เอเจนซี/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลงกว่า 3 ดอลลาร์ เมื่อวันจันทร์ (9) หลังจากพุ่งทะยานหลุดโลกในตอนปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งพวกเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์วอลล์สตรีทส่วนใหญ่อ้างเรื่องปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่โอเปกยืนยันว่าเป็นเพราะการเก็งกำไร
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก เพื่อการส่งมอบเดือนกรกฎาคม ซึ่งกระโจนพรวดเกือบ 11 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (6) หลังจากวิ่งขึ้นไปแล้วกว่า 5 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (5) ได้กลับถอยลงมา 3.12 ดอลลาร์ ยืนอยู่ที่ 135.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในเวลา 14.15 น.เวลามาตรฐานกรีนิซ (ตรงกับ 21.15 น.เวลาเมืองไทย) เมื่อวานนี้ ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน ก็ไหลลงมา 3.18 ดอลลาร์ อยู่ที่ 134.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แรงซื้อซึ่งทะลักทะลายเข้าสู่ตลาดตอนปลายสัปดาห์ที่แล้ว มีชนวนมาจากปัจจัยต่างๆ หลายประการ ตั้งแต่คำพูดของรัฐมนตรีคนสำคัญของอิสราเอลที่ว่า การโจมตีสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน เป็นสิ่งที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” แล้ว ไปจนถึงการอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ และการเก็งกำไร ตลอดจนคำทำนายของ มอร์แกนสแตนลีย์ วาณิชธนกิจใหญ่รายหนึ่งของวอลล์สตรีทที่ว่า ราคาน้ำมันอาจไต่ไปถึงระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายในช่วงวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคม
**โกลด์แมนแซคส์-ซิตี้กรุ๊ปบอกราคาพุ่งต่อ**
เจฟฟรีย์ เคอร์รี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกของโกลด์แมนแซคส์ ยักษ์ใหญ่วาณิชธนกิจวอลล์สตรีทอีกรายหนึ่งเมื่อวานนี้ก็กล่าวย้ำทัศนะของมอร์แกนสแตนลีย์ โดยบอกกับที่ประชุมด้านพลังงานในมาเลเซียว่า “อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันกำลังอ่อนตัวลงก็จริง ทว่าอุปทานน้ำมันกลับอ่อนตัวยิ่งกว่านั้นเสียอีก”
“ผมใคร่ที่จะเสนอแนะว่าความเป็นไปได้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลที่สิ่งนั้นกำลังจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นอีก...ช่วงใดช่วงหนึ่งในฤดูร้อนนี้แหละ” เคอร์รี กล่าวโดยหมายถึงราคาน้ำมันที่ระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับฤดูร้อนในสหรัฐฯนั้น อยู่ในช่วงระหว่าง 20 มิถุนายน ถึง 20 กันยายน
ทางด้าน ซิตี้กรุ๊ป ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ระบุในรายงานส่งถึงลูกค้าฉบับหนึ่งเมื่อวันจันทร์ว่า แนวคิดใหญ่เบื้องหลังการวิ่งตะบึงอย่างบ้าเลือดของราคาน้ำมันในเวลานี้ อาจจะอยู่ที่อุปทานน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่น่าผิดหวัง แต่อุปสงค์ของโลกยังคงสดใสมาก และราคาก็อาจจะทะยานไปมากกว่านี้อีก
ซิตี้กรุ๊ป อกว่า แม้ราคาน้ำมันจะพุ่งทำนิวไฮครั้งแล้วครั้งเล่า แต่อุปสงค์ของโลกก็คาดหมายกันว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ ขณะที่อุปทานจากพวกผู้ผลิตนอกองค์การโอเปก กำลังอยู่ในภาวะที่อาจจะไม่มีการขยายตัวเลย
**เลห์แมนชี้ราคาอาจตกฮวบปลายปี**
ขณะที่ เลห์แมนบราเธอร์ส วาณิชธนกิจในวอลล์สตรีทอีกรายหนึ่ง กล่าวในบทวิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันที่สูงลิ่วจะตัดลดอัตราขยายตัวของอุปสงค์ จนเพียงพอที่จะทำให้อุปทานสามารถสนองได้ทัน ทว่าเนื่องจากมีความเหลื่อมในด้านเวลา ดังนั้นจึงอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ กว่าที่การถดถอยของอุปสงค์จะปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นตัวเลข และเรื่องอย่างนี้ พวกเทรดเดอร์น้ำมัน “ดูเหมือนจะไม่ยอมรอคอยกัน”
“ถ้าราคายังคงไต่ต่อไปจากตรงนี้ พวกเรากลัวว่าจุดที่เป็นจุดสูงสุดในทางเศรษฐกิจอาจจะมาถึงกันในเอเชีย และตลาดก็จะพบว่าตัวเองเต็มไปด้วยอุปสงค์ที่ถดถอยลงไป มากเกินกว่าที่ตลาดจะคิดคำนึงเอาไว้” แอดัม โรบินสัน และไมเคิล วอลดรอน สองนักวิเคราะห์ของเลห์แมนกล่าวในรายงานฉบับลงวันที่ 6 มิถุนายน
“อย่างไรก็ตาม ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าหากไม่คิดไปถึงเรื่องจะเกิดการทรุดฮวบทางเศรษฐกิจแล้ว ข้อมูลที่พวกเราจำเป็นต้องมีเพื่อพิสูจน์ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับภาวะตลาดน้ำมันของพวกเรา ยังไม่น่าที่จะหาได้จนกระทั่งภายหลังผ่านฤดูร้อนปีนี้ไปแล้ว”
“ก่อนจะถึงไตรมาส 4 ดูจะเป็นเรื่องแน่นอนที่จะมีความเสี่ยงได้เห็นราคาพุ่งพรวดเพิ่มขึ้นอีกในตลาดที่ไร้ความอดทน แต่เมื่อข้อมูลดังกล่าวปรากฏออกมาแล้ว ความเคลื่อนไหวของราคาก็อาจจะแรงในทางขาลงพอๆ กับที่ได้แรงในทางขาขึ้นมาแล้ว” สองนักวิเคราะห์ของเลห์แมนคาดหมาย
**โอเปกยืนยันน้ำมันขึ้นบ้าเลือดเพราะแรงเก็งกำไร**
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกเพียงรายเดียวที่มีศักยภาพเพิ่มการผลิตน้ำมันได้อย่างรวดเร็วและในปริมาณมาก ยังคงพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ราคาน้ำมันที่ขึ้นไปในอีกนี้ ไม่มีทางที่จะอธิบายด้วยเหตุผลทางปัจจัยพื้นฐาน
ในการหารือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย อาลี อัลไนมี กับรัฐมนตรีของปากีสถาน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าราคาที่พุ่งขึ้นเป็นสิ่งไม่มีเหตุผล ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวของทางการซาอุดี
ส่วน ชาคิบ เคลิล ประธานโอเปกคนปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐมนตรีน้ำมันของแอลจีเรียด้วย กล่าววานนี้ว่า ถ้าไม่มีเหตุผลเรื่องดอลลาร์อ่อนค่า, ความตึงเครียดทางการเมือง และการเก็งกำไรแล้ว ราคาน้ำมันก็อาจจะอยู่แถวๆ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานแล้ว ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอุปทานและอุปสงค์เลย แต่มีฟองสบู่อันเกิดจากการเก็งกำไรกันมากกว่า ซึ่งก็เก็งกำไรกันโดยอาศัยเรื่องดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความตึงเตรียดทางภูมิรัฐศาสตร์” สำนักข่าวของทางการแอลจีเรียอ้างคำพูดของเคลิล
นักวิเคราะห์บางส่วนก็เห็นในแนวทางนี้เช่นกัน ดังเช่น พวกนักวิเคราะห์ของเดอะ โชร์ก รีพอร์ต เขียนเอาไว้ว่า “ถ้าใครก็ตามที่จะพยายามเสกสรรคำอธิบายที่เหมือนสมเหตุสมผลออกมา เกี่ยวกับสิ่งที่ปรากฏเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้วในความสลับซับซ้อนของเรื่องพลังงาน คุณก็ควรจะปิดปากหยุดรับฟังพวกเขาเสีย หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น ก็ควงหมัดอัดใส่จมูกพวกเขาเลย”
