xs
xsm
sm
md
lg

อภิสิทธิ์ฝันแม้วสารภาพผิดผ่าน“ความจริงวันนี้”-เสธ.ชูพปช.-ปชป.ตั้งรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านรายการความจริงวันนี้ในวันที่ 1 พ.ย.หวังว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาแล้วจะพูดความจริง สารภาพผิดว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไปและยอมรับคำสั่งของศาลที่พิพากษาให้จำคุก หากเป็นเช่นนี้ เชื่อว่าปัญหาต่าง ๆ น่าจะยุติ สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย ทั้งนี้ตนจะรอดูท่าทีของรัฐบาลในการดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้พูดในสภาฯว่ามาจากกระบวนการยุติธรรม ต้องการปกป้องกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นถ้าปล่อยให้คนที่ศาลตัดสินว่ากระทำผิดมาให้ร้ายกระบวนการยุติธรรม แล้วยังเพิกเฉย ก็คงต้องพิจารณาถึงมาตรการที่จะดำเนินการต่อไป
ถ้าคิดถึงประเทศชาติ คุณทักษิณก็ควรต้องพูดความจริง ยอมรับว่าตัวเองก็รู้ว่าทำอะไรไป อย่างคดีความจะปฏิเสธตรงไหนว่า ไม่ได้เป็นสามี คุณหญิงพจมาน หรือคุณหญิงพจมานไม่ได้ไปยื่นซื้อที่ดินรัชดาฯ และ ป.ป.ช. มีกฎหมายห้ามจะปฏิเสธตรงไหน ก็พูดความจริง ถ้าคุณทักษิณอยากช่วยประเทศ ก็โฟนอินเข้ามาบอกว่าบัดนี้รู้แล้วว่าทำผิดไป และจะพยายามทำใจมารับผิด และขอให้ทุกคนสงบ ยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่ดีที่สุด ถ้าคิดถึงบ้านเมือง ก็ต้องพูดอย่างนี้ ถ้าพูดเป็นอื่นแล้วสร้างความขัดแย้งก็แปลว่าคิดถึงแต่ตัวเอง
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเสนอให้นายกรัฐมนตรีปรับ ครม.เพื่อคลี่คลายสถานการณ์นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเครื่องหมายคำถามกับบทบาทของรัฐบาลโดยรวม เพราะการตอบกระทู้ของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้มีคำถามมากขึ้น เพราะนอกจาก ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ยังแสดงการ หลีกเลี่ยงการบอกกล่าวข้อเท็จจริง ไม่มีการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งทำให้ตรงนี้เป็นปัญหา
รวมถึงคำตอบที่พยายามยืนยันว่าตัวเองได้พยายามระงับยับยั้งคนของรัฐบาลในการดำเนินการ แต่สาธารณชนมองเห็นบทบาทตรงนี้อย่างชัดเจน ความเชื่อถือ เชื่อมั่นในรัฐบาลจึงไม่เกิด ดังนั้นคิดว่าการปรับ ครม. ไม่ใช่เรื่องหลักในตอนนี้ เพราะมีเงื่อนไขในความขัดแย้งอื่นที่ต้องเร่งแก้ไขก่อน ความพยายามดึงดันจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ควรต้องยุติก่อนหรือไม่ การปรับบทบาทของคนในรัฐบาล และสื่อของรัฐในการเผยแพร่รายการความจริงวันนี้ ถือว่าตรงนี้สำคัญกว่า
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าอาจจะมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นได้อีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกวันที่ผ่านไปมีแต่ความเสี่ยง แต่นายกรัฐมนตรียังเฉย ไม่เข้าใจว่าเหตุใด จึงได้พึงพอใจกับการที่ประเทศและชีวิตของประชาชนเสี่ยงเช่นนี้ อย่างไรก็ตามหวังว่าสถานการณ์ในช่วงนี้จะไม่เลวร้ายลงเหมือนที่หลายคนวิตกกัน และคงจะดูว่า ช่องทางต่าง ๆ ที่ฝ่ายค้านทำได้คืออะไร ซึ่งเบื้องต้นคงต้องเร่งรัดองค์กรต่าง ๆ ที่สอบสวนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้เร่งสรุปผล เพราะคิดว่าประชาชน ต้องการคำตอบในเรื่องนี้ และต้องการเห็นความรับผิดชอบ ซึ่งเชื่อว่าจะคลี่คลายเงื่อนไขของความขัดแย้งลงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากผลสอบสวนโยงไม่ถึงตัวนายกรัฐมนตรีดังนั้นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่วว่า เรื่องความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี หลายคนได้พูดไปแล้วว่าถ้าคนมีจิตวิญญาณของนักประชาธิปไตย ก็คงแสดงความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าผลการสอบสวนจะออกมาอย่างไร ต้องรอดูก่อน
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษา พรรรชาติไทย เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะโฟนอินมาในรายการ ความจริงวันนี้สัญจร อาจพูดให้ยุติความแตกแยกก็ได้ ทั้งนี้เห็นว่าหากความขัดแย้งบานปลายบ้านเมืองก็จะอันตราย ภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวก็จะกระทบไปหมด แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะมีวุฒิภาวะพอไม่พูดจาอะไรให้เกิดความแตกแยก เพราะ
พล.ต.สนั่น ยังได้เสนอแนวทางด้วยว่าอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน และให้บริหารประเทศในเวลาที่เหลือ 3 ปี และให้พรรคอื่นๆ เป็นฝ่ายค้าน เชื่อว่าปัญหาจะจบ ส่วนกลุ่ม นปช.และพันธมิตรฯ ก็สามารถเสนอปัญหาต่างๆ ให้แก้ไขได้ โดยพรรคชาติไทยนั้นยังไม่ได้หารือกับหัวหน้าพรรค แต่ก็เชื่อว่าคงจะยินดีเป็นฝ่ายค้านหากทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุขได้
นาย เทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการจัดรายการความจริงวันนี้ในวันที่ 1 พ.ย. โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามา เป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศเพราะใช้สถานีโทรทัศน์ NBT สื่อของรัฐโฆษณามาตลอด คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินแน่นอนเพราะไม่มีใครห้ามได้แม้แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีเองเพราะไม่กล้าไปขอร้อง
จริงอยู่ในวันดังกล่าวไม่ได้มีการถ่ายทอดสดผ่าน NBT โดยตรง แต่เชื่อว่า เป้าประสงค์รายการนี้ต้องการให้มีการถ่ายทอดสดทางอ้อม โดยใช้สื่อโทรทัศน์ช่อง ต่างๆไปรายงานข่าวสดในสนามราชมังคลาฯอย่างแน่นอน
นายเทพไท กล่าวว่าการที่กลุ่มสามเกลอหัวกลมอ้างว่าจัดรายการเพื่อต่อต้านรัฐประหารเป็นการอำพรางและซ่อนเร้นเป้าหมายที่แท้จริง เพราะการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารแต่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่ผ่านมาเพื่อต่อรองทางการเมืองและเป็นเครื่องมือให้กับรัฐบาลโดยมี นปช.และคนทั้งหมดมีรัฐบาลหนุนหลัง เพราะข้อเสนอของนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดสวน พรรคพลังประชาชนที่บอกว่าถ้ากลุ่มพันธมิตรฯสลายตัว รายการก็จะหยุดทันที หรือหาก ASTV หยุดออกอากาศก็จะเลิกรายการความจริงวันนี้ ทั้งหมดเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงกำพืดของคนเหล่านี้ว่า การเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นการต่อรองทางการเมืองเท่านั้นเอง
นายเทพไท กล่าวว่าการที่กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่อ้างว่าเป็นกลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทยเสนอให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นคนกลางในการเจรจายุติปัญหานั้น จะเห็นว่า การเคลื่อนไหวของส.ส.พรรคพลังประชาชนยังมีความแตกแยก ทางความคิดจาก หลายส่วน เพราะพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ กลับเสนอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.มาเป็นคนกลาง แต่อยากเรียกร้องให้คนเหล่านี้กลับไปดูว่าปัญหาของบ้านเมืองขณะนี้คืออะไร ปัญหาก็คือรัฐบาลนายสมชาย ถ้าบอกให้รัฐบาลนายสมชาย ออกไปทุกอย่างก็จบ
กำลังโหลดความคิดเห็น