ASTVผู้จัดการรายวัน -- กัมพูชากำลังพิจารณา และเชื่อว่า ในที่สุดรัฐบาลจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อและเป็นเจ้าของอาคารบ้านเรือนทั่วไปได้ โดยไม่มีสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำสุดขีดในรอบ 5-6 ปี
ราคาอาคารและที่ดินเริ่มตกต่ำตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีนี้ โครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ของนักลงทุนต่างชาติเริ่มได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และ หลายแห่งได้หยุดการก่อสร้างลงแล้ว
ในปี 2548 รัฐบาลกัมพูชาได้แก้ไขกฎหมายการลงทุนให้ต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของอาคารและสิ่งปลูกสร้างได้ แต่ยังไม่เคยนำออกบังคับใช้ เนื่องจากเป็นช่วงปีที่ธุรกิจบ้านและที่ดินกำลังเฟื่องฟูติดอันดับต้นๆ ในทวีปเอเชีย ความคิดนี้ได้ถูกระงับไป
ราคาบ้านและที่ดินพุ่งขึ้น 25-40% ต่อปีในช่วงปี 2547-2550 เริ่มจากในกรุงพนมเปญ เสียมราฐ สีหนุวิลล์ ก่อนที่จะสูงขึ้นทั่วประเทศ ทำเลทองอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปยังรวมถึงอาณาบริเวณชายแดนติดกับไทยและเวียดนาม กระทั่งชายแดนลาว
ในปี 2543 ราคาที่ดินในเขตที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของเมืองหลวงยังซื้อขายกันที่ 500 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร ไม่กี่ปีต่อมาราคาที่ตามแนวถนนนโรดมบูลวาร์ดสายใจกลางเมืองได้พุ่งขึ้นเป็น ตร.ม.ละ 4,000 ดอลลาร์ และ 2,500 ดอลลาร์ในย่านที่อยู่อาศัยรอบๆ บึงใหญ่กลางเมือง
ปัจจุบันในกรุงพนมเปญ และรอบๆ มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่กว่า 30 โครงการ ที่การก่อสร้างยังคงคาราคาซัง ซึ่งเกือบทุกแห่งกำลังมีปัญหา รวมทั้งโครงการเมืองบริวาร 2-3 แห่ง
ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงชัดเจนในเดือนกลางปี ซึ่งฟองสบู่เริ่มแตก วิกฤตการณ์การเงินในระดับโลกทำให้นักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีต้องถอนสินทรัพย์จากต่างแดนกลับประเทศ เพื่อรักษาสภาพคล่อง
ยอดขายบ้านและที่ดินตกลง 30-50% จากปีที่แล้ว ทำให้ทางการต้องขบคิดหาทางออก
กรุงพนมเปญเป็นเมืองที่แฝงด้วยความสวยงามจากสิ่งปลูกสร้างในยุคอาณานิคม ถนนในเมืองกว้างขวาง และยังมีย่านท่าเรือกับย่านริมน้ำเพื่อการหย่อนใจ แม้ว่าจะมีปัญหามลพิษอยู่ก็ตาม
ส่วนในเสียมราฐการพัฒนายิ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว ที่นั่นเป็นที่ตั้งของปราสาทนครวัด ราคาที่ดินพุ่งขึ้น 25-30% ทุกปีในช่วง 4 ปีให้หลัง ปัจจุบันราคาเฉลี่ย 500-600 ดอลลาร์ต่อ ตร.ม. ในย่านทำเลทองกลางเมืองราคาถูกปั่นขึ้นไปถึง ตร.ม.ละ 1,600 ดอลลาร์
สำหรับเมืองสีหนุวิลล์ริมทะเลอ่าวไทย ก็กำลังฟู่ฟ่าด้วยนักท่องเที่ยวและการลงทุนทางด้านนี้ เนื่องจากมีหาดทรายสวยงาม ใกล้กับฝั่งเป็นเกาะใหญ่น้อยนับสิบแห่ง เกือบทั้งหมดกำลังพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยทุนของต่างชาติ
กัมพูชาตั้งอยู่ในจุดภูมิรัฐศาสตร์สำคัญของคาบสมุทรอินโดจีน อยู่ระหว่างไทยกับเวียดนามเพื่อนบ้านที่พัฒนาไปมากกว่า แต่ไม่กี่ปีมานี้กัมพูชาได้กลายเป็นปลายทางใหม่ของการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราสูงเฉลี่ยปีละกว่า 10%
กัมพูชายังไม่อนุญาตให้เอกชนต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดินในประเทศ แต่ต่างชาติสามารถขอเช่าในระยะยาว และต่อสัญญาเช่าได้อีกเป็นช่วงๆ ตามแต่จะตกลงกันได้ หรือซื้อโดยผ่านบริษัทร่วมทุนที่จดทะเบียนในกัมพูชาซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด