ว่าไปแล้ว “แสงแดด” สะสมอาการ “เอือม-เบื่อ-อึดอัด-เครียด” กับปัญหาของชาติบ้านเมืองที่ “สุมทุม” และไม่สำคัญเท่ากับว่า “หมักหมม” พร้อม “เติมเชื้อเพลิง” ได้ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำนอง “โปะปัญหา!” จนขอสารภาพว่า อาการต่างๆ เหล่านั้น ก่อให้เกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากรับรู้-รับฟัง” สารพันปัญหาของชาติบ้านเมือง จนไม่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาเหล่านี้อีกต่อไป!
แต่ทุกครั้งที่มานั่งฉุกคิด พร้อมทบทวนปัญหาชาติบ้านเมือง และพยายาม “สังเคราะห์-แยกแยะ” ปัญหาทั้งมวลแล้ว ก็ตบหน้าตนเองว่า “จะบ้ารึ!...ที่ไม่กล้าเผชิญกับความจริงของชาติบ้านเมือง!”
แทบทุกวันจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มอย่างหนา!” ที่เพียรพยายามตอบโต้ และแอบอ้าง “ความชอบธรรม ของตนเองและคณะ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายๆ กลุ่มดังต่อไปนี้
หนึ่ง “กลุ่มสร้างราคา-หาค่าตัว” กลุ่มนี้เป็น “กลุ่มผู้เฒ่า” ที่เคยมีบทบาทสำคัญในหน่วยราชการที่ตนเองสังกัดอยู่ อาจจะมีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “บทบาทมือปราบ” แต่ความจริงอีกหลากหลายสารพัดข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการเปิดเผยกันก็คือ “การทุจริตคอร์รัปชัน” จนมีบ้านและที่ดินทั่วบ้านทั่วเมือง แถมมี “ข่าวคาวอื้อฉาว!” ทุ่มเงิน 7-8 ล้าน เอาภรรยาคนอื่นมาครอบครองเพราะ “สวย-อายุน้อย!”
สอง กลุ่มนี้ชัดเจนเป็น “กลุ่ม นปช. : แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” ที่ปัจจุบันเรียกขานกันว่า “กลุ่มเสื้อแดง!” โดยแน่นอนที่มีกลุ่มที่หนึ่งเพิ่งจะเข้ามาเป็นแนวร่วมสร้างเสริมกำลังให้แข็งแกร่งขึ้น
“กลุ่มเสื้อแดง” นี้เป็น “กลุ่มฮาร์ดคอร์ (Hard Core)” ที่พร้อมจะเผชิญหน้าและปะทะได้ทุกรูปแบบ โดยมีการรวมตัวกันเหนียวแน่นมาโดยตลอด แต่เริ่มเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการกระจัดกระจายชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง จนจัดรายการ “ความจริงวันนี้” ที่เมืองทองธานี และครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ นัดชุมนุมกันที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งบอกว่าจะมีการระดมกลุ่มผู้ชุมนุมเรือนแสน
จากข้อมูลที่ได้สดับตรับฟังมานั้น ได้มีการระดมประชาชนจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้กลุ่มแกนนำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวบรวมมาให้ได้ ส.ส.ละหลายพัน จนถึงหลักหมื่นคนทีเดียว แต่มีการอ้างว่าเป็น “พลังเงียบ!”
ดังนั้น “กลุ่มเสื้อแดง-นปช.” นี้จะสามารถระดมกลุ่มผู้ชุมนุมจากภาคเหนือและภาคอีสาน ตลอดจน กลุ่มสมาชิกได้น่าจะถึงหลักแสนคนทีเดียว และที่สำคัญกับเหตุการณ์ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ จะมีการโทรศัพท์ทางไกลจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วย “ภาพ-เสียง” ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาแจมในการจัดรายการ “ความจริงวันนี้” ที่สนามกีฬาราชมังคลาฯ
เป้าหมายสำคัญ คือ เป็นการอธิบายถึง “ข้อกล่าวหา” และ “คดี” ล่าสุด ที่ถูกตัดสินพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่มีการรอลงอาญา จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีคดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก จากกองทุนฟื้นฟูฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย
การชุมนุมของ “กลุ่ม นปช.-เสื้อแดง” ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้จะเป็น “การแสดงพลัง” ครั้งสำคัญของกลุ่มนี้ ว่ามีสมาชิกมากมายเรือนแสน หรืออาจจะถึงหลักล้านคน พร้อมกับอ้างความชอบธรรมว่าเป็น “พลังเงียบ” อีกต่างหาก แต่ไฮไลต์ หรือ “เป้าหมายสูงสุด” ของการรวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อแสดงพลังให้ประชาชนคนไทยตระหนักว่า “สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
กลุ่มที่สาม “กลุ่มรู้ทัน” ของจำนวนคนไทยจำนวนมาก ที่ต้องบอกว่าเป็น “พลังเงียบ” จริงๆ ที่ “เบื่อหน่าย-เอือมระอา” กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ กลุ่มนี้ “รู้ทัน!” กับเหตุการณ์ทั้งหมด ตลอดจนเบื้องหน้าเบื้องหลังความเป็นมาของปัญหาชาติบ้านเมืองและการสนับสนุนของกลุ่มต่างๆ
“กลุ่มรู้เท่าทัน” นี้ ประกอบไปด้วย ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ สื่อมวลชน ชนชั้นผู้นำสังคม ที่มีข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เส้นทางทุจริตคอร์รัปชัน” ของอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ โดยกลุ่มนี้มักแสดงออกด้วยการประท้วงแบบ “ผู้ดี!” ไม่ต้องการความรุนแรงเหมือนสองกลุ่มแรก
ทั้งนี้ “กลุ่มรู้เท่าทัน” น่าจะมีบทบาทสำคัญในการรวมตัวกันเป็น “พลังเงียบ” อย่างแท้จริง มิได้มี “ปัจจัยเงินทุน” ที่จะมาจัดจ้างได้ ซึ่งอาจรวมตัวแสดงพลังกันเมื่อไหร่ก็ได้ ที่เห็นว่าชาติบ้านเมือง “บ้านแตกสาแหรกขาด!”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้จะได้รับการสนับสนุนจาก “กลุ่มปัญญาชน” และ “ข้าราชการ” ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “สถาบันกองทัพ” ที่พร้อมเสมอในการสนับสนุน “กลุ่มพลังเงียบจริง” นี้ และเมื่อกลุ่มนี้ถูกปะทะและรังแกเมื่อใด น่าเชื่อว่า “สถาบันกองทัพ” จะต้องออกจาก “รั้วกรมกอง”
กลุ่มที่สี่ แน่นอนคือ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นกลุ่มที่แสดงพลังต่อต้านมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ต้นปี 2549 กับ “ระบอบทุจริต-ฮุบชาติบ้านเมือง” ของกลุ่มการเมืองไทยรักไทย หรือ “ระบอบทักษิณ” ที่นับวันมีบทบาทสูงมากกับ “ประชาชนระดับรากหญ้า” ด้วย “เงินทุน” จำนวนมหาศาลที่พร้อมจะโปรยลงสู่ประชาชนระดับล่าง ที่การศึกษาน้อยและสถานะทางเศรษฐกิจยากจน
“ความจริง” ที่เราต้องยอมรับว่า “ขบวนการแยกบ้านแยกเมือง” ของ “กลุ่ม 1-2” ที่กล่าวข้างต้นนั้น เป็น “ขบวนการจัดจ้าง-ซื้อ” แทบทั้งนั้น มิใช่ “พลังบริสุทธิ์” ดังที่มีการกล่าวอ้างถึง “ความชอบธรรม” พูดง่ายๆ คือ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจาก “ระบบธุรกิจการเมือง” จาก “นายทุนการเมือง” ที่ปัจจุบัน “พร้อมรบ-พร้อมแตกหัก” หรือเลยเถิดไปถึง “สงครามประชาชน”
และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ “กลุ่มพันธมิตรฯ” จึงรวมตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนอดรนทนไม่ได้ ที่จะมีการสถาปนา “ระบอบการเมือง” ที่อ้างว่าเป็น “เสรีประชาธิปไตย” แต่จริงๆ แล้วเป็น “ระบอบธนาธิปไตย” ที่พยายามจัดตั้งให้เป็น “พรรคการเมือง” เพื่อ “กลุ่มทุน” โดยน่าจะคิดเลยเถิดไปจนถึง “การล้มล้างสถาบันฯ”
กรณีการตัดสิน “คดีที่ดินรัชดาฯ” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องโดนจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ติดคุกอยู่ดี เพราะหลีกหนีอยู่ต่างแดน จะขอลี้ภัยอยู่ประเทศอังกฤษหรือไม่นั้น ยังสับสนกันอยู่
การที่คุณทักษิณ ชินวัตร ได้ทำ “หนังสือแถลงการณ์” อธิบายความในใจกับ “สื่อต่างประเทศ” ทั่วโลก พยายามชี้แจงแถลงไข ว่า “ตนเองไม่ผิด!” แต่กลับโทษมาที่ “กระบวนการยุติธรรม” หรือ “ระบบศาล” ของไทยว่า “ถูกแทรกแซง!” ซ้ำร้ายมากไปกว่านั้น ยังอ้างว่า “บริสุทธิ์” และ “ทำความดีแก่ประเทศชาติ-ประชาชน”
แต่ที่อาจทำให้หลายๆ คนที่ “รู้ทัน” ออกอาการ “อึดอัด-เอียน” ที่คุณทักษิณ ชินวัตร บอกว่าเป็น “ตัวแทน” ของ “ระบบการเมืองเสรีประชาธิปไตย” ที่ประชาชนระดับล่างสนับสนุน
นอกเหนือจากนั้น ยังพาดพิงว่าตนเองถูก “ต่อต้าน” จาก “ชนชั้นสูง” ที่ไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตย พร้อมกับเป็น “กลุ่มอภิสิทธิ์ชน” อีกต่างหาก โดยอาจลืมไปว่า “การกล่าวร้าย-กล่าวโทษ” กับ “กลุ่มชนชั้นสูง” นั้น คำถามสำคัญก็ต้องถามว่า “กลุ่มชนชั้นสูง” นั้นหมายถึงอะไร และหมายถึงใคร?
เราคนไทยจำนวนมากต่างมี “ข้อกังขา-ข้อสงสัย” มาโดยตลอดว่า คุณทักษิณ “ต่อต้าน” สถาบันเบื้องสูง จนมีการนินทาว่า คุณทักษิณ “อาจเอื้อมล้มล้าง” สถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น การที่คุณทักษิณทำหนังสือแถลงการณ์เช่นนั้นต่อชาวโลก เท่ากับเป็นการ “ตอกย้ำ” และไม่สำคัญเท่ากับ “การสวนทาง” กับการที่คุณทักษิณเพียรพยายามป่าวประกาศว่า “จงรักภักดี” ต่อสถาบันฯ
ทั้งนี้ “ชนชั้นสูง” ที่คุณทักษิณ กล่าวถึงนั้น คลุมเครืออย่างมาก จนมีคำถามมากมายว่า คุณทักษิณ กล่าวพาดพิงถึงอะไรและใคร หรือ “ทนไม่ได้!” อีกต่อไปแล้วจนต้องกล่าวออกมาจากความอึดอัด และ “โกรธแค้น” ภายในอารมณ์
ในที่สุด บรรดาลูกสมุนต้องออกมาปกป้องว่า “ชนชั้นสูง” ที่คุณทักษิณ กล่าวถึงนั้น เป็นพวก “สามัญชน” แต่ชอบทำตัวเป็นเจ้า เท่ากับเป็นการหลีกหนีประเด็นให้กับคุณทักษิณ
ความจริงที่คุณทักษิณ ชินวัตร อาจไม่เข้าใจก็คือว่า “สังคมโลก” ในยุคโลกาภิวัตน์นั้น ต่างมีข้อมูลข่าวสารที่ “รู้เท่าทัน” และ “ตระหนัก” ถึงที่มาที่ไปของปัญหาการเมืองไทยเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น “ความจริง” ที่ชาวโลกและบรรดาหน่วยข่าวของสถานทูตต่างๆ ในเมืองไทย เขา “เกาะติด” สถานการณ์ในบ้านเมืองเราตลอดเวลา ไม่มีทางเล็ดลอดไปได้
“การกระทำ” ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เหมือนกับเป็นการ “ดีใส่ตัว ชั่วใส่ประเทศชาติ” และไม่สำคัญเท่ากับ ก่อให้เกิด “สงครามประชาชน” ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ การต่อสาย “ปราศรัย” กับบรรดาแฟนๆ ในเมืองไทยเพื่อ “ตอกลิ่ม” ให้เกิดความแตกแยกไปมากกว่านี้...อย่าทำเลย!
แต่ทุกครั้งที่มานั่งฉุกคิด พร้อมทบทวนปัญหาชาติบ้านเมือง และพยายาม “สังเคราะห์-แยกแยะ” ปัญหาทั้งมวลแล้ว ก็ตบหน้าตนเองว่า “จะบ้ารึ!...ที่ไม่กล้าเผชิญกับความจริงของชาติบ้านเมือง!”
แทบทุกวันจะมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มอย่างหนา!” ที่เพียรพยายามตอบโต้ และแอบอ้าง “ความชอบธรรม ของตนเองและคณะ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายๆ กลุ่มดังต่อไปนี้
หนึ่ง “กลุ่มสร้างราคา-หาค่าตัว” กลุ่มนี้เป็น “กลุ่มผู้เฒ่า” ที่เคยมีบทบาทสำคัญในหน่วยราชการที่ตนเองสังกัดอยู่ อาจจะมีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “บทบาทมือปราบ” แต่ความจริงอีกหลากหลายสารพัดข้อมูลที่ไม่ค่อยมีการเปิดเผยกันก็คือ “การทุจริตคอร์รัปชัน” จนมีบ้านและที่ดินทั่วบ้านทั่วเมือง แถมมี “ข่าวคาวอื้อฉาว!” ทุ่มเงิน 7-8 ล้าน เอาภรรยาคนอื่นมาครอบครองเพราะ “สวย-อายุน้อย!”
สอง กลุ่มนี้ชัดเจนเป็น “กลุ่ม นปช. : แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” ที่ปัจจุบันเรียกขานกันว่า “กลุ่มเสื้อแดง!” โดยแน่นอนที่มีกลุ่มที่หนึ่งเพิ่งจะเข้ามาเป็นแนวร่วมสร้างเสริมกำลังให้แข็งแกร่งขึ้น
“กลุ่มเสื้อแดง” นี้เป็น “กลุ่มฮาร์ดคอร์ (Hard Core)” ที่พร้อมจะเผชิญหน้าและปะทะได้ทุกรูปแบบ โดยมีการรวมตัวกันเหนียวแน่นมาโดยตลอด แต่เริ่มเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการกระจัดกระจายชุมนุมกันที่ท้องสนามหลวง จนจัดรายการ “ความจริงวันนี้” ที่เมืองทองธานี และครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ นัดชุมนุมกันที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งบอกว่าจะมีการระดมกลุ่มผู้ชุมนุมเรือนแสน
จากข้อมูลที่ได้สดับตรับฟังมานั้น ได้มีการระดมประชาชนจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้กลุ่มแกนนำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวบรวมมาให้ได้ ส.ส.ละหลายพัน จนถึงหลักหมื่นคนทีเดียว แต่มีการอ้างว่าเป็น “พลังเงียบ!”
ดังนั้น “กลุ่มเสื้อแดง-นปช.” นี้จะสามารถระดมกลุ่มผู้ชุมนุมจากภาคเหนือและภาคอีสาน ตลอดจน กลุ่มสมาชิกได้น่าจะถึงหลักแสนคนทีเดียว และที่สำคัญกับเหตุการณ์ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ จะมีการโทรศัพท์ทางไกลจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วย “ภาพ-เสียง” ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาแจมในการจัดรายการ “ความจริงวันนี้” ที่สนามกีฬาราชมังคลาฯ
เป้าหมายสำคัญ คือ เป็นการอธิบายถึง “ข้อกล่าวหา” และ “คดี” ล่าสุด ที่ถูกตัดสินพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่มีการรอลงอาญา จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในกรณีคดีซื้อที่ดินรัชดาภิเษก จากกองทุนฟื้นฟูฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย
การชุมนุมของ “กลุ่ม นปช.-เสื้อแดง” ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้จะเป็น “การแสดงพลัง” ครั้งสำคัญของกลุ่มนี้ ว่ามีสมาชิกมากมายเรือนแสน หรืออาจจะถึงหลักล้านคน พร้อมกับอ้างความชอบธรรมว่าเป็น “พลังเงียบ” อีกต่างหาก แต่ไฮไลต์ หรือ “เป้าหมายสูงสุด” ของการรวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อแสดงพลังให้ประชาชนคนไทยตระหนักว่า “สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
กลุ่มที่สาม “กลุ่มรู้ทัน” ของจำนวนคนไทยจำนวนมาก ที่ต้องบอกว่าเป็น “พลังเงียบ” จริงๆ ที่ “เบื่อหน่าย-เอือมระอา” กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ กลุ่มนี้ “รู้ทัน!” กับเหตุการณ์ทั้งหมด ตลอดจนเบื้องหน้าเบื้องหลังความเป็นมาของปัญหาชาติบ้านเมืองและการสนับสนุนของกลุ่มต่างๆ
“กลุ่มรู้เท่าทัน” นี้ ประกอบไปด้วย ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ สื่อมวลชน ชนชั้นผู้นำสังคม ที่มีข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เส้นทางทุจริตคอร์รัปชัน” ของอดีตนายกรัฐมนตรี คุณทักษิณ โดยกลุ่มนี้มักแสดงออกด้วยการประท้วงแบบ “ผู้ดี!” ไม่ต้องการความรุนแรงเหมือนสองกลุ่มแรก
ทั้งนี้ “กลุ่มรู้เท่าทัน” น่าจะมีบทบาทสำคัญในการรวมตัวกันเป็น “พลังเงียบ” อย่างแท้จริง มิได้มี “ปัจจัยเงินทุน” ที่จะมาจัดจ้างได้ ซึ่งอาจรวมตัวแสดงพลังกันเมื่อไหร่ก็ได้ ที่เห็นว่าชาติบ้านเมือง “บ้านแตกสาแหรกขาด!”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้จะได้รับการสนับสนุนจาก “กลุ่มปัญญาชน” และ “ข้าราชการ” ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “สถาบันกองทัพ” ที่พร้อมเสมอในการสนับสนุน “กลุ่มพลังเงียบจริง” นี้ และเมื่อกลุ่มนี้ถูกปะทะและรังแกเมื่อใด น่าเชื่อว่า “สถาบันกองทัพ” จะต้องออกจาก “รั้วกรมกอง”
กลุ่มที่สี่ แน่นอนคือ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นกลุ่มที่แสดงพลังต่อต้านมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ต้นปี 2549 กับ “ระบอบทุจริต-ฮุบชาติบ้านเมือง” ของกลุ่มการเมืองไทยรักไทย หรือ “ระบอบทักษิณ” ที่นับวันมีบทบาทสูงมากกับ “ประชาชนระดับรากหญ้า” ด้วย “เงินทุน” จำนวนมหาศาลที่พร้อมจะโปรยลงสู่ประชาชนระดับล่าง ที่การศึกษาน้อยและสถานะทางเศรษฐกิจยากจน
“ความจริง” ที่เราต้องยอมรับว่า “ขบวนการแยกบ้านแยกเมือง” ของ “กลุ่ม 1-2” ที่กล่าวข้างต้นนั้น เป็น “ขบวนการจัดจ้าง-ซื้อ” แทบทั้งนั้น มิใช่ “พลังบริสุทธิ์” ดังที่มีการกล่าวอ้างถึง “ความชอบธรรม” พูดง่ายๆ คือ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจาก “ระบบธุรกิจการเมือง” จาก “นายทุนการเมือง” ที่ปัจจุบัน “พร้อมรบ-พร้อมแตกหัก” หรือเลยเถิดไปถึง “สงครามประชาชน”
และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ “กลุ่มพันธมิตรฯ” จึงรวมตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนอดรนทนไม่ได้ ที่จะมีการสถาปนา “ระบอบการเมือง” ที่อ้างว่าเป็น “เสรีประชาธิปไตย” แต่จริงๆ แล้วเป็น “ระบอบธนาธิปไตย” ที่พยายามจัดตั้งให้เป็น “พรรคการเมือง” เพื่อ “กลุ่มทุน” โดยน่าจะคิดเลยเถิดไปจนถึง “การล้มล้างสถาบันฯ”
กรณีการตัดสิน “คดีที่ดินรัชดาฯ” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องโดนจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ติดคุกอยู่ดี เพราะหลีกหนีอยู่ต่างแดน จะขอลี้ภัยอยู่ประเทศอังกฤษหรือไม่นั้น ยังสับสนกันอยู่
การที่คุณทักษิณ ชินวัตร ได้ทำ “หนังสือแถลงการณ์” อธิบายความในใจกับ “สื่อต่างประเทศ” ทั่วโลก พยายามชี้แจงแถลงไข ว่า “ตนเองไม่ผิด!” แต่กลับโทษมาที่ “กระบวนการยุติธรรม” หรือ “ระบบศาล” ของไทยว่า “ถูกแทรกแซง!” ซ้ำร้ายมากไปกว่านั้น ยังอ้างว่า “บริสุทธิ์” และ “ทำความดีแก่ประเทศชาติ-ประชาชน”
แต่ที่อาจทำให้หลายๆ คนที่ “รู้ทัน” ออกอาการ “อึดอัด-เอียน” ที่คุณทักษิณ ชินวัตร บอกว่าเป็น “ตัวแทน” ของ “ระบบการเมืองเสรีประชาธิปไตย” ที่ประชาชนระดับล่างสนับสนุน
นอกเหนือจากนั้น ยังพาดพิงว่าตนเองถูก “ต่อต้าน” จาก “ชนชั้นสูง” ที่ไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตย พร้อมกับเป็น “กลุ่มอภิสิทธิ์ชน” อีกต่างหาก โดยอาจลืมไปว่า “การกล่าวร้าย-กล่าวโทษ” กับ “กลุ่มชนชั้นสูง” นั้น คำถามสำคัญก็ต้องถามว่า “กลุ่มชนชั้นสูง” นั้นหมายถึงอะไร และหมายถึงใคร?
เราคนไทยจำนวนมากต่างมี “ข้อกังขา-ข้อสงสัย” มาโดยตลอดว่า คุณทักษิณ “ต่อต้าน” สถาบันเบื้องสูง จนมีการนินทาว่า คุณทักษิณ “อาจเอื้อมล้มล้าง” สถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น การที่คุณทักษิณทำหนังสือแถลงการณ์เช่นนั้นต่อชาวโลก เท่ากับเป็นการ “ตอกย้ำ” และไม่สำคัญเท่ากับ “การสวนทาง” กับการที่คุณทักษิณเพียรพยายามป่าวประกาศว่า “จงรักภักดี” ต่อสถาบันฯ
ทั้งนี้ “ชนชั้นสูง” ที่คุณทักษิณ กล่าวถึงนั้น คลุมเครืออย่างมาก จนมีคำถามมากมายว่า คุณทักษิณ กล่าวพาดพิงถึงอะไรและใคร หรือ “ทนไม่ได้!” อีกต่อไปแล้วจนต้องกล่าวออกมาจากความอึดอัด และ “โกรธแค้น” ภายในอารมณ์
ในที่สุด บรรดาลูกสมุนต้องออกมาปกป้องว่า “ชนชั้นสูง” ที่คุณทักษิณ กล่าวถึงนั้น เป็นพวก “สามัญชน” แต่ชอบทำตัวเป็นเจ้า เท่ากับเป็นการหลีกหนีประเด็นให้กับคุณทักษิณ
ความจริงที่คุณทักษิณ ชินวัตร อาจไม่เข้าใจก็คือว่า “สังคมโลก” ในยุคโลกาภิวัตน์นั้น ต่างมีข้อมูลข่าวสารที่ “รู้เท่าทัน” และ “ตระหนัก” ถึงที่มาที่ไปของปัญหาการเมืองไทยเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น “ความจริง” ที่ชาวโลกและบรรดาหน่วยข่าวของสถานทูตต่างๆ ในเมืองไทย เขา “เกาะติด” สถานการณ์ในบ้านเมืองเราตลอดเวลา ไม่มีทางเล็ดลอดไปได้
“การกระทำ” ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เหมือนกับเป็นการ “ดีใส่ตัว ชั่วใส่ประเทศชาติ” และไม่สำคัญเท่ากับ ก่อให้เกิด “สงครามประชาชน” ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ในวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ การต่อสาย “ปราศรัย” กับบรรดาแฟนๆ ในเมืองไทยเพื่อ “ตอกลิ่ม” ให้เกิดความแตกแยกไปมากกว่านี้...อย่าทำเลย!
