กาญจนบุรี – ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี ทนรับปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีไม่ไหว ประกาศขายบ้านและที่ดินเพื่ออพยพหนีภัยแล้งไปอยู่ที่อื่น เผยชาวบ้านกว่า 400 ครัวเรือนในพื้นที่ทุกคนกำลังเดือดร้อนหนัก อัดหน่วยงานรัฐไม่เคยให้ความสนใจปัญหาของชาวบ้าน แฉก่อนหน้านี้ส่วนราชการได้เข้าไปสำรวจและรับปากว่าจะนำเงินช่วยเหลือภัยแล้งมาช่วยเหลือ แต่จนถึงทุกวันนี้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านยังไม่เคยมีใครเคยได้รับการช่วยเหลือเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรี วันนี้ (11 ก.พ.) ว่าขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก จนชาวบ้านขาดแคลนน้ำทำนา ในขณะที่สระน้ำกลางหมู่บ้านที่ชาวบ้านไว้อุปโภคและบริโภคกำลังแห้งลงทุกที่และห้วยหนองก็แห้งจนดินแตกระแหง
นายโกศล เพ็งอร่าม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.หนองขาว .ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านหมู่ 6 มีอาชีพทำนา เปิดเผยว่า หมู่บ้านของตนแห้งแล้งมานานและไม่มีคลองชลประทานผ่าน ถึงฤดูทำนาต้องรอฝนตกเพียงอย่างเดียวและหากปีไหนฝนไม่ตกตามฤดูกาล ถึงแม้จะเป็นช่วงปลูกข้าวนาปี ต้นข้าวก็จะมานไม่ออกเมล็ดและแห้งตายและในช่วงปลูกข้าวนาปรังไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านทั้งหมู่บ้านที่มีอยู่กว่า 400 ครัวเรือน ไม่สามารถทำนาได้เลย
ดังนั้น พวกเราชาวบ้านหมู่ 6 ทั้ง 400 ครัวเรือน จึงอยากให้หน่วยงานของภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือพวกเราโดยการขุดคลองชลประทาน เพราะจะได้ทำนาปีและนาปรังกับเขาบ้าง หากคลองชลประทานผ่านมาจะมีชาวบ้านที่จะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด 13 หมู่บ้านและยังมีบางส่วนที่ชาวบ้านจากตำบลอื่นอีกที่มีที่นาอยู่บริเวณใกล้เคียงกันนี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
นายโกศล กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในหมู่บ้านของตนเคยถูกประกาศว่าเป็นหมู่บ้านที่มีภัยแล้งมากที่สุด และส่วนราชการได้เข้ามาสำรวจและได้บอกว่าจะนำเงินช่วยเหลือภัยแล้งมาช่วยเหลือ แต่จนถึงทุกวันนี้พวกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็ยังไม่มีใครเคยได้รับการช่วยเหลือเลย จนพวกตนและชาวบ้านต้องซื้อข้าวสารกินในราคาถังละ 300-400 บาท
ส่วนน้ำประปาภายในหมู่บ้านใช้น้ำดิบที่สระน้ำ แต้ถ้าฝนไม่ตกภายใน 2 เดือนนี้น้ำในสระก็แห้ง ชาวบ้านต้องซื้อน้ำที่พ่อค้านำมาขายในราคาถังละ 300 ถึง 400 บาท (ถังละ 3,000 ลิตร)
“ขณะนี้ชาวบ้านบางส่วนในหมู่ 6 ได้มีการติดป้ายประกาศขายบ้านขายที่ดินกันแล้วเพื่อที่จะอพยพหนีปัญหาภัยแล้งไปหาที่ทำกินที่ใหม่ เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานราชการไม่มีความจริงใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด มีแต่เข้าไปสำรวจและบอกว่าจะนำงบประมาณมาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็หายเงียบ” นายโกศล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรี วันนี้ (11 ก.พ.) ว่าขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก จนชาวบ้านขาดแคลนน้ำทำนา ในขณะที่สระน้ำกลางหมู่บ้านที่ชาวบ้านไว้อุปโภคและบริโภคกำลังแห้งลงทุกที่และห้วยหนองก็แห้งจนดินแตกระแหง
นายโกศล เพ็งอร่าม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.หนองขาว .ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านหมู่ 6 มีอาชีพทำนา เปิดเผยว่า หมู่บ้านของตนแห้งแล้งมานานและไม่มีคลองชลประทานผ่าน ถึงฤดูทำนาต้องรอฝนตกเพียงอย่างเดียวและหากปีไหนฝนไม่ตกตามฤดูกาล ถึงแม้จะเป็นช่วงปลูกข้าวนาปี ต้นข้าวก็จะมานไม่ออกเมล็ดและแห้งตายและในช่วงปลูกข้าวนาปรังไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านทั้งหมู่บ้านที่มีอยู่กว่า 400 ครัวเรือน ไม่สามารถทำนาได้เลย
ดังนั้น พวกเราชาวบ้านหมู่ 6 ทั้ง 400 ครัวเรือน จึงอยากให้หน่วยงานของภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือพวกเราโดยการขุดคลองชลประทาน เพราะจะได้ทำนาปีและนาปรังกับเขาบ้าง หากคลองชลประทานผ่านมาจะมีชาวบ้านที่จะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด 13 หมู่บ้านและยังมีบางส่วนที่ชาวบ้านจากตำบลอื่นอีกที่มีที่นาอยู่บริเวณใกล้เคียงกันนี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
นายโกศล กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2551 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในหมู่บ้านของตนเคยถูกประกาศว่าเป็นหมู่บ้านที่มีภัยแล้งมากที่สุด และส่วนราชการได้เข้ามาสำรวจและได้บอกว่าจะนำเงินช่วยเหลือภัยแล้งมาช่วยเหลือ แต่จนถึงทุกวันนี้พวกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็ยังไม่มีใครเคยได้รับการช่วยเหลือเลย จนพวกตนและชาวบ้านต้องซื้อข้าวสารกินในราคาถังละ 300-400 บาท
ส่วนน้ำประปาภายในหมู่บ้านใช้น้ำดิบที่สระน้ำ แต้ถ้าฝนไม่ตกภายใน 2 เดือนนี้น้ำในสระก็แห้ง ชาวบ้านต้องซื้อน้ำที่พ่อค้านำมาขายในราคาถังละ 300 ถึง 400 บาท (ถังละ 3,000 ลิตร)
“ขณะนี้ชาวบ้านบางส่วนในหมู่ 6 ได้มีการติดป้ายประกาศขายบ้านขายที่ดินกันแล้วเพื่อที่จะอพยพหนีปัญหาภัยแล้งไปหาที่ทำกินที่ใหม่ เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานราชการไม่มีความจริงใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด มีแต่เข้าไปสำรวจและบอกว่าจะนำงบประมาณมาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็หายเงียบ” นายโกศล กล่าว