พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุญนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจที่จะประกาศยึดทำเนียบฯว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 1 ได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ และเท่าที่ทหารวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา กองทัพเตรียมพร้อม ที่จะเข้าไปสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยกองทัพมีแผนปฏิบัติตามขั้นตอน ทั้งนี้คิดว่าคงไม่มีการปะทะกันและ คงไม่มีสถานการณ์เหมือนวันที่ 7 ต.ค.อีก เพราะศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเหมือนครั้งที่ผ่านมา และตำรวจรู้บทเรียนที่ผ่านมาจึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหารุนแรง
ทั้งนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ได้ติดตามสถานการณ์เท่านั้น
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศยึดทำเนียบฯคืนในวันที่ 25 ต.ค.ว่า กองทัพบกเตรียมกองร้อยรักษาความสงบไว้ หากมีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยออกมาดูแลความสงบในพื้นที่ โดยมาจากกองทัพภาคที่ 1 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) รวมถึง กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่เตรียมพร้อมอยู่ในกรมกอง และสามารถออกปฎิบัติงานได้ทันที หากมีการร้องขอ เนื่องจาก ผบ.ทบ.ได้ให้นโยบายกองทัพว่า ให้เข้าถึงพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ
อย่างไรก็ตาม ทหารจะไม่ออกมาปฎิบัติการ หากไม่มีการร้องขอจากตำรวจ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ และหากทหารออกมาโดยไม่ประสานงานกับตำรวจจะเกิดการสูญเสียขึ้นได้ ทั้งนี้กองทัพยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และหวังว่า สถานการณ์วันที่ 25 ต.ค.จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้สั่งให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกเตรียมความพร้อมภายในหน่วยที่ตั้ง หากเกิดสถานการณ์รุนแรงพร้อมที่จะสนับสนุนตำรวจทันที โดยเฉพาะกองร้อยปราบจลาจลของกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11)
ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ผ่านในรายการความจริงวันนี้เชื่อว่า คงไม่สามารถกระตุ้นให้สถานการณ์บ้านเมือง ดีขึ้น แต่อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เพราะ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ น้อมรับคำตัดสินของศาล สถานการณ์น่าจะจบลง แต่หากขึ้นมากล่าวโจมตีอาจจะทำให้เกิดปัญหา และไม่เกิดประโยชน์อะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า ทหารจะนำกำลังออกมาปฏิวัติรัฐประหาร โดยอาศัยจังหวะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่ไปปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศจีน ทำให้ในวันนี้กลุ่มแนวร่วมเสื้อแดง พยายามเดินสาย เพื่อไปกดดัน พล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุดและ พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อเรียกร้องไม่ให้ทหารนำกำลังออกมาปฏิวัติ
โดยเมื่อเวลา 13.30 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประมาณ 25 คน นำโดยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นาย สมยศ พฤกษาเกษมสุข เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการออกรายการโทรทัศน์กดดันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีให้ลาออก ของผู้นำเหล่าทัพ ต่อพล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และเรียกร้องให้ผบ.สส.แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า จะร่วมกับประชาชนปกป้องประชาธิปไตย และให้ผู้นำเหล่าทัพยุติการแทรกแซง ทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมถึงเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการส่งกองกำลังทหารนอกเครื่องแบบและอาวุธ เข้าไปร่วมชุมนุมสนับสนุนให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อความรุนแรง กระทำผิดกฎหมาย ของบ้านเมืองหรือไม่ โดยมีพ.ท. เกื้อกูล บัวเทศ นายทหารเวรผู้ใหญ่ เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายวิภูแถลง กล่าวว่า ขอให้ทหารยุติการปฏิวัติรัฐประหาร และร่วมกันรักษาระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากเกรงว่า กองทัพจะใช้โอกาสที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ กระทำการดังกล่าว โดยหลังจากนี้นปช.จะดาวกระจายเดินทางไปยื่นหนังสือดังกล่าวต่อหน่วยทหารทุกหน่วย รวมถึงกระทรวงกลาโหม และในวันที่ 25 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป นปช. จะนัดชุมนุมที่ ท้องสนามหลวง ซักซ้อมการต่อต้านรัฐประหาร เพื่อเตือนทหารว่า หากก่อรัฐประหารต้องพบกับการต่อต้านอย่างรุนแรง นอกจากนี้ นปช.จะจัดชุมนุมใหญ่อย่างเป็น ทางการ เนื่องในวันต่อต้านรัฐประหารแห่งชาติ ในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้
ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศจะนำกำลังมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล 3 วัน 3 คืนนั้น นปช.คงไม่ไปร่วมเคลื่อนไหว เพราะเท่าที่อ่านภาษากายของ พล.ต.อ.สล้าง เข้าใจว่า เป็นเพียงคำขู่ เพื่อกดดันให้กลุ่มพันธมิตรฯถอนตัวจากทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ใจจริง พล.ต.อ.สล้างยังเห็นว่า ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ถูก 5 แกนนำพันธมิตรหลอกลวงมาเท่านั้น
วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ที่กองทัพภาคที่ 1 นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณี พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์เปิดเผยข้อมูลการใช้กองกำลังติดอาวุธในเมืองหลวงของประเทศ ทั้งนี้ขอให้แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งดูแล กทม. ตามกฎหมาย โปรดทำการตรวจสอบและดำเนินการ เพื่อป้องกันการปะทะ เข่นฆ่าประชาชนด้วยความรุนแรง ดังที่เกิดเหตุมาแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เป้าหมายที่ยื่นหนังสือเพราะไม่อยากให้เกิดความ รุนแรง และอยากเห็นกองทัพภาคที่ 1 ที่มีอุปกรณ์ที่สำคัญและมีอำนาจประกาศกฎอัยการศึก ได้พิจารณาเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.นี้และไม่อยากให้ทหารต้องรอ เจ้าหน้าที่ตำรวจในการขอความร่วมมือทหารให้ออกมาก่อน แต่อยากให้ทหารประเมินสถานการณ์และออกมาเลย ทั้งนี้อยากให้กองทัพภาคที่ 1 ใช้มาตรการล่วงหน้า และแก้ไขสถานการณ์ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ไม่ได้เรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ
ด้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือถึง พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก เพื่อชี้แจงถึงการฝึกนักรบพระเจ้าตากว่า การฝึกนักรบพระเจ้าตากไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอื่น ตนได้จับกำลังจากส่วนนี้แยกออกมาจากการเมืองให้มาฝึกแบบทหารที่สนามหลวง แทนที่จะไปมีเรื่องกันเอง ซึ่งจะเห็นว่า ปัจจุบันกลุ่ม นปก.ไม่มีการเดินขบวนไปปะทะกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้นักรบพระเจ้าตาก ปลูกฝังให้มีการรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก และถูกปลูกฝังให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ไม่ใช่กองกำลังเถื่อน ในยามที่ประเทศปั่นป่วน ทำเนียบรัฐบาลถูกยึด คนหัวเราะทั่วโลก รวมถึงเขมรยังกล้าขู่ไทย จะทำสงครามเต็มรูปแบบ
กำหนดของนักรบพระเจ้าตากนั้น ขึ้นอยู่กับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ว่าจะสั่งการให้ทำประการใด เพราะคนพวกนี้อยากเป็นทหารทุกคน หากสั่งฝึกต่อก็ชอบ สั่งหยุดก็คงเสียใจ แต่ไม่เคยคิดรบกับใคร แต่ถ้าให้ยึดทำเนียบฯคืน ก็ทำได้ แต่ ตำรวจกับทหารจะเอาหน้าไปไว้ไหน และคนสนามหลวงไม่ต่ำกว่าพันยื่นดูการฝึกแบบทหารและปรบมือทุกคืน
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ. สล้าง บุญนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศยึดทำเนียบฯ ในวันที่ 25 ต.ค.นั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะจำนวนคนไม่เพียงพอ ตนและพล.ต.อ.สล้าง ได้จับมือเพื่อประสานงานกัน แต่ทางกลุ่มของตน ไม่ได้ร่วมทำงานกัน ส่วนการยึดทำเนียบฯคืนนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา ว่าจะทำเมื่อไร เพราะต้องรอดูจังหวะและความเหมาะสม
ทั้งนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ได้ติดตามสถานการณ์เท่านั้น
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศยึดทำเนียบฯคืนในวันที่ 25 ต.ค.ว่า กองทัพบกเตรียมกองร้อยรักษาความสงบไว้ หากมีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ช่วยออกมาดูแลความสงบในพื้นที่ โดยมาจากกองทัพภาคที่ 1 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) รวมถึง กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่เตรียมพร้อมอยู่ในกรมกอง และสามารถออกปฎิบัติงานได้ทันที หากมีการร้องขอ เนื่องจาก ผบ.ทบ.ได้ให้นโยบายกองทัพว่า ให้เข้าถึงพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ
อย่างไรก็ตาม ทหารจะไม่ออกมาปฎิบัติการ หากไม่มีการร้องขอจากตำรวจ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ และหากทหารออกมาโดยไม่ประสานงานกับตำรวจจะเกิดการสูญเสียขึ้นได้ ทั้งนี้กองทัพยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และหวังว่า สถานการณ์วันที่ 25 ต.ค.จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้สั่งให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกเตรียมความพร้อมภายในหน่วยที่ตั้ง หากเกิดสถานการณ์รุนแรงพร้อมที่จะสนับสนุนตำรวจทันที โดยเฉพาะกองร้อยปราบจลาจลของกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11)
ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ผ่านในรายการความจริงวันนี้เชื่อว่า คงไม่สามารถกระตุ้นให้สถานการณ์บ้านเมือง ดีขึ้น แต่อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เพราะ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ น้อมรับคำตัดสินของศาล สถานการณ์น่าจะจบลง แต่หากขึ้นมากล่าวโจมตีอาจจะทำให้เกิดปัญหา และไม่เกิดประโยชน์อะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า ทหารจะนำกำลังออกมาปฏิวัติรัฐประหาร โดยอาศัยจังหวะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่ไปปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศจีน ทำให้ในวันนี้กลุ่มแนวร่วมเสื้อแดง พยายามเดินสาย เพื่อไปกดดัน พล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุดและ พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อเรียกร้องไม่ให้ทหารนำกำลังออกมาปฏิวัติ
โดยเมื่อเวลา 13.30 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประมาณ 25 คน นำโดยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นาย สมยศ พฤกษาเกษมสุข เข้ายื่นหนังสือคัดค้านการออกรายการโทรทัศน์กดดันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีให้ลาออก ของผู้นำเหล่าทัพ ต่อพล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และเรียกร้องให้ผบ.สส.แสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า จะร่วมกับประชาชนปกป้องประชาธิปไตย และให้ผู้นำเหล่าทัพยุติการแทรกแซง ทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมถึงเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการส่งกองกำลังทหารนอกเครื่องแบบและอาวุธ เข้าไปร่วมชุมนุมสนับสนุนให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อความรุนแรง กระทำผิดกฎหมาย ของบ้านเมืองหรือไม่ โดยมีพ.ท. เกื้อกูล บัวเทศ นายทหารเวรผู้ใหญ่ เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายวิภูแถลง กล่าวว่า ขอให้ทหารยุติการปฏิวัติรัฐประหาร และร่วมกันรักษาระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากเกรงว่า กองทัพจะใช้โอกาสที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ กระทำการดังกล่าว โดยหลังจากนี้นปช.จะดาวกระจายเดินทางไปยื่นหนังสือดังกล่าวต่อหน่วยทหารทุกหน่วย รวมถึงกระทรวงกลาโหม และในวันที่ 25 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป นปช. จะนัดชุมนุมที่ ท้องสนามหลวง ซักซ้อมการต่อต้านรัฐประหาร เพื่อเตือนทหารว่า หากก่อรัฐประหารต้องพบกับการต่อต้านอย่างรุนแรง นอกจากนี้ นปช.จะจัดชุมนุมใหญ่อย่างเป็น ทางการ เนื่องในวันต่อต้านรัฐประหารแห่งชาติ ในวันที่ 30-31 ต.ค.นี้
ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศจะนำกำลังมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล 3 วัน 3 คืนนั้น นปช.คงไม่ไปร่วมเคลื่อนไหว เพราะเท่าที่อ่านภาษากายของ พล.ต.อ.สล้าง เข้าใจว่า เป็นเพียงคำขู่ เพื่อกดดันให้กลุ่มพันธมิตรฯถอนตัวจากทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ใจจริง พล.ต.อ.สล้างยังเห็นว่า ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ถูก 5 แกนนำพันธมิตรหลอกลวงมาเท่านั้น
วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ที่กองทัพภาคที่ 1 นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณี พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์เปิดเผยข้อมูลการใช้กองกำลังติดอาวุธในเมืองหลวงของประเทศ ทั้งนี้ขอให้แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งดูแล กทม. ตามกฎหมาย โปรดทำการตรวจสอบและดำเนินการ เพื่อป้องกันการปะทะ เข่นฆ่าประชาชนด้วยความรุนแรง ดังที่เกิดเหตุมาแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เป้าหมายที่ยื่นหนังสือเพราะไม่อยากให้เกิดความ รุนแรง และอยากเห็นกองทัพภาคที่ 1 ที่มีอุปกรณ์ที่สำคัญและมีอำนาจประกาศกฎอัยการศึก ได้พิจารณาเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.นี้และไม่อยากให้ทหารต้องรอ เจ้าหน้าที่ตำรวจในการขอความร่วมมือทหารให้ออกมาก่อน แต่อยากให้ทหารประเมินสถานการณ์และออกมาเลย ทั้งนี้อยากให้กองทัพภาคที่ 1 ใช้มาตรการล่วงหน้า และแก้ไขสถานการณ์ทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ไม่ได้เรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ
ด้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือถึง พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก เพื่อชี้แจงถึงการฝึกนักรบพระเจ้าตากว่า การฝึกนักรบพระเจ้าตากไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอื่น ตนได้จับกำลังจากส่วนนี้แยกออกมาจากการเมืองให้มาฝึกแบบทหารที่สนามหลวง แทนที่จะไปมีเรื่องกันเอง ซึ่งจะเห็นว่า ปัจจุบันกลุ่ม นปก.ไม่มีการเดินขบวนไปปะทะกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้นักรบพระเจ้าตาก ปลูกฝังให้มีการรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก และถูกปลูกฝังให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ไม่ใช่กองกำลังเถื่อน ในยามที่ประเทศปั่นป่วน ทำเนียบรัฐบาลถูกยึด คนหัวเราะทั่วโลก รวมถึงเขมรยังกล้าขู่ไทย จะทำสงครามเต็มรูปแบบ
กำหนดของนักรบพระเจ้าตากนั้น ขึ้นอยู่กับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ว่าจะสั่งการให้ทำประการใด เพราะคนพวกนี้อยากเป็นทหารทุกคน หากสั่งฝึกต่อก็ชอบ สั่งหยุดก็คงเสียใจ แต่ไม่เคยคิดรบกับใคร แต่ถ้าให้ยึดทำเนียบฯคืน ก็ทำได้ แต่ ตำรวจกับทหารจะเอาหน้าไปไว้ไหน และคนสนามหลวงไม่ต่ำกว่าพันยื่นดูการฝึกแบบทหารและปรบมือทุกคืน
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ. สล้าง บุญนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศยึดทำเนียบฯ ในวันที่ 25 ต.ค.นั้น พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะจำนวนคนไม่เพียงพอ ตนและพล.ต.อ.สล้าง ได้จับมือเพื่อประสานงานกัน แต่ทางกลุ่มของตน ไม่ได้ร่วมทำงานกัน ส่วนการยึดทำเนียบฯคืนนั้น ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา ว่าจะทำเมื่อไร เพราะต้องรอดูจังหวะและความเหมาะสม