นายสุรสีห์ โกศลนาวิน ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมเปิดเผย วานนี้ (31 ต.ค.) ถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนว่า มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 60 แล้วแต่ยังต้องสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง อีกหลายคน โดยเฉพาะตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม
โดยในวันเดียกันนี้ ตนได้เชิญฝ่ายสรรพาวุธทหารจากกองทัพอากาศ มาอธิบายเกี่ยวกับอาวุธ และระเบิดแก๊สน้ำตาที่ใช้ในกองทัพอากาศ เพื่อเทียบเคียง อานุภาพและอาวุธที่ใช้ในที่เกิดเหตุอีกหลายประเภท ซึ่งจะพิจารณาประกอบกับผลการสอบทางนิติเวชของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า ยังไม่ครอบคลุมและยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ทั้งนี้จะต้องดูลักษณะบาดแผล ที่บางบาดแผลไม่มีเขม่าดินปืนนั้นเกิดจากอะไร และเป็นอาวุธอะไร รวมถึงผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีเหตุสลายการชุมนุมในวันที่ 7 ตุลาคม โดยนายกรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เดินทางกลับ
ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ นายสมชาย จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิฯ ได้กล่าวในการประชุมสภาฯระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเหตุการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยกล่าวว่า จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิฯในวันที่ 31 ต.ค. แต่กลับเปลี่ยนวัน เวลาชี้แจง คาดว่าจะเป็นการหลบเลี่ยงการติดตามของผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 31 ต.ค.นายสมชาย ได้เดินทางเข้าปฏิบัติราชการที่ทำเนียบฯชั่วคราวท่าอากาศยานดอนเมืองตามปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น นายสมชายได้แต่ยิ้มและกล่าวว่า เดี๋ยวค่อยพูดกัน จากนั้นก็เดินเข้าห้องประชุม เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเน้นเรื่องเมกะโปรเจ็กค์
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน แกนนำ กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า การที่พล.อ.ชวลิต เสนอวิธีแก้ไขวิกฤตทางการเมืองให้รัฐบาลควรปรับ ครม.ครั้งใหญ่นั้น เป็นแนวทางที่ดีตามระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะนำไปพิจารณา เพราะทุกคนต่างเป็นห่วงบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ครม. ชุดนี้มีคนนอกเยอะอยู่แล้ว โดยเฉพาะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนจะไม่บังคับให้นายสมชายลาออก จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมส.ส.พรรคพลังประชาชน เรายืนยันมาตลอดว่าจะสนับสนุนนายสมชายต่อไป เพราะนายสมชายเป็นคนที่รับฟังความเห็นของส.ส. ทำให้สื่อสารโดยตรงและเข้าใจกันได้
ส.ส.ทุกกลุ่มในพรรคไม่มีการบีบให้นายสมชายลาออก ขอแค่นายสมชาย ยืนยันว่าจะไม่ลาออกหรือยุบสภา พวกเราก็ยินดีสนับสนุน โดยเฉพาะแนวทางตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ปัญหาการเมือง ถือเป็นแนวทางที่ดีและสร้างประโยชน์สูงสุด ซึ่งเมื่อ ส.ส.ร.3 ได้ดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญกติกาใหม่ที่เป็นที่ยอมรับเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการเสนอให้ยุบสภา คาดว่าไม่เกิน 4-5 เดือน แล้วค่อยมาเลือกตั้งกันใหม่ ขอให้ทุกคนที่ออกมาเรียกร้องได้ใจเย็นๆ
โดยในวันเดียกันนี้ ตนได้เชิญฝ่ายสรรพาวุธทหารจากกองทัพอากาศ มาอธิบายเกี่ยวกับอาวุธ และระเบิดแก๊สน้ำตาที่ใช้ในกองทัพอากาศ เพื่อเทียบเคียง อานุภาพและอาวุธที่ใช้ในที่เกิดเหตุอีกหลายประเภท ซึ่งจะพิจารณาประกอบกับผลการสอบทางนิติเวชของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า ยังไม่ครอบคลุมและยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ทั้งนี้จะต้องดูลักษณะบาดแผล ที่บางบาดแผลไม่มีเขม่าดินปืนนั้นเกิดจากอะไร และเป็นอาวุธอะไร รวมถึงผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีเหตุสลายการชุมนุมในวันที่ 7 ตุลาคม โดยนายกรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เดินทางกลับ
ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ นายสมชาย จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิฯ ได้กล่าวในการประชุมสภาฯระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้สดถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเหตุการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยกล่าวว่า จะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิฯในวันที่ 31 ต.ค. แต่กลับเปลี่ยนวัน เวลาชี้แจง คาดว่าจะเป็นการหลบเลี่ยงการติดตามของผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 31 ต.ค.นายสมชาย ได้เดินทางเข้าปฏิบัติราชการที่ทำเนียบฯชั่วคราวท่าอากาศยานดอนเมืองตามปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น นายสมชายได้แต่ยิ้มและกล่าวว่า เดี๋ยวค่อยพูดกัน จากนั้นก็เดินเข้าห้องประชุม เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งจะเน้นเรื่องเมกะโปรเจ็กค์
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน แกนนำ กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า การที่พล.อ.ชวลิต เสนอวิธีแก้ไขวิกฤตทางการเมืองให้รัฐบาลควรปรับ ครม.ครั้งใหญ่นั้น เป็นแนวทางที่ดีตามระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะนำไปพิจารณา เพราะทุกคนต่างเป็นห่วงบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ครม. ชุดนี้มีคนนอกเยอะอยู่แล้ว โดยเฉพาะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนจะไม่บังคับให้นายสมชายลาออก จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมส.ส.พรรคพลังประชาชน เรายืนยันมาตลอดว่าจะสนับสนุนนายสมชายต่อไป เพราะนายสมชายเป็นคนที่รับฟังความเห็นของส.ส. ทำให้สื่อสารโดยตรงและเข้าใจกันได้
ส.ส.ทุกกลุ่มในพรรคไม่มีการบีบให้นายสมชายลาออก ขอแค่นายสมชาย ยืนยันว่าจะไม่ลาออกหรือยุบสภา พวกเราก็ยินดีสนับสนุน โดยเฉพาะแนวทางตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ปัญหาการเมือง ถือเป็นแนวทางที่ดีและสร้างประโยชน์สูงสุด ซึ่งเมื่อ ส.ส.ร.3 ได้ดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญกติกาใหม่ที่เป็นที่ยอมรับเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการเสนอให้ยุบสภา คาดว่าไม่เกิน 4-5 เดือน แล้วค่อยมาเลือกตั้งกันใหม่ ขอให้ทุกคนที่ออกมาเรียกร้องได้ใจเย็นๆ