ๆ “ลุง” ผู้อาวุโสในอดีตพรรคคอมมิวนิสต์ไทยติงและเตือนว่าแนวทางของขบวนนี้ล่อแหลมและสุ่มเสี่ยง
อ๋อยเป็นคนมีเพื่อนมาก เพราะความสุภาพ (สมชื่อจัดตั้งสมัยจับปืนจริง ๆ) มีเหตุมีผล เมื่อเข้ามาจับมือกับหมอมิ้ง ก็จะมีกลุ่มเพื่อนอ๋อยที่เป็นอดีตสหายชำนาญงานมวลชนจำนวนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือด้วย บางคนมีทุนติดไม้ติดมือมาบ้าง
ง้องแง้งอย่างสมชาย วงศ์สวัสด์ยังเป็นนายกฯได้ ถ้าเพื่อนอ๋อยของผมไม่ตั้งเป้าคิดเป็นนายกฯก็ผิดวิสัยคนทำงานการเมือง
แต่จะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ หากไม่พูดถึงฝั่งพันธมิตรฯแล้ว เฉพาะคนในขบวนเดียวกันก็ยังต้องถามไถ่คนอีกอย่างน้อย 3 คน
คนหนึ่ง – ยงยุทธ ติยะไพรัช, อีกคนหนึ่ง – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ; 2 คนนี้ร่วมอยู่ในขบวนปัจจุบันด้วยกัน !
และคนสุดท้าย – เนวิน ชิดชอบ ; คนนี้ด้านหนึ่งร่วมอีกด้านเริ่มห่างออกไปบ้าง !!