"อภิสิทธิ์" ไม่ยอมรับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสลายการชุมนุม ระบุไร้ผลเว้นแต่ "สมชาย"ลาออก เสนอให้ป.ป.ช. ตรวจสอบแทน ยันรัฐบาลบริหารต่อไปไม่ได้ เตือนให้ระวังเล่ห์รัฐบาลใช้ นปก. ปะทะพันธมิตรฯแทน หลังศาลปกครองห้ามตำรวจใช้ความรุนแรง หวั่น 14 ตุลาฯ เกิดเหตุรุนแรงอีกรอบ จี้อัยการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี "แม้ว" อ้างเหตุ 7 ตุลาฯทมิฬ ข้อลี้ภัยในอังกฤษ ชี้หากทำจริงแสดงว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งฆ่าประชาชน เตือนรัฐบาลอังกฤษรับ"ทักษิณ"ลี้ภัย จะกระทบความสัมพันธ์รุนแรง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ควรให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำเรื่องนี้ เพราะ.เป็นผู้ที่จะต้องสอบได้อยู่แล้ว ว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ พูดตรงๆ คือ อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมีค่อนข้างกว้างขวางพอที่จะได้ข้อเท็จจริงหลายอย่าง และใครที่ไม่ให้ความร่วมมือตนคิดว่าก็จะมีโทษตามมา แต่กรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา ยังมองไม่เห็นหลักประกันอะไร ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความน่าเชื่อแค่ไหน จะมีความสามารถทางกฎหมายที่จะไปบังคับเอาข้อเท็จจริงออกมาจากหน่วยงาน ที่ตลอดระยะเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา ปกป้องตัวเองโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง และคนที่รัฐบาลจะตั้งขึ้น ถึงจัดการอย่างไรก็อยู่ภายใต้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ต้องถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน เพราะรู้เหตุการณ์ตั้งแต่เช้า แต่ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ถ้าคนที่ถูกตั้งขึ้นมายังต้องรายงานต่อ นายสมชาย จะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะสามารถเอาความจริงต่างๆ ออกมาได้ นอกจากนายสมชาย จะลาออกไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่าในส่วนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตนเข้าใจว่าเขาทำงานของเขาอยู่แล้ว คงจะมีข้อสรุปบางอย่าง และจริงๆแล้วในแง่ของเหตุการณ์เฉพาะเรื่อง เราคงจะได้เห็นภาพจากทางแพทย์ที่แถลงข่าวออกมา และกรรมการสิทธิฯ ก็คงให้คำตอบได้ส่วนหนึ่ง แต่เท่าที่ตนทราบ ในส่วนการทำงานของคณะกรรมการสิทธิฯ ขณะนี้ยังไมได้ลงลึกไปถึงขบวนการว่าใครต้องรับผิดชอบ คงยืนยันได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ เกี่ยวกับวิธีการสลายการชุมนุมว่า กระทบต่อสิทธิมนุษยชน มากน้อยแค่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศาลปกครอง สั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม คิดว่าฝ่ายการเมืองควรจะต้องคำนึงถึงจุดนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเราพูดชัดเจนว่า ตัวนายกฯและรัฐบาลหมดความชอบธรรมอยู่แล้ว และคิดว่าถึงวันนี้ ตนไม่คิดว่าจะกล้ายืนยันอีกว่า ที่ผ่านมาดำเนินการตามมาตรฐานของสากล เพราะถ้าศาลปกครองเห็นว่า ได้ดำเนินการไปตามนั้น ก็คงไม่มีคำสั่งในลักษณะนี้ออกมา ทั้งนี้ในส่วนของการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกไป
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้รัฐบาลยังดึงดันที่จะอยู่ต่อ และล่าสุดมีมติ ครม.โยกย้ายข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่สนใจในแง่นี้ เพราะถือว่าเรื่องที่ใหญ่กว่า คือการให้ความยุติธรรมกับประชาชน ส่วนความคิดที่จะเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองมีอยู่ เพราะคนเหล่านี้คิดอยู่ในกรอบที่ว่า ต้องการช่วงชิงหรือรักษาอำนาจเท่านั้นเอง ทั้งที่เรื่องใหญ่ที่สุดคือ การแสดงความรับผิดชอบ และสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคมเพื่อยืนยันว่า สังคมไทยของเราไม่นิยมความรุนแรงจากฝ่ายใดทั้งสิ้น แต่หากมีความรุนแรงที่เกิดจากฝ่ายรัฐ รัฐก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนประชาชนใช้ความรุนแรง ก็ต้องถูกดำเนินคดี
**ฟ้องอังกฤษ"แม้ว"ตัวการสั่งฆ่า
ส่วนกรณีทีมีรายงานข่าวจากอัยการว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นเหตุผลเพิ่มเติมขอลี้ภัยใน อังกฤษ โดยใช้เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการอ้างเรื่องนี้จริง ตนจะเรียกร้องให้รัฐบาลต้องดำเนินการต่อสู้ แต่ในส่วนของตน และองค์กรอื่นๆ ก็คิดว่าจะฟ้องประเทศอังกฤษว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้อง
" ถ้าประเทศอังกฤษยังเก็บคนนี้ไว้ในขณะที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฆ่าคนไทย ก็จะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรุนแรง รวมทั้งประชาชนทั้งสองประเทศ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณถูกสงสัยอยู่แล้วว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ หากมีการเอาเรื่องนี้ไปอ้าง ผมก็ต้องบอกว่านึกไม่ถึงว่าจะทำกับประเทศแบบนี้ ผมก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในข่ายต้องสงสัยอยู่แล้ว และอยากถามว่า ถ้ารัฐรู้เห็นเป็นใจในเรื่องนี้หรือไม่ สมคบกันอยู่หรือไม่ ผมอยากถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ประชาชนถูกทำร้ายเกี่ยวอะไรกับความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคนที่ใช้ความรุนแรงที่เป็นฝ่ายรัฐ คงไม่ใช้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะรัฐบาลชุดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ควบคุมอยู่ แล้วทำไมต้องมาทำลายชื่อเสียงของประเทศเพิ่มเติม"
**ระวังรัฐบาลใช้นปก.ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าหลังจากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ทำให้จะมีการเคลื่อนขบวนนปก. มาปะทะพันธมิตรฯแทน มองเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงตลอดเวลา เพราะไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นอีก จึงต้องบอกไปถึงรัฐบาล ในฐานะดูแลนโยบาย และบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ต้องรีบสร้างความมั่นใจ ในเรื่องความเป็นกลาง เพราะหากยังไม่แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยังนึกไม่ออกว่า จะทำได้อย่างไร
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า จะใช้วันที่14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันในเชิงสัญลักษณ์ของการต่อสู้ ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็หวังว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงอีก จึงขอให้ทุกฝ่ายยึดถือในวิธีการที่จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่ที่ดีที่สุดคือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องมีการแสดงความรับผิดชอบ มิเช่นนั้นคนก็จะคิดว่า ความรุนแรงใช้ได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ
"ผมมองไม่เห็นว่า บ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร เพราะสังคมการเมืองไทยจะอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมมากขึ้น ถ้ารัฐบาลนายสมชาย มีความจริงใจต่อประเทศบ้านเมืองจริง ต้องรู้ว่าประโยชน์ของประเทศ อนาคตของสังคมบ้านเมืองต้องมาก่อนประโยชน์ของตัวเอง การแสดงความรับผิดชอบจะต้องเกิดขึ้นก่อน ผมอยากให้ทำเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ แต่ตอนนี้ผมยังมองไม่เห็นเลยว่านายสมชาย จะอยู่ในสภาพที่จะบริหารประเทศได้อย่างไร"
นายอภิสิทธิ์ ยังเตือนไปถึงประธานวุฒิสภา ซึ่งจะร่วมประชุม 4 ฝ่ายกับนายกฯ และประธานรัฐสภาว่า อาจจะตกเป็นเครื่องมือ เพื่อให้รับรองบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเหตุผลที่ตนไม่เข้าร่วมก็เพราะไม่เห็นประโยชน์ ว่าการประชุมในขณะนี้จะเป็นทางออก เพราะก่อนเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. มีโอกาสเป็นทางออกได้ ตนก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งที่ ฝ่ายรัฐบาลยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องความจริงใจ เพราะไม่ยอมประกาศให้ชัดเจน ต่อท่าที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับนพ. เหวง โตจิราการ
"ผมถามว่าวันนี้ ส.ส.ร. เกี่ยวข้องอะไรกับการที่จะคลี่คลายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกัน มิหนำซ้ำรัฐบาลก็พูดแล้วว่า ไม่สนใจที่จะให้มีฝ่ายค้านร่วม ทำกันเองก็ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลักการสำคัญของการทำ ส.ส.ร. คือทุกฝ่ายมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง แต่วันนี้สถานการณ์เฉพาะหน้า หลังวันที่ 7 ต.ค. การปฏิรูปการเมือง ไม่ได้เกี่ยวโยงกับปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้ว แต่กำลังนำเรื่องนี้มาบิดเบือน เบี่ยงเบนประเด็น ว่าเป็นปัญหาที่สังคมไทยต้องสะสาง ผมก็อยากเตือนไปถึงประธานวุมิสภาว่า ต้องระวัง เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าที่เชิญผมและประธานวุฒิฯ เข้าไปเพื่อต้องการให้รับรองบางอย่าง ผมจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้กับคนที่ทำร้ายประชาชน" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ควรให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำเรื่องนี้ เพราะ.เป็นผู้ที่จะต้องสอบได้อยู่แล้ว ว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ พูดตรงๆ คือ อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมีค่อนข้างกว้างขวางพอที่จะได้ข้อเท็จจริงหลายอย่าง และใครที่ไม่ให้ความร่วมมือตนคิดว่าก็จะมีโทษตามมา แต่กรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา ยังมองไม่เห็นหลักประกันอะไร ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความน่าเชื่อแค่ไหน จะมีความสามารถทางกฎหมายที่จะไปบังคับเอาข้อเท็จจริงออกมาจากหน่วยงาน ที่ตลอดระยะเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา ปกป้องตัวเองโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง และคนที่รัฐบาลจะตั้งขึ้น ถึงจัดการอย่างไรก็อยู่ภายใต้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ต้องถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน เพราะรู้เหตุการณ์ตั้งแต่เช้า แต่ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ถ้าคนที่ถูกตั้งขึ้นมายังต้องรายงานต่อ นายสมชาย จะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะสามารถเอาความจริงต่างๆ ออกมาได้ นอกจากนายสมชาย จะลาออกไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่าในส่วนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตนเข้าใจว่าเขาทำงานของเขาอยู่แล้ว คงจะมีข้อสรุปบางอย่าง และจริงๆแล้วในแง่ของเหตุการณ์เฉพาะเรื่อง เราคงจะได้เห็นภาพจากทางแพทย์ที่แถลงข่าวออกมา และกรรมการสิทธิฯ ก็คงให้คำตอบได้ส่วนหนึ่ง แต่เท่าที่ตนทราบ ในส่วนการทำงานของคณะกรรมการสิทธิฯ ขณะนี้ยังไมได้ลงลึกไปถึงขบวนการว่าใครต้องรับผิดชอบ คงยืนยันได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ เกี่ยวกับวิธีการสลายการชุมนุมว่า กระทบต่อสิทธิมนุษยชน มากน้อยแค่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ศาลปกครอง สั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม คิดว่าฝ่ายการเมืองควรจะต้องคำนึงถึงจุดนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเราพูดชัดเจนว่า ตัวนายกฯและรัฐบาลหมดความชอบธรรมอยู่แล้ว และคิดว่าถึงวันนี้ ตนไม่คิดว่าจะกล้ายืนยันอีกว่า ที่ผ่านมาดำเนินการตามมาตรฐานของสากล เพราะถ้าศาลปกครองเห็นว่า ได้ดำเนินการไปตามนั้น ก็คงไม่มีคำสั่งในลักษณะนี้ออกมา ทั้งนี้ในส่วนของการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกไป
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้รัฐบาลยังดึงดันที่จะอยู่ต่อ และล่าสุดมีมติ ครม.โยกย้ายข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่สนใจในแง่นี้ เพราะถือว่าเรื่องที่ใหญ่กว่า คือการให้ความยุติธรรมกับประชาชน ส่วนความคิดที่จะเอารัดเอาเปรียบทางการเมืองมีอยู่ เพราะคนเหล่านี้คิดอยู่ในกรอบที่ว่า ต้องการช่วงชิงหรือรักษาอำนาจเท่านั้นเอง ทั้งที่เรื่องใหญ่ที่สุดคือ การแสดงความรับผิดชอบ และสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคมเพื่อยืนยันว่า สังคมไทยของเราไม่นิยมความรุนแรงจากฝ่ายใดทั้งสิ้น แต่หากมีความรุนแรงที่เกิดจากฝ่ายรัฐ รัฐก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนประชาชนใช้ความรุนแรง ก็ต้องถูกดำเนินคดี
**ฟ้องอังกฤษ"แม้ว"ตัวการสั่งฆ่า
ส่วนกรณีทีมีรายงานข่าวจากอัยการว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยื่นเหตุผลเพิ่มเติมขอลี้ภัยใน อังกฤษ โดยใช้เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีการอ้างเรื่องนี้จริง ตนจะเรียกร้องให้รัฐบาลต้องดำเนินการต่อสู้ แต่ในส่วนของตน และองค์กรอื่นๆ ก็คิดว่าจะฟ้องประเทศอังกฤษว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้อง
" ถ้าประเทศอังกฤษยังเก็บคนนี้ไว้ในขณะที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฆ่าคนไทย ก็จะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรุนแรง รวมทั้งประชาชนทั้งสองประเทศ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณถูกสงสัยอยู่แล้วว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ หากมีการเอาเรื่องนี้ไปอ้าง ผมก็ต้องบอกว่านึกไม่ถึงว่าจะทำกับประเทศแบบนี้ ผมก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในข่ายต้องสงสัยอยู่แล้ว และอยากถามว่า ถ้ารัฐรู้เห็นเป็นใจในเรื่องนี้หรือไม่ สมคบกันอยู่หรือไม่ ผมอยากถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า ประชาชนถูกทำร้ายเกี่ยวอะไรกับความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคนที่ใช้ความรุนแรงที่เป็นฝ่ายรัฐ คงไม่ใช้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะรัฐบาลชุดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ควบคุมอยู่ แล้วทำไมต้องมาทำลายชื่อเสียงของประเทศเพิ่มเติม"
**ระวังรัฐบาลใช้นปก.ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าหลังจากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ทำให้จะมีการเคลื่อนขบวนนปก. มาปะทะพันธมิตรฯแทน มองเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงตลอดเวลา เพราะไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นอีก จึงต้องบอกไปถึงรัฐบาล ในฐานะดูแลนโยบาย และบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ต้องรีบสร้างความมั่นใจ ในเรื่องความเป็นกลาง เพราะหากยังไม่แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยังนึกไม่ออกว่า จะทำได้อย่างไร
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า จะใช้วันที่14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันในเชิงสัญลักษณ์ของการต่อสู้ ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราก็หวังว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงอีก จึงขอให้ทุกฝ่ายยึดถือในวิธีการที่จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่ที่ดีที่สุดคือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องมีการแสดงความรับผิดชอบ มิเช่นนั้นคนก็จะคิดว่า ความรุนแรงใช้ได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ
"ผมมองไม่เห็นว่า บ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร เพราะสังคมการเมืองไทยจะอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมมากขึ้น ถ้ารัฐบาลนายสมชาย มีความจริงใจต่อประเทศบ้านเมืองจริง ต้องรู้ว่าประโยชน์ของประเทศ อนาคตของสังคมบ้านเมืองต้องมาก่อนประโยชน์ของตัวเอง การแสดงความรับผิดชอบจะต้องเกิดขึ้นก่อน ผมอยากให้ทำเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ แต่ตอนนี้ผมยังมองไม่เห็นเลยว่านายสมชาย จะอยู่ในสภาพที่จะบริหารประเทศได้อย่างไร"
นายอภิสิทธิ์ ยังเตือนไปถึงประธานวุฒิสภา ซึ่งจะร่วมประชุม 4 ฝ่ายกับนายกฯ และประธานรัฐสภาว่า อาจจะตกเป็นเครื่องมือ เพื่อให้รับรองบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเหตุผลที่ตนไม่เข้าร่วมก็เพราะไม่เห็นประโยชน์ ว่าการประชุมในขณะนี้จะเป็นทางออก เพราะก่อนเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. มีโอกาสเป็นทางออกได้ ตนก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งที่ ฝ่ายรัฐบาลยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องความจริงใจ เพราะไม่ยอมประกาศให้ชัดเจน ต่อท่าที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับนพ. เหวง โตจิราการ
"ผมถามว่าวันนี้ ส.ส.ร. เกี่ยวข้องอะไรกับการที่จะคลี่คลายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกัน มิหนำซ้ำรัฐบาลก็พูดแล้วว่า ไม่สนใจที่จะให้มีฝ่ายค้านร่วม ทำกันเองก็ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลักการสำคัญของการทำ ส.ส.ร. คือทุกฝ่ายมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง แต่วันนี้สถานการณ์เฉพาะหน้า หลังวันที่ 7 ต.ค. การปฏิรูปการเมือง ไม่ได้เกี่ยวโยงกับปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้ว แต่กำลังนำเรื่องนี้มาบิดเบือน เบี่ยงเบนประเด็น ว่าเป็นปัญหาที่สังคมไทยต้องสะสาง ผมก็อยากเตือนไปถึงประธานวุมิสภาว่า ต้องระวัง เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าที่เชิญผมและประธานวุฒิฯ เข้าไปเพื่อต้องการให้รับรองบางอย่าง ผมจะไม่ยอมเป็นเครื่องมือให้กับคนที่ทำร้ายประชาชน" นายอภิสิทธิ์กล่าว