หญิงชุดดำฝ่าวงล้อม นปช.เข้าวางพวงหรีดไว้อาลัยตำรวจฆ่าประชาชนหน้า สตช. ไม่สนแรงต้านและคำด่าหยาบคาย ขณะที่ “เรืองศักดิ์” เสนอหน้าเป็นตัวแทนรับดอกไม้จาก นปช. พร้อมบอก “พัชรวาท” เป็นห่วงอยากให้สังคมสงบสุข ส่วน ตร.ที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ยืนนิ่งเฉยปล่อยให้ 2 ฝ่ายพ่นน้ำลายปะทะคารมกันเต็มที่ ด้าน บช.น. กลุ่มชุมุชนบุปผาราม ชมรมคนรู้ใจนนทบุรี มาให้กำลังใจ “สุชาติ” บอกเหมือนฝนหล่นจากฟ้ามาชโลมใจ ยังโยนมือที่ 3 ก่อเหตุป่วน
วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายชินวัตร หาบุญพาด นายสมยศ พฤษาเกษมสุข แกนนำ นปช.ได้นำกลุ่ม นปช.ประมาณ 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่เข้าสลายการชุมนุมที่บริเวณรอบรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องดีแล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ สถิตย์เอก จเรตำรวจ ได้เป็นตัวแทนรับหนังสือและช่อดอกไม้จาก นปช. พร้อมกับกล่าวว่าในเรื่องนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.รู้สึกเป็นห่วงประชาชน และจะดูแลประชาชน เพราะอยากให้สังคมสงบสันติ อีกทั้งจะพยายามดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวไปจนถึงครอบครัวอย่างเต็มที่
หลังจากนั้น กลุ่ม นปช.ทั้งหมดได้ยืนยันจะอยู่รอเผชิญหน้ากับกลุ่มแพทย์จุฬาฯ ที่จะเดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิทย์ ผบก.น.7 ได้นำกำลังตำรวจ 1 กองร้อยตรึงกำลังรอบบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งได้ปิดประตูใหญ่ทางเข้า-ออก สตช.เพื่อสกัดกั้นให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจอกัน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุปะทะเผชิญหน้า 2 กลุ่ม
ต่อมาเวลา 11.00 น. มีผู้หญิงแต่งชุดดำบอกว่าตนเองอยู่ฝั่งพันธมิตรฯ โดยระบุว่าเป็น ผศ.ดร.ร.ท.สพ.หญิงเนาวรัตน์ สุธัมนาถพงศ์ ได้ถือพวงหรีดสีดำนำมาวางไว้ที่หน้า สตช.เพื่อเป็นการไว้อาลัยตำรวจที่ทำร้ายประชาชน พร้อมบอกว่ามาต่อต้านเป็นการส่วนตัว และได้กล่าวถึงกรณีที่แพทย์จุฬาฯ ไม่ยอมรักษาตำรวจนั้น มองว่าเป็นการอารยะขัดขืน แต่หากตำรวจถอดเครื่องแบบเข้าไปให้รักษา กลุ่มแพทย์ก็คงไม่ต่อต้าน ซึ่งกลุ่ม นปช.ได้ตะโกนชี้หน้าด่าหญิงคนดังกล่าวด้วยคำที่หยาบคาย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์ผู้หญิงแต่งกายชุดดำอยู่ ได้มีชายวัยกลางคนใส่เสื้อสีแดงได้พยายามเดินเข้ามาชี้หน้าด่าตลอดเวลา แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย จนผู้สื่อข่าวต้องพยายามกันชายเสื้อแดงให้ออกห่างหญิงชุดดำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แต่ยืนมองรักษาความปลอดภัย ไม่ได้สกัดกั้นให้ชายเสื้อแดงหยุดตะโกนด่า หรือห้ามปรามไม่ให้เดินเข้าไปก่อกวน ซึ่งเมื่อหญิงชุดดำวางพวงหวีดก็ได้มีพันธมิตรฯ ที่แต่งชุดดำเข้ามาช่วยอีก 2-3 คน
ทั้งนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดกั้นไม่ให้แพทย์จุฬาฯ เดินเข้าไปยัง สตช. โดยปิดกั้นไว้ที่ถนนปทุมวัน หน้าสยามพารากอน เนื่องจากเกรงจะเกิดการปะทะวุ่นวายระหว่างกลุ่มต่อต้าน และกลุ่มสนันสนุน
ในวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.20 น. กลุ่มชุมุชนบุปผาราม ชมรมคนรู้ใจ จ.นนทบุรี และชมรมคนคิดถึงทักษิณ ประมาณ 200 คน นำดอกไม้มามอบให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบ.ช.น.และรอง ผบช.น.
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ ตนเองเพียงคนเดียวคงไม่สามารถทำได้ ต้องรวมถึงนายตำรวจทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และทั้งหมดทำเพื่อประชาชน และตำรวจจะคงไว้ซึ่งความยุติธรรม รวมถึงจะพยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ หากสิ่งใดไม่ถูกต้องก็จำเป็นต้องดำเนินการ
“จริงๆ กำลังใจจะหมด แต่กำลังใจที่หลั่งไหลมาเหมือนฝนหล่นจากฟ้ามาชโลมใจ” พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว
พล.ต.ท.สุชาติ ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเพียงจุดเดียว คือ บริเวณ แยกประชาเกษม ตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงประทัดยักษ์ เชื่อว่าเป็นเพียงการก่อกวนสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 เท่านั้น ส่วนที่จะมีการเดินชุมนุมไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่จาก ตชด. บช.น. และ บช.ส. และคงไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา และอย่าใช้คำว่าใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม เพราะแก๊สน้ำตาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการควบคุมฝูงชน ไม่ใช่การสลายการชุมนุม
พล.ต.ท.สุชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีหลายกลุ่มออกมาประณามการกระทำของตำรวจนั้นว่า ตำรวจขอยอมรับการถูกประณามนั้น เพราะตำรวจเป็นผู้ปฏิบัติ และจะให้ตนเองตอบนั้นคงไม่ได้ เพราะตนเองก็ให้คะแนนตัวเองไม่ได้ ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกลางในการดำเนินการสอบสวน และการกระทำในวันเกิดเหตุนั้นตำรวจทำหน้าที่เพียงเข้าไปเปิดทาง เพื่อให้ตัวแทนปวงชนได้เข้าทำงาน ซึ่งมีทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. ทำไมต้องมองว่าตำรวจเข้าข้างรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีกระแสข่าวว่าตำรวจจะยึดพื้นที่ทั้งสะพานมัฆวานฯ และทำเนียบรัฐบาลคืนนั้น พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวสั้นๆ ว่า น่าจะใกล้เวลาเอาคืนแล้ว และตำรวจจะทำให้ดีที่สุด อีกทั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการแจ้งศาลโลกนั้นก็ไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใด
วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายชินวัตร หาบุญพาด นายสมยศ พฤษาเกษมสุข แกนนำ นปช.ได้นำกลุ่ม นปช.ประมาณ 50 คน เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่เข้าสลายการชุมนุมที่บริเวณรอบรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องดีแล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ สถิตย์เอก จเรตำรวจ ได้เป็นตัวแทนรับหนังสือและช่อดอกไม้จาก นปช. พร้อมกับกล่าวว่าในเรื่องนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.รู้สึกเป็นห่วงประชาชน และจะดูแลประชาชน เพราะอยากให้สังคมสงบสันติ อีกทั้งจะพยายามดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวไปจนถึงครอบครัวอย่างเต็มที่
หลังจากนั้น กลุ่ม นปช.ทั้งหมดได้ยืนยันจะอยู่รอเผชิญหน้ากับกลุ่มแพทย์จุฬาฯ ที่จะเดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิทย์ ผบก.น.7 ได้นำกำลังตำรวจ 1 กองร้อยตรึงกำลังรอบบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งได้ปิดประตูใหญ่ทางเข้า-ออก สตช.เพื่อสกัดกั้นให้ทั้ง 2 ฝ่ายเจอกัน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุปะทะเผชิญหน้า 2 กลุ่ม
ต่อมาเวลา 11.00 น. มีผู้หญิงแต่งชุดดำบอกว่าตนเองอยู่ฝั่งพันธมิตรฯ โดยระบุว่าเป็น ผศ.ดร.ร.ท.สพ.หญิงเนาวรัตน์ สุธัมนาถพงศ์ ได้ถือพวงหรีดสีดำนำมาวางไว้ที่หน้า สตช.เพื่อเป็นการไว้อาลัยตำรวจที่ทำร้ายประชาชน พร้อมบอกว่ามาต่อต้านเป็นการส่วนตัว และได้กล่าวถึงกรณีที่แพทย์จุฬาฯ ไม่ยอมรักษาตำรวจนั้น มองว่าเป็นการอารยะขัดขืน แต่หากตำรวจถอดเครื่องแบบเข้าไปให้รักษา กลุ่มแพทย์ก็คงไม่ต่อต้าน ซึ่งกลุ่ม นปช.ได้ตะโกนชี้หน้าด่าหญิงคนดังกล่าวด้วยคำที่หยาบคาย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์ผู้หญิงแต่งกายชุดดำอยู่ ได้มีชายวัยกลางคนใส่เสื้อสีแดงได้พยายามเดินเข้ามาชี้หน้าด่าตลอดเวลา แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย จนผู้สื่อข่าวต้องพยายามกันชายเสื้อแดงให้ออกห่างหญิงชุดดำ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แต่ยืนมองรักษาความปลอดภัย ไม่ได้สกัดกั้นให้ชายเสื้อแดงหยุดตะโกนด่า หรือห้ามปรามไม่ให้เดินเข้าไปก่อกวน ซึ่งเมื่อหญิงชุดดำวางพวงหวีดก็ได้มีพันธมิตรฯ ที่แต่งชุดดำเข้ามาช่วยอีก 2-3 คน
ทั้งนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดกั้นไม่ให้แพทย์จุฬาฯ เดินเข้าไปยัง สตช. โดยปิดกั้นไว้ที่ถนนปทุมวัน หน้าสยามพารากอน เนื่องจากเกรงจะเกิดการปะทะวุ่นวายระหว่างกลุ่มต่อต้าน และกลุ่มสนันสนุน
ในวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.20 น. กลุ่มชุมุชนบุปผาราม ชมรมคนรู้ใจ จ.นนทบุรี และชมรมคนคิดถึงทักษิณ ประมาณ 200 คน นำดอกไม้มามอบให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบ.ช.น.และรอง ผบช.น.
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ ตนเองเพียงคนเดียวคงไม่สามารถทำได้ ต้องรวมถึงนายตำรวจทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และทั้งหมดทำเพื่อประชาชน และตำรวจจะคงไว้ซึ่งความยุติธรรม รวมถึงจะพยายามบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ หากสิ่งใดไม่ถูกต้องก็จำเป็นต้องดำเนินการ
“จริงๆ กำลังใจจะหมด แต่กำลังใจที่หลั่งไหลมาเหมือนฝนหล่นจากฟ้ามาชโลมใจ” พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว
พล.ต.ท.สุชาติ ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเพียงจุดเดียว คือ บริเวณ แยกประชาเกษม ตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงประทัดยักษ์ เชื่อว่าเป็นเพียงการก่อกวนสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 เท่านั้น ส่วนที่จะมีการเดินชุมนุมไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่จาก ตชด. บช.น. และ บช.ส. และคงไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา และอย่าใช้คำว่าใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม เพราะแก๊สน้ำตาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการควบคุมฝูงชน ไม่ใช่การสลายการชุมนุม
พล.ต.ท.สุชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีหลายกลุ่มออกมาประณามการกระทำของตำรวจนั้นว่า ตำรวจขอยอมรับการถูกประณามนั้น เพราะตำรวจเป็นผู้ปฏิบัติ และจะให้ตนเองตอบนั้นคงไม่ได้ เพราะตนเองก็ให้คะแนนตัวเองไม่ได้ ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกลางในการดำเนินการสอบสวน และการกระทำในวันเกิดเหตุนั้นตำรวจทำหน้าที่เพียงเข้าไปเปิดทาง เพื่อให้ตัวแทนปวงชนได้เข้าทำงาน ซึ่งมีทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. ทำไมต้องมองว่าตำรวจเข้าข้างรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีกระแสข่าวว่าตำรวจจะยึดพื้นที่ทั้งสะพานมัฆวานฯ และทำเนียบรัฐบาลคืนนั้น พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวสั้นๆ ว่า น่าจะใกล้เวลาเอาคืนแล้ว และตำรวจจะทำให้ดีที่สุด อีกทั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการแจ้งศาลโลกนั้นก็ไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใด