“สามเกลอหัวขวด” หนีบ “เจ๊เพ็ญ” ประกาศลั่นเป็นโต้โผใหญ่ระดมพลเสื้อแดง ปลุดระดมม็อบกลางกรุง ใช้สัญลักษณ์ “นายใหญ่” เป็นโลโก้กวักมือเรียกบรรดาเหล่าสาวกร่วมงานเรือนแสน ฟุ้งโฟนอินสายตรงจากลอนดอน
วันนี้ (27 ต.ค.) ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพีงเกษ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานความจริงวันนี้ในวันที่ 1 พ.ย.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยผู้แถลงข่าวครั้งนี้ทุกคนต่างสวมเสื้อสีแดง
นายวีระ กล่าวว่า การจัดงานเพื่อต้องการให้การเมืองเปลี่ยนแปลงไปตามระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่การรัฐประหาร ขอให้การรัฐประหาร 19 ก.ย.เป็นครั้งสุดท้ายในประเทศไทย การชุมนุมครั้งนี้ยึดหลักประชาธิปไตย ชุมนุมโดยสงบสันติ โดยมีเป้าหมายต้านรัฐประหาร ขอเชิญชวนผู้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาร่วมงาน ไม่อยากให้ใช้ระบอบประชาธิปไตยมาประหัตประหารกัน โดยงานเริ่มเวลา 15.00-22.00 น. และจะมีการเปิดให้เข้างานตั้งแต่เวลา 13.00 น. เพื่อตรวจตราอาวุธ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับการชุมนุมว่าจะสร้างความปั่นป่วนต่อบ้านเมืองจนมีการปะทะกันกับฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ เพราะพวกเรานิยมสันติประชาธิปไตยใช้เหตุผลไม่ใช้กำลัง อีกทั้งยังอยากท้าพิสูจน์ว่าคนที่รักประชาธิปไตยจะมาชุมนุมงานนี้นับแสนคนโดยสันติวิธี นอกจากนี้ เรายังมีความพยายามเชิญนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะมาได้หรือไม่
นายวีระ กล่าวว่า ได้มีกลุ่มพราหมณ์ที่มีเชื้อสายเก่าแก่จาก จ.นครศรีธรรมราช ติดต่อขอเข้าร่วมงานด้วย โดยจะขอพื้นที่บางส่วนทำปริยัติอ่านพระเวท พร้อมทั้งแจกท้าวจตุคามรามเทพ ซึ่งใครรับไปให้เงินหรือรับฟรีก็ได้ โดยเงินที่ได้จะไปร่วมทุนเกี่ยวกับประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า กลุ่มสันติธรรมออกมาแถลงอยากให้หลายฝ่ายยุติการสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความรุนแรง นายวีระ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเคารพกลุ่มสันติธรรม แต่การออกมาบอกว่าฝ่ายพวกตนเป็นฝ่ายที่มีปัญหาตนรับไม่ได้ เพราะเราอยู่ในส่วนของผู้ที่เคารพกฎหมาย แต่อีกฝ่ายไม่เคารพกฎหมายมีข้อหาต่างๆ รุงรังไปหมด โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยที่คนในสังคมต้องการให้เกิดสันติ
เมื่อถามว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจทำให้เกิดความแตกแยก นายวีระ กล่าวว่า ไม่ใช่ คนพวกนั้นไปตรัสรู้ พูดเองเออเองทั้งนั้นว่าหากโฟนอินมาจะทำให้เกิดความแตกแยกและคนที่พูดก็มาจากพวกชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล เชื่อว่าการโฟนอินเข้ามา พ.ต.ท.ทักษิณ คงมีวุฒิภาวะพอคงจะพูดเพื่อให้เกิดความสงบสุขมากกว่าที่จะพูดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนรุนแรงในบ้านเมือง
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่มาร่วมงานเพราะเห็นวัตุถุประสงค์แล้ว คือ การต่อต้านรัฐประหารอย่างสงบและสันติ และงานนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวไปกดดันใคร แม้มีข่าวออกมาอย่างตลอดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า แตกหักกับพันธมิตรฯ หรือการพูดกันว่าอาจสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารและขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะเนื้อหาในงานจะพูดถึงการรัฐประหาร เนื่องจากที่ผ่านมาการข่าวของฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงมีการตรวจสอบข้อมูลทุกวันถึงการเคลื่อนไหวของกองทัพที่อาจไปสู่การรัฐประหารจึงทำให้สังคมมองข้ามไม่ได้ และสถานการณ์ในประทเศขณะนี้กำลังสร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง ประกอบกับผู้นำเหล่าทัพที่ไปออกรายการระบุว่าหากมีเหตุนองเลือดต้องหยุดการใช้อำนาจรัฐบาล นั่นคือการปฏิวัติจะตีความอย่างอื่นไม่ได้ ส่วนตัวจะไปร่วมงานแน่นอน ยกเว้นเกิดรัฐประหารก่อนวันที่ 1 พ.ย อาจทำให้มีการจัดงานก่อนวันดังกล่าวหรือย้ายสถานที่ก็เป็นได้
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงเครือข่ายสันติประชาธรรม และเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ว่า ทั้ง 2 กลุ่มที่เคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความสันตินั้น น่าเสียดายที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้หารือร่วมกันก่อนเพราะเครือข่ายอาจารย์ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงพร้อมทั้งระบุให้หยุดปกป้องพันธมิตรฯ ไม่ทำผิดกฎหมาย แต่เนื้อหาในการสานเสวนามีเนื้อหาที่ปกป้องพันธมิตรฯ และที่น่าตกใจมากคือกรณีหากเกิดความรุนแรงขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆ และก็ไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงภัยการรัฐประหารรวมทั้งการทำผิดกฎหมายของพันธมิตรฯ ทำให้เห็นว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ กับกลุ่มที่ชุมนุมเพื่อรักษาประชาธิปไตยเท่ากันซึ่งไม่ถูกต้อง ทั้งที่ 2 ฝ่ายขัดแย้งกัน เจตนาทั้งหมดคือต้องการเอาคนกลางมาแก้ไขปัญหาดังนั้นจึงถือว่าไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขวิกฤตการเมือง
นายอดิศร กล่าวว่าการจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดงานเพื่อแสดงพลังต่อต้านการปฏิวัติ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น การที่ผู้นำเหล่าทัพออกรายการทีวีนั่นคือการโยนหินถามทางเรื่องปฏิวัติ ไม่ใช่ว่าเหล่าทัพไม่อยากทำ แต่เป็นเพราะกระแสโลกขณะนี้เขาไม่เอา และต้องเตือนนายทหารที่จบ จปร. แปลว่านายร้อยพระจุลจอมเกล้า ไม่ได้แปลว่าจะปฏิวัติรัฐประหารอีก เพราะหากเกิดขึ้นจริงครั้งนี้จะเกิดความรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รถถังคงไม่ได้วิ่งสะดวกสบายบนท้องถนน จึงเป็นที่มาของการจัดงานวันที่ 1 พ.ย. เพื่อเตือนว่าอย่าทำปฏิวัติ และอยากให้รายการความจริงวันนี้ไปจัดตามต่างจังหวัดเพื่อให้ความรู้ประชาชนด้วย ส่วนกรณีแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวหาว่าตนจะมีส่วนร่วมในการปิดล้อมทำเนียบ ขอยืนยันว่าตนไม่ใช่คนนิยมความรุนแรงเพราะในชีวิตเคยผ่านความสูญเสียมาแล้วเลยไม่อยากให้พี่น้องชาวไทยต้องสูญเสียอีก
นายจักรภพ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนต่างประเทศ ขอเข้าสังเกตการณ์ในงานวันดังกล่าวด้วย เพราะปัจจุบันต่างชาติให้ความสนใจสถานการณ์ภายในเมืองไทยเป็นอย่างมาก และในงานวันที่ 1 พ.ย.เราไม่ได้มีเจตนาใดๆ ให้เป็นวันที่ไม่เป็นมงคล เราต้องการให้เป็นวันดีไม่อยากให้คนไทยอึดอัดจนไม่มีทางออก เพราะฉะนั้น ภายใจงานจึงได้วางระบบความปลอดภัยพร้อมทุกอย่างเพื่อไม่ให้วันนั้นเป็นวันไม่ดี และวางเนื้อหาที่จะพูดเพื่อสร้างความหลากหลายต่อสังคมไทยไม่ให้ถูกตะล่อม
นายจตุพร กล่าวว่า ขอยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินจากประเทศอังกฤษมาบนเวทีอย่างแน่นอน โดยเป็น 1 ใน 9 คนที่ปราศรัยบนเวที แต่จะไม่มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีอย่างที่มีการกล่าวหา ส่วนการรักษาความปลอดภัยภายในงานตนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1,000 นายมาดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก 500 คนในการดูแลความเรียบร้อย และงานนี้ก็ไม่มีการเกณฑ์ให้คนมาร่วม แต่เป็นเพราะผู้มีจิตใจรักประชาธิปไตย และขอยืนยันว่านายยงยุทธ และคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนคนเพื่อมาร่วมชุมนุมอย่างที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดรระบุถึง