คุณหนู ที่รักยิ่ง
ผมไม่ได้บ่นบ้าดอก ผมเป็นห่วงพี่น้องคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ที่ครั้งแล้วครั้งเล่าจะต้องตกเป็นแพะบูชายัญ
ชนชั้นปกครองตัดสินใจห้ำหั่นกันเมื่อใด พี่น้องที่เป็นคนชั้นต่ำเหมือนผม ก็จะตกเป็นเหยื่อเมื่อนั้น ครั้นทุกอย่างสงบลง ก็พวกเราอีกแหละครับที่ต้องแบกทุกข์ของแผ่นดิน เพื่อจะให้พวกคุณหนูได้อยู่สบาย เวลาไหนๆ พวกคุณหนูก็ปลอดภัยทั้งสิ้น
ดูเหมือนคุณหนูจะปักใจว่า ปัญหาของเมืองไทยครั้งนี้มีมูลมาจากทักษิณทั้งสิ้น ถ้าทักษิณตัดสินใจปลดล็อก ทุกอย่างก็จะสงบลง เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจ
สมมติว่าวันนี้ทักษิณหัวใจวายหรือตายลงด้วยวิบากกรรมใดๆ ผมคิดว่าเครือข่ายของระบอบทักษิณซึ่งครอบคลุมไปเกือบทุกตารางนิ้วของแผ่นดิน กลับจะเรียกร้องความสงสารเห็นใจ ระดมกำลังกันกลับมาใหญ่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะอำนาจรัฐในมือของเขาหนุนหลัง
กลไกต่างๆ ของระบบราชการ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือมหาดไทย เอาจริงๆ แล้วหามีผู้ใดเป็นกลางไม่ ล้วนแล้วแต่ปากว่าตาขยิบเข้าข้างทักษิณทั้งสิ้น ไหนเล่าคนที่จะมาสู้แทนพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อจะยับยั้งพันธมิตรฯ ลดอัตราเสี่ยงให้ตนเอง โดนกลบเกลื่อนสายสัมพันธ์ และความสามิภักดิ์ต่อทักษิณไว้ อำนาจรัฐย่อมจะคอยทีให้เกิดการปะทะเสียเลือดเนื้อมากๆ เสียก่อน จึงจะกระโดดลงมาควบคุมสถานการณ์เหมือนกับอัศวินม้าขาว ปล่อยให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ยึดมั่นในสันติวิธีและอหิงสา ถูกเข่นฆ่าโดยอันธพาลการเมืองติดอาวุธ ภายใต้การคุ้มครองของพรรคและรัฐบาล
แล้วชนชั้นปกครองที่ชอบเรียกร้องความสมานฉันท์และเป็นกลางก็จะกรูกันออกมา ช่วยกันกรุยทางไว้ให้ระบอบทักษิณต่อเหมือน คมช. กับรัฐบาลสุรยุทธ์อีก
เป็นชนชั้นปกครองที่มีคำพูดสวยหรู และมีทีท่าเปี่ยมด้วยธรรมและความเมตตา เมื่อผมบอกว่าทักษิณผิดในคดีซุกหุ้น หากกฎหมายเป็นใหญ่ เป็นไปไม่ได้หรอกที่ทักษิณจะรอด มิใช่เพราะปัญญาชนเยี่ยงคุณหนู คุณหมอเสม คุณหมอประเวศ ส.ศิวลักษณ์ หรือแม้แต่สนธิ ลิ้มทองกุล กับพล.ต.จำลอง ดอกหรือที่ดาหน้ากันออกมาปกป้องทักษิณ ด้วยเหตุและผลสารพัดที่มันขัดกับกฎหมาย จนกระทั่งมวลชนรากหญ้าได้เรียนรู้และเห็นทักษิณเป็นเทวดาตั้งแต่นั้นมา
เพราะฉะนั้นมันไม่แปลกหรอกที่หลังจากนั้น คนอย่างทักษิณจะทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย และโอหังบังอาจคิดว่าตนใหญ่กว่าใครในแผ่นดิน
คุณหนูอย่าไปโทษบาปแต่ปางก่อนของชาติไทยเลยครับ วิกฤตมันเกิดต่อเนื่องกันเพราะกรรม (เลว) ของคนและกลุ่มบุคคลในชาตินี้แหละครับ เริ่มตั้งแต่รัฐประหาร 2490โดยปู่อาจารย์โต้งของพวกเรานี่แหละ ระบบการเมืองทราม ที่เรียกว่า “วงจรอุบาทว์” ระหว่าง “กงจักร” และ “น้ำเน่า” ก็ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาบริหารประเทศ
ความกลัวคอมมิวนิสต์หนึ่ง ความขี้รำคาญซึ่งเป็นสันดานของเผด็จการ หนึ่ง ทำให้เกิดการจดทะเบียนพรรคการเมืองเหมือนบริษัทรับเหมา เป็นพรรคแบบ “รวมศูนย์-รวบอำนาจ-เป็นทาสหัวหน้า” ที่เสนาะ เทียนทอง บรรยายว่าเหมือนคุกขัง ส.ส.เพราะแต่ละพรรคล้วนเป็น “พรรคหัวหน้าตั้ง” จึง “ไม่มีวันยั่งยืน” รุ่งเรืองและแตกดับไปกับชะตากรรมของหัวหน้า การเมืองไทยจึงกลายเป็นเรื่อง “ชั่วคราว” แบบ “สมบัติผลัดกันชม” ต้อง “แย่งกันเป็น-แย่งกันกิน” มาตลอด ทำให้ผู้คนเบื่อหน่ายเอือมระอาไปตามๆ กัน
จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอการเมืองแบบ “คิดใหม่-ทำใหม่” โดยผู้นำที่ “รวยแล้วไม่โกง” ที่หาเสียงแบบซื้อแหลกแจกแถม และการตลาดอย่างเยี่ยมยอด ทำให้พรรคไทยรักไทยของทักษิณชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวปกครองประเทศได้สบายๆ แต่ทักษิณโลภมากบ้าอำนาจ หวังจะสถาปนาระบบพรรคเดียวขึ้นให้ได้ จึงเที่ยววิ่งยื้อพรรค ยุบพรรค ซื้อพรรค ควบพรรค ให้มาเข้าพรรคไทยรักไทยเกือบหมด
เมื่อรวบอำนาจการเมืองไว้ได้แล้ว ทักษิณก็ย่ามใจ เข้าแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ทหาร ข้าราชการได้จนหมดทุกกระทรวงไม่มีเหลือ ซ้ำเข้าครอบงำควบคุมองค์กรอิสระเช่น กกต. วุฒิสภา และป.ป.ช.ไว้จนปราศจากอำนาจตรวจสอบใดๆ ที่จะ “ระคายเคืองรัฐอำนาจ” ของทักษิณได้ พรรคฝ่ายค้านก็ปุโรทั่งไร้น้ำยาโดยสิ้นเชิง
แล้วทักษิณก็ก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองอย่างบ้าระห่ำราวกับสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ไม่ปาน
ผมดีใจที่ในที่สุด พล.ต.จำลอง สนธิ คุณหมอประเวศ และคุณหนูของผมพากันสำนึกบาป ออกมาระดมพี่น้องประชาชนให้หูตาสว่างพากันขับไล่ระบอบทักษิณ
แต่ถึงแม้ คมช.จะ “ลักไก่” กระทำรัฐประหารขับไล่ทักษิณออกไปแล้ว ข้าทาสบริวารและผู้คนของทักษิณก็ยังครบเครื่องอู้ฟู้อยู่ในบ้านเมืองอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผมสันนิษฐานว่า ทั้ง คมช. และรัฐบาลอาจจะอ่อนข้อต่อรองบางอย่างกับทักษิณและเมียด้วยซ้ำ ปราศจาก คตส.แทบจะกล่าวได้ว่า คมช. ทำให้บ้านเมืองเสียเวลาไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
ระบอบทักษิณสามารถกลับมาครองอำนาจรัฐได้ภายในเวลาเพียง 18 เดือน ตามที่ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประ เทศทีเดียว ประชานิยมเปรอะกว่าจะคืนสู่อำนาจได้ต้องใช้เวลาตั้ง 18 ปี
คุณหนูหายเคืองหรือยังครับ ที่ผมทำนายไว้ในเดือนตุลาคม 2549 ว่าระบอบทักษิณจะกลับมาเอาชนะระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้อีก คุณหนูอย่าโกรธนะครับ ถ้าผมจะทำนายต่อว่า ระบอบทักษิณจะชนะสงครามครั้งสุดท้ายได้ในไม่นาน
ผมเสียใจที่สุดครับคุณหนู ผมอยากต่อสู้จนลมหายใจสุดท้ายเพื่อประเทศและพระเจ้าแผ่นดินของผม แต่ผมไม่รู้ว่าจะร่วมกับใครและทำอย่างไร
ผมรู้ว่า พันธมิตรฯ ถึงจะเก่งเพียงใด ยิ่งใหญ่แค่ไหน ปลุกตื่นสำนึกคนไทยให้สร้างประวัติศาสตร์การชุมนุมประท้วงด้วยสันติอหิงสาอย่างงดงามเพียงใด แต่พันธมิตรฯ ไม่มีกองกำลังติดอาวุธที่พร้อม แถมยังจัดกระบวนไม่ทัน ปล่อยให้พรรคไทยรักไทยดอดเข้ามายึดอำนาจรัฐหน้าตาเฉย
เมื่อมีอำนาจรัฐและเงินของทักษิณด้วยแล้ว อะไรมันจะยากอีกละครับ วัฒนธรรมไทยมิใช่หรือที่บอกว่า “มีเงิน เขาก็วิ่ง มาเป็นข้า” พวกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ทำไมจึงจะไม่วิ่งกรูกันเข้าหาแบบ “ชนะไหน เข้าด้วย ช่วยกระพือ เหมือนกระสือ ฝูงห่า ลงหากิน”
ถึงแม้ทักษิณจะถูกพิพากษาจำคุก ก็เรื่องเล็กครับ “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม ล้วนแต่เป็นการกระทำที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งเป็นการสมคบกันของ บรรดาชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ทั้งหลาย ผู้เชื่อในทุกสิ่งอย่าง ยกเว้นประชาธิปไตย ผมเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา เพียงเพราะผมเป็นตัวแทนของหลักการแห่งระบอบเสรีประชาธิปไตย ซึ่งส่งเสริมความหวังและความภาคภูมิใจของคนยากคนจนในประเทศของผม
ประเทศไทยเป็นและจะยังคงเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม คนจำนวนไม่มากที่ไม่สามารถเผชิญกับความจริงได้ กำลังขัดขวางเจตจำนงของคนส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่า ในท้ายที่สุดพี่น้องชาวไทยจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ และการสิ้นสุดของฝันร้ายอยู่ไม่ไกล”
เพื่อบรรลุฝันอันสูงสุด ข้าทาสบริวารของทักษิณทั้งในและนอกระบบราชการ ต่างก็พากันจาบจ้วงบั่นทอนศาลยุติธรรมและสถาบันกบัตริย์อย่างสนุกสนาน จับได้แต่ปลาซิวปลาสร้อยไม่กี่ตัว ที่เหลือขึ้นวอชูคออยู่ในทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งในกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พี่น้องประชาชนและพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสถาบันพากันถูกเข่นฆ่าล้มตายก็ด้วยเล่ห์เพทุบายของคนพวกนี้
คุณหนูที่รักยิ่งครับ ผมมหัศจรรย์เหลือหลาย ทำไมจนป่านนี้ สังคมไทย ทหาร อาจารย์กฎหมาย นักรัฐศาสตร์ ฯลฯ ยังไม่รับว่า พรรคพลังประชาชนคือพรรคไทยรักไทยแปลงร่างมาด้วยเล่ห์เพทุบาย ทำให้คำพิพากษาของศาลให้ยุบพรรคและห้ามกรรมการบริหารพรรค 111 คนเกี่ยวข้องกับการเมืองเป็นอัน “ไร้ผล”
เพราะพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคนอกกฎหมาย การเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ไม่ต่างอะไรกับการยึดอำนาจดีๆ นี่เอง บรรดาโมฆบุรุษและโมฆสตรีในรัฐบาล ในสภาและในระบบราชการทั้งหลายรวมทั้ง นปก.-นปช.ล้วนแต่เป็นขี้หมูไหลพวกเดียวกันทั้งสิ้น มิน่าเล่า จึงพากันปกป้องผลประโยชน์ของทักษิณและพวกพ้องบริวารอย่างสุดฤทธิ์ ท่ามกลางการต่อสู้คัดค้านอย่างทรหดอดทนของพันธมิตรฯ และพันธมิตรฯ ของพันธมิตรฯ ทั่วประเทศและทั่วโลก
ฝ่ายแรกต้องการสร้างสาธารณรัฐ และฝ่ายหลังยืนหยัดป้องกันราชอาณาจักร
นี่ต่างหาก คือมูลเหตุแห่งวิกฤตในทัศนะของผม ซึ่งอาจจะต่างกับของคุณหนูเล็กน้อย
รักคุณหนูยิ่งชีวิต
เมืองไทย 30 ตุลาคม 2551
ผมไม่ได้บ่นบ้าดอก ผมเป็นห่วงพี่น้องคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ที่ครั้งแล้วครั้งเล่าจะต้องตกเป็นแพะบูชายัญ
ชนชั้นปกครองตัดสินใจห้ำหั่นกันเมื่อใด พี่น้องที่เป็นคนชั้นต่ำเหมือนผม ก็จะตกเป็นเหยื่อเมื่อนั้น ครั้นทุกอย่างสงบลง ก็พวกเราอีกแหละครับที่ต้องแบกทุกข์ของแผ่นดิน เพื่อจะให้พวกคุณหนูได้อยู่สบาย เวลาไหนๆ พวกคุณหนูก็ปลอดภัยทั้งสิ้น
ดูเหมือนคุณหนูจะปักใจว่า ปัญหาของเมืองไทยครั้งนี้มีมูลมาจากทักษิณทั้งสิ้น ถ้าทักษิณตัดสินใจปลดล็อก ทุกอย่างก็จะสงบลง เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจ
สมมติว่าวันนี้ทักษิณหัวใจวายหรือตายลงด้วยวิบากกรรมใดๆ ผมคิดว่าเครือข่ายของระบอบทักษิณซึ่งครอบคลุมไปเกือบทุกตารางนิ้วของแผ่นดิน กลับจะเรียกร้องความสงสารเห็นใจ ระดมกำลังกันกลับมาใหญ่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะอำนาจรัฐในมือของเขาหนุนหลัง
กลไกต่างๆ ของระบบราชการ ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือมหาดไทย เอาจริงๆ แล้วหามีผู้ใดเป็นกลางไม่ ล้วนแล้วแต่ปากว่าตาขยิบเข้าข้างทักษิณทั้งสิ้น ไหนเล่าคนที่จะมาสู้แทนพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อจะยับยั้งพันธมิตรฯ ลดอัตราเสี่ยงให้ตนเอง โดนกลบเกลื่อนสายสัมพันธ์ และความสามิภักดิ์ต่อทักษิณไว้ อำนาจรัฐย่อมจะคอยทีให้เกิดการปะทะเสียเลือดเนื้อมากๆ เสียก่อน จึงจะกระโดดลงมาควบคุมสถานการณ์เหมือนกับอัศวินม้าขาว ปล่อยให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ยึดมั่นในสันติวิธีและอหิงสา ถูกเข่นฆ่าโดยอันธพาลการเมืองติดอาวุธ ภายใต้การคุ้มครองของพรรคและรัฐบาล
แล้วชนชั้นปกครองที่ชอบเรียกร้องความสมานฉันท์และเป็นกลางก็จะกรูกันออกมา ช่วยกันกรุยทางไว้ให้ระบอบทักษิณต่อเหมือน คมช. กับรัฐบาลสุรยุทธ์อีก
เป็นชนชั้นปกครองที่มีคำพูดสวยหรู และมีทีท่าเปี่ยมด้วยธรรมและความเมตตา เมื่อผมบอกว่าทักษิณผิดในคดีซุกหุ้น หากกฎหมายเป็นใหญ่ เป็นไปไม่ได้หรอกที่ทักษิณจะรอด มิใช่เพราะปัญญาชนเยี่ยงคุณหนู คุณหมอเสม คุณหมอประเวศ ส.ศิวลักษณ์ หรือแม้แต่สนธิ ลิ้มทองกุล กับพล.ต.จำลอง ดอกหรือที่ดาหน้ากันออกมาปกป้องทักษิณ ด้วยเหตุและผลสารพัดที่มันขัดกับกฎหมาย จนกระทั่งมวลชนรากหญ้าได้เรียนรู้และเห็นทักษิณเป็นเทวดาตั้งแต่นั้นมา
เพราะฉะนั้นมันไม่แปลกหรอกที่หลังจากนั้น คนอย่างทักษิณจะทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย และโอหังบังอาจคิดว่าตนใหญ่กว่าใครในแผ่นดิน
คุณหนูอย่าไปโทษบาปแต่ปางก่อนของชาติไทยเลยครับ วิกฤตมันเกิดต่อเนื่องกันเพราะกรรม (เลว) ของคนและกลุ่มบุคคลในชาตินี้แหละครับ เริ่มตั้งแต่รัฐประหาร 2490โดยปู่อาจารย์โต้งของพวกเรานี่แหละ ระบบการเมืองทราม ที่เรียกว่า “วงจรอุบาทว์” ระหว่าง “กงจักร” และ “น้ำเน่า” ก็ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาบริหารประเทศ
ความกลัวคอมมิวนิสต์หนึ่ง ความขี้รำคาญซึ่งเป็นสันดานของเผด็จการ หนึ่ง ทำให้เกิดการจดทะเบียนพรรคการเมืองเหมือนบริษัทรับเหมา เป็นพรรคแบบ “รวมศูนย์-รวบอำนาจ-เป็นทาสหัวหน้า” ที่เสนาะ เทียนทอง บรรยายว่าเหมือนคุกขัง ส.ส.เพราะแต่ละพรรคล้วนเป็น “พรรคหัวหน้าตั้ง” จึง “ไม่มีวันยั่งยืน” รุ่งเรืองและแตกดับไปกับชะตากรรมของหัวหน้า การเมืองไทยจึงกลายเป็นเรื่อง “ชั่วคราว” แบบ “สมบัติผลัดกันชม” ต้อง “แย่งกันเป็น-แย่งกันกิน” มาตลอด ทำให้ผู้คนเบื่อหน่ายเอือมระอาไปตามๆ กัน
จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอการเมืองแบบ “คิดใหม่-ทำใหม่” โดยผู้นำที่ “รวยแล้วไม่โกง” ที่หาเสียงแบบซื้อแหลกแจกแถม และการตลาดอย่างเยี่ยมยอด ทำให้พรรคไทยรักไทยของทักษิณชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวปกครองประเทศได้สบายๆ แต่ทักษิณโลภมากบ้าอำนาจ หวังจะสถาปนาระบบพรรคเดียวขึ้นให้ได้ จึงเที่ยววิ่งยื้อพรรค ยุบพรรค ซื้อพรรค ควบพรรค ให้มาเข้าพรรคไทยรักไทยเกือบหมด
เมื่อรวบอำนาจการเมืองไว้ได้แล้ว ทักษิณก็ย่ามใจ เข้าแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ทหาร ข้าราชการได้จนหมดทุกกระทรวงไม่มีเหลือ ซ้ำเข้าครอบงำควบคุมองค์กรอิสระเช่น กกต. วุฒิสภา และป.ป.ช.ไว้จนปราศจากอำนาจตรวจสอบใดๆ ที่จะ “ระคายเคืองรัฐอำนาจ” ของทักษิณได้ พรรคฝ่ายค้านก็ปุโรทั่งไร้น้ำยาโดยสิ้นเชิง
แล้วทักษิณก็ก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองอย่างบ้าระห่ำราวกับสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ไม่ปาน
ผมดีใจที่ในที่สุด พล.ต.จำลอง สนธิ คุณหมอประเวศ และคุณหนูของผมพากันสำนึกบาป ออกมาระดมพี่น้องประชาชนให้หูตาสว่างพากันขับไล่ระบอบทักษิณ
แต่ถึงแม้ คมช.จะ “ลักไก่” กระทำรัฐประหารขับไล่ทักษิณออกไปแล้ว ข้าทาสบริวารและผู้คนของทักษิณก็ยังครบเครื่องอู้ฟู้อยู่ในบ้านเมืองอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผมสันนิษฐานว่า ทั้ง คมช. และรัฐบาลอาจจะอ่อนข้อต่อรองบางอย่างกับทักษิณและเมียด้วยซ้ำ ปราศจาก คตส.แทบจะกล่าวได้ว่า คมช. ทำให้บ้านเมืองเสียเวลาไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
ระบอบทักษิณสามารถกลับมาครองอำนาจรัฐได้ภายในเวลาเพียง 18 เดือน ตามที่ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประ เทศทีเดียว ประชานิยมเปรอะกว่าจะคืนสู่อำนาจได้ต้องใช้เวลาตั้ง 18 ปี
คุณหนูหายเคืองหรือยังครับ ที่ผมทำนายไว้ในเดือนตุลาคม 2549 ว่าระบอบทักษิณจะกลับมาเอาชนะระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้อีก คุณหนูอย่าโกรธนะครับ ถ้าผมจะทำนายต่อว่า ระบอบทักษิณจะชนะสงครามครั้งสุดท้ายได้ในไม่นาน
ผมเสียใจที่สุดครับคุณหนู ผมอยากต่อสู้จนลมหายใจสุดท้ายเพื่อประเทศและพระเจ้าแผ่นดินของผม แต่ผมไม่รู้ว่าจะร่วมกับใครและทำอย่างไร
ผมรู้ว่า พันธมิตรฯ ถึงจะเก่งเพียงใด ยิ่งใหญ่แค่ไหน ปลุกตื่นสำนึกคนไทยให้สร้างประวัติศาสตร์การชุมนุมประท้วงด้วยสันติอหิงสาอย่างงดงามเพียงใด แต่พันธมิตรฯ ไม่มีกองกำลังติดอาวุธที่พร้อม แถมยังจัดกระบวนไม่ทัน ปล่อยให้พรรคไทยรักไทยดอดเข้ามายึดอำนาจรัฐหน้าตาเฉย
เมื่อมีอำนาจรัฐและเงินของทักษิณด้วยแล้ว อะไรมันจะยากอีกละครับ วัฒนธรรมไทยมิใช่หรือที่บอกว่า “มีเงิน เขาก็วิ่ง มาเป็นข้า” พวกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ทำไมจึงจะไม่วิ่งกรูกันเข้าหาแบบ “ชนะไหน เข้าด้วย ช่วยกระพือ เหมือนกระสือ ฝูงห่า ลงหากิน”
ถึงแม้ทักษิณจะถูกพิพากษาจำคุก ก็เรื่องเล็กครับ “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม ล้วนแต่เป็นการกระทำที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งเป็นการสมคบกันของ บรรดาชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ทั้งหลาย ผู้เชื่อในทุกสิ่งอย่าง ยกเว้นประชาธิปไตย ผมเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา เพียงเพราะผมเป็นตัวแทนของหลักการแห่งระบอบเสรีประชาธิปไตย ซึ่งส่งเสริมความหวังและความภาคภูมิใจของคนยากคนจนในประเทศของผม
ประเทศไทยเป็นและจะยังคงเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม คนจำนวนไม่มากที่ไม่สามารถเผชิญกับความจริงได้ กำลังขัดขวางเจตจำนงของคนส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่า ในท้ายที่สุดพี่น้องชาวไทยจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ และการสิ้นสุดของฝันร้ายอยู่ไม่ไกล”
เพื่อบรรลุฝันอันสูงสุด ข้าทาสบริวารของทักษิณทั้งในและนอกระบบราชการ ต่างก็พากันจาบจ้วงบั่นทอนศาลยุติธรรมและสถาบันกบัตริย์อย่างสนุกสนาน จับได้แต่ปลาซิวปลาสร้อยไม่กี่ตัว ที่เหลือขึ้นวอชูคออยู่ในทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงทบวงกรม รวมทั้งในกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พี่น้องประชาชนและพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสถาบันพากันถูกเข่นฆ่าล้มตายก็ด้วยเล่ห์เพทุบายของคนพวกนี้
คุณหนูที่รักยิ่งครับ ผมมหัศจรรย์เหลือหลาย ทำไมจนป่านนี้ สังคมไทย ทหาร อาจารย์กฎหมาย นักรัฐศาสตร์ ฯลฯ ยังไม่รับว่า พรรคพลังประชาชนคือพรรคไทยรักไทยแปลงร่างมาด้วยเล่ห์เพทุบาย ทำให้คำพิพากษาของศาลให้ยุบพรรคและห้ามกรรมการบริหารพรรค 111 คนเกี่ยวข้องกับการเมืองเป็นอัน “ไร้ผล”
เพราะพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคนอกกฎหมาย การเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ไม่ต่างอะไรกับการยึดอำนาจดีๆ นี่เอง บรรดาโมฆบุรุษและโมฆสตรีในรัฐบาล ในสภาและในระบบราชการทั้งหลายรวมทั้ง นปก.-นปช.ล้วนแต่เป็นขี้หมูไหลพวกเดียวกันทั้งสิ้น มิน่าเล่า จึงพากันปกป้องผลประโยชน์ของทักษิณและพวกพ้องบริวารอย่างสุดฤทธิ์ ท่ามกลางการต่อสู้คัดค้านอย่างทรหดอดทนของพันธมิตรฯ และพันธมิตรฯ ของพันธมิตรฯ ทั่วประเทศและทั่วโลก
ฝ่ายแรกต้องการสร้างสาธารณรัฐ และฝ่ายหลังยืนหยัดป้องกันราชอาณาจักร
นี่ต่างหาก คือมูลเหตุแห่งวิกฤตในทัศนะของผม ซึ่งอาจจะต่างกับของคุณหนูเล็กน้อย
รักคุณหนูยิ่งชีวิต
เมืองไทย 30 ตุลาคม 2551