“เทพไท” ตอกหน้าสามเกลอหัวกลม เคลื่อนไหวเพื่อหวังต่อรองทางการเมือง เชื่อ พปช.เรียกร้อง “ป๋าเปรม” เป็นคนกลางแค่โยนหินถามทาง ลั่นคนไทยไม่เคยกลัว “ทักษิณ” แต่เกรงประเทศจะเสียหาย แฉรัฐบาล-ความจริงวันนี้-นปช.แก๊งเดียวกัน
วันนี้ (31 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจัดรายการความจริงวันนี้เพื่อต้านรัฐประหาร ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลาฯ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโฟนอินเข้ามาว่า เป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศเพราะได้มีการใช้สื่อของรัฐอย่างเอ็นบีทีโฆษณามาตลอด คาดการณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินมาอย่างแน่นอน ซึ่งไม่มีใครห้าม พ.ต.ท.ทักษิณให้หยุดโฟนอินได้ แม้กระทั่งตัวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีเองก็ยังไม่กล้าที่จะไปขอร้อง พ.ต.ท.ทักษิณได้ โดยอ้างว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ความเป็นน้องเขยไม่สามารถไปร้องขอพี่เมียได้ นับประสาอะไรกับ ผบ.เหล่าทัพ หรือบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่ได้แสดงความวิตกกังวลออกมาตลอดเวลา
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมาแสดงความเห็นว่าคนที่ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมาเป็นพวกวิตกจริตหรือกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นความเข้าใจผิด และหลงตัวเองของสมาชิกพรรคพลังประชาชน เพราะในบ้านเมืองนี้คงไม่มีใครกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กลัวบ้านเมืองจะเสียหายด้วยการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ความจริงแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยึดเอาผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าประโยชน์ชาติ และการโฟนอินดังกล่าวก็เป็นการพูดแก้ตัว ให้คนในชาตินั้นเกิดความสงสารในความสมเพชของตนเอง
“จริงอยู่ในวันดังกล่าวไม่ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านเอ็นบีทีโดยตรง แต่เชื่อว่าเป้าประสงค์รายการนี้ต้องการให้มีการถ่ายทอดสดทางอ้อม โดยใช้สื่อโทรทัศน์ช่องต่างๆ ไปรายงานข่าวสดในสนามราชมังคลาฯอย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า การที่กลุ่มสามเกลอหัวกลมแถลงว่าเป้าหมายของการจัดงานครั้งนี้ เป็นรายการความจริงวันนี้เพื่อต้านรัฐประหารนั้น เป็นการจัดรายการอำพรางและซ่อนเร้นเป้าหมายที่แท้จริงของคณะบุคคลเหล่านี้ ที่ใช้การจัดงานต้านรัฐประหารบังหน้า ทั้งๆ ที่การเคลื่อนไหวของตัวเองเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารต่างหาก แต่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่ผ่านมาเพื่อต่อรองทางการเมือง และเป็นเครื่องมือให้กับทางรัฐบาล โดยมีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และคนทั้งหมดมีรัฐบาลหนุนหลัง และเป็นพวกเดียวกันอย่างแก้ไม่ออก เพราะข้อเสนอของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พปช.แกนนำกลุ่ม นปช.ที่ระบุว่า ถ้ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสลายตัว รายการความจริงวันนี้ก็จะหยุดชุมนุมทันที รวมถึงหากเอเอสทีวีหยุดออกอากาศก็จะเลิกรายการความจริงวันนี้ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นกำพืดของคนเหล่านี้ว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นการต่อรองทางการเมืองเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทย และสมาชิกพรรคพลังประชาชน นำเสนอชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ขึ้นมาเป็นคนกลางในการเจรจาว่า น่าจะเป็นเรื่องของการโยนหินถามทางหรือหยั่งกระแสสังคมของคนเหล่านี้มากกว่า เพราะดูจากความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชาชนแล้วยังเห็นว่ายังมีความแตกแยกทางความคิดจากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ออกมาคัดค้านไม่ให้มีการตั้งคนกลางมาเจรจา หรือนายจตุพร ก็ยังถามหาความเป็นกลางของ พล.อ.เปรม อยู่ว่ามีความเป็นกลางหรือไม่ แม้กระทั่ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ ก็ยังมีความต้องการให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มาเป็นคนกลางเสียเอง ดังนั้น ข้อเสนอที่จะให้ พล.อ.เปรม มาเป็นคนกลางดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเรื่องที่จริงจังหรือหวังผล จากกลุ่มคนของพรรคพลังประชาชน เพียงแต่เป็นการแสดงให้สังคมเห็นว่า ตัวเองต้องการเสนอทางออกให้กับสังคมเพื่อให้สังคมเกิดความสมานฉันท์ และแก้ปัญหาวิกฤติที่เกิดขึ้นได้
“อยากเรียกร้องให้กลุ่มคนเหล่านี้กลับไปพิจารณาดูว่าปัญหาของบ้านเมืองขณะนี้คืออะไร และก็แก้ให้ตรงจุด ก็จะเกิดความสำเร็จได้ ถ้าหากยังไม่รู้ก็จะบอกให้ทราบว่า ปัญหาของบ้านเมืองในขณะนี้ก็คือ รัฐบาลของนายสมชาย บอกให้รัฐบาลสมชายออกไป ทุกอย่างก็จบ”