นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันบริหารประเทศชาติต่อไปว่า ขณะนี้นายสมชาย มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็นความหวังของประเทศ แต่วันนี้พฤติกรรมและสถานการณ์ซ้ำรอย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายสมัคร สุนทรเวช คือไม่ได้คิดแก้ปัญหาประเทศ และไม่รับผิดชอบต่อสถานการณ์บ้านเมือง
"วันนี้นายสมชาย กำลังนำพาประเทศไปสู่หายนะ บนความเสี่ยงสามปัจจัยคือ 1. เสี่ยงที่ประเทศกำลังสูญเสียประชาธิปไตย ทั้งที่รัฐบาลและพรรคพลังประชาชน อ้างเสมอว่าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง 2. เสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจที่จะทำให้ประเทศล่มจม เพราะกำลังอยู่ในภาวะล่อแหลมของเศรษฐกิจโลก ทั้งตลาดทุน และสถาบันการเงิน 3. เสี่ยงต่อความสูญเสียชีวิตประชาชน ท่ามกลางความขัดแย้งของคนสองกลุ่ม แทนที่ผู้บริหารประเทศจะลดความขัดแย้ง นำประเทศไปสู่ความสงบ แต่วันนี้เห็นได้ชัดว่านายสมชายไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น" นายสาธิตกล่าว
ส่วนที่นายกฯ ยืนยันจะรอผลการสอบของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี 7 ต.ค. นั้น ตนคิดว่าไม่มีผลอะไร เพราะคณะกรรมการเองก็บอกว่า มีอำนาจเพียงรวบรวมข้อเท็จจริง ส่งให้รัฐบาลเท่านั้น ไม่มีหน้าที่สรุปความถูก ผิด ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ส่วนข้ออ้างจัดงานใหญ่ 3 งาน เป็นข้ออ้างเก่า ที่นายสมัคร ก็เคยอ้างมาก่อน และงานนี้ไม่ว่าใครก็สามารถดำเนินการได้ ที่สำคัญคือประเทศชาติกำลังไปสู่หายนะ แต่นายสมชายไม่ได้นำพาในการแก้ไขปัญหา พรรคขอเรียกร้องให้นายสมชาย ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ปลดล็อกสถานการณ์ เพื่อให้คลี่คลายไปสู่การเริ่มต้นใหม่ อย่างน้อย ก็ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งและอึม ครึมที่เกิดขึ้นมีความชัดเจนขึ้นมาในระดับหนึ่ง นักลงทุน และนักวิเคราะห์จะได้มีความชัดเจนที่จะประเมินความเสี่ยงในการลงทุน
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายสมชาย สวมวิญญาณผู้พิพากษาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศชาติในขณะนี้ โดยอยากเห็นนายสมชาย รับฟังข้อเท็จจริงจากทุกกลุ่มอย่างแท้จริง การเดินทางไปที่อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา อาจจะเห็นภาพมายาจากบางกลุ่มที่อยากให้สู้ต่อ การไปประชุมร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะมีคนอยากให้สู้ต่อ แต่ยังมีอีกหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ หรือ กรรมการสิทธิมนุษยชน ที่เห็นว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบกับการสลายการชุมนุม ก็เป็นข้อเรียกร้องจากสังคมหลายกลุ่ม จึงอยากให้นายสมชาย ที่เคยเป็นผู้พิพากษา กล้าตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม เพราะการให้ความยุติธรรมที่ล่าช้า ถือว่าไม่ใช่ความยุติธรรม ซึ่งความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม จึงขอยืนยันว่า 15 วัน นานเกินไป สำหรับการตัดสินใจเรื่องใหญ่ของชาติ ตนอยากเห็นนายกฯ เสียสละ อย่านำเรื่องการเมืองหรือผลประโยชน์ส่วนตัวของครอบครัวมาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ และขอให้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนที่สุด การที่บอกว่าจะอยู่เพื่อทำ 3 พิธีใหญ่ ทุกคนตอบได้ว่า ถ้าไม่ใช่นายกฯสมชาย คนอื่นก็ทำได้ คนไทยทั้งสังคมพร้อมทำราชพิธีเหล่านี้ โดยไม่ต้องมีนายสมชาย ถ้าอ้างว่าจำเป็นต้องทำทั้ง 3 พิธีแล้วต้องอยู่ต่อ
"ผมขอบอกว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เราไม่ยอมรับ เพราะมีปัญหาตั้งแต่การแถลงนโยบายที่ไม่ชอบ อย่าทำการเซ็นสัญญาหรือเจรจาอื่นๆ อย่าใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียวเข้าไปทำเมกะโปรเจกต์ในโครงการต่างๆ ให้ทำเฉพาะ 3 พิธีนี้แล้วออกไป ถ้าจะอ้างทำ 3 พิธีนี้ให้ได้ อย่าทำเรื่องอื่นเด็ดขาด เพราะเรื่องอื่น เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ยอมรับ" นายบุญยอดกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี ควรรับผิดชอบอย่างไร ต่อกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติว่านายสมชาย ทำวินัยร้ายแรงสมัยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม นายบุญยอด กล่าวว่า ต้องถามนายกฯว่า คนเป็น ส.ส.กับคนเป็นรัฐมนตรี ใครต้องมีจริยธรรมสูงกว่ากัน ซึ่งรัฐมนตรีต้องมีจริยธรรมสูงกว่าส.ส. นายกรัฐมนตรี ต้องมีจริยธรรมสูงกว่าคนเป็นรัฐมนตรี และนายกฯ ที่มาจากผู้พิพากษายิ่งต้องมีจริยธรรมสูงที่สุด ถ้าโดนชี้มูลในคดีอย่างนี้แล้ว เราคงต้องถามหาจริยธรรมจากนายกฯว่า ท่านยังสะกดคำว่าจริยธรรมเป็นหรือไม่ ทั้งนี้ เห็นว่าถ้าเป็นในประเทศอื่นเขาคงลาออกไปแล้ว ต้องรับผิดชอบแล้ว เพราะโดนชี้มูลว่ามีความผิด
**วอนสื่อร่วมสกัดกั้นกลียุค
นายบุญยอด ยังเรียกร้องต่อสื่อมวลชนด้วยว่า เข้าใจว่าสื่อมวลชนทำงานด้วยความยากลำบาก แต่สื่อมวลชนก็ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลทุกกระทรวงว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่ การเจรจาไทย–กัมพูชา ที่อ้างเรื่องความมั่นคง จะต้องยืนยันว่าไทยไม่ได้เสียพื้นที่รอบบริเวณปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพียงแต่เสียการใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ไม่ได้เสียเอกราช ซึ่งคนไทยทุกคน และสื่อต้องยืนยัน และอยากให้สื่อตรวจสอบว่ารัฐบาลต้องการอยู่ต่อเพื่ออะไรกันแน่ โดยเฉพาะการนำมวลชนปะทะมวลชนที่อาจมีความเห็นแตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้กำลังทำให้ประเทศเดินเข้าสุ่กลียุคใช่หรือไม่ กำลังเดินไปสู่ 19 ก.ย. 49 ใช่หรือไม่ สื่อมวลชนต้องพยายามสกัดกั้นไม่ให้สองฝ่ายมาตีกัน เพราะคนไทยไม่ควรฆ่ากัน
**ชัยต้องรับผิดชอบเหตุการณ์7 ตุลา
นายบุญยอด ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมพิธีทำบุญที่อาคารรัฐสภาวันนี้(20ต.ค.) ว่า พวกตนได้รับเพียงข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเท่านั้น โดยยังไม่ได้รับจดหมายเชิญ และมีข้อสงสัยด้วยว่า พิธีที่ว่านี้มีความพิเศษอย่างไร หากนายชัยอยากทำบุญ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การทำบุญไม่ใช่การล้างความผิด สำหรับตนไม่ขอไปร่วมในพิธีทำบุญดังกล่าว เพราะไม่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการ โดยปกติพิธีการวางพานพุ่มต้องแต่งชุดขาวเต็มยศ แต่ข้อความที่ส่งมาบอกให้แต่งกายสุภาพ จึงไม่เข้าใจว่างานนี้คืองานอะไรกันแน่ เพราะไม่มีการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับพิธีดังกล่าวว่า เป็นพิธีที่ทำกันตามปกติ หรือทำบุญเพื่อลบล้างความผิดต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น
"ผมขอเรียกร้องให้ประธานรัฐสภาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.เพราะจนถึงวันนี้ นายชัย ยังไม่ได้แสงดความรับผิดชอบแต่อย่างใด จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคนที่สามารถสั่งให้เลื่อนการประชุมออกไปอีก 2 วันยังได้ แต่กลับไม่ทำ และพยายามทำให้การประชุมเกิดขึ้นให้ได้ ทั้งที่ มีความผิดปกติในการลงคะแนนรับมติ โดยคะแนนที่ให้อภิปรายไม่เกินครึ่ง และนายชัย สั่งพักการประชุมก่อนที่จะเดินหน้าต่อ
ดังนั้นหากมีการสั่งให้ระงับระหว่างทาง และจัดให้มีการประชุมใหม่ก็สามาถทำได้ แต่ก็ไม่ทำ ซึ่งจนถึงวันนี้ นายชัย ก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบแม้แต่น้อย เราเรียกร้องต่อนายกฯ แต่ยังไม่ได้เรียกร้องถึงประธานสภาฝ่ายนิติบัญญัติเลย" นายบุญยอดกล่าว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคยังไม่มีมติว่าไม่ร่วมงานดังกล่าว แต่ตั้งข้อสังเกตว่า การไปแสดงความเคารพ มักเป็นการวางพานพุ่มเพียงอย่างเดียว แต่ปีนี้ เหมือนกับจะเอาการทำบุญสถานการณ์วันที่ 7 ตุลา มารวมด้วย สิ่งที่พรรคเรียกร้องคือนายชัย ควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่าทำบุญเพื่อลบล้างความผิด
**พปช.ต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียชีวิต
นายบุญยอด กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการเยียวยาเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นประธาน ที่มีการรวมสามเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ตั้งแต่กรณีที่ตำรวจสลายการชุมนุมสะพานมัฆวานรังสรรค์วันที่ 29 ส.ค. และ กรณีที่นปช.บุกพันธมิตรฯ วันที่ 2 กันยายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เข้ากับเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 612 คน และเสียชีวิต 3 คน ตนไม่เห็นด้วยที่จะรวมเหตุการณ์เหล่านั้นเข้ามารับการเยียวยา อาจจะยกเว้นกรณีผู้เสียชีวิต 1 ราย เพียงคนเดียว เพราะเสียชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ แต่หากจะเยียวยาให้คนที่ได้รับบาดเจ็บ ควรเรียกร้องกับส.ส.พรรคพลังประชาชน มากกว่า เพราะมี ส.ส. พลังประชาชนหลายคน ไปควบคุมการชุมนุมของนปช.แล้วให้เคลื่อนไปตีพันธมิตรฯ การบาดเจ็บเกิดขึ้นจากการควบคุมชี้นำของ ส.ส.พลังประชาชน และรัฐมนตรีบางคน ดังนั้นการจะใช้ภาษีประชาชนไปเยียวยาบุคคลเหล่านั้น ตนไม่เห็นด้วย
"กรุณาไปเรียกเก็บเงินกับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะดีกว่า ถ้าจะรวบรวมเหตุการณ์ทั้งหมด ต้องรวมเอาเหตุการณ์ที่ นปช. บุกตีพันธมิตรฯ ที่อุดรธานีด้วย เพราะมีผู้บาดเจ็บหลายคน ทำไมไม่รวมด้วย ซึ่งไม่ใช่การปะทะกันระหว่างสองกลุ่ม แต่เป็นการไล่ตีพันธมิตรฯโดยตำรวจปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งเข้าไปไล่ตีคนกลุ่มหนึ่งโดยไม่ยับยั้ง" นายบุญยอดกล่าว
**อัดลงโทษ"กัปตันจักรี"มิชอบ
นายบุญยอด ในฐานะโฆษกกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ บริษัทการบินไทย สั่งลดชั้นกัปตันจักรี จงศิริ ที่ปฏิเสธ ส.ส.พลังประชาชน ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน ไปเป็นผู้ช่วยนักบิน ขณะที่ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จ ว่า ตนได้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของการบินไทย มีการพูดถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าว โดยระบุว่า ในวันนั้น ส.ส.พรรคพลังประชาชน ขึ้นเครื่อง และมีกลุ่มพันธมิตรฯ หลายคนเป็นผู้โดยสาร และเริ่มประท้วงในเครื่องบิน เพราะไม่พอใจ ส.ส.พรรคพลังประชาชน กัปตันจักกรี จึงออกมาควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่อีกข้อมูลบอกว่า กัปตันจักกรี เห็นชื่อผู้โดยสารมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน จึงไปเชิญออกจากเครื่องโดยไม่ให้เหตุผล
ดังนั้น บอร์ดการบินไทยต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยควรนำเทปวงจรปิดมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อยุติก่อน และบอร์ดการบินไทยไม่ควรกลัวกรรมาธิการคมนาคม ที่มีหนึ่งในสาม ส.ส.ซึ่งถูกไล่ลงจากเครื่องบินเป็นรองประธานฯอยู่ โดยบอร์ด ต้องทำตัวเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ก่อนที่จะนำไปสู่บทสรุปในการลงโทษบุคคลหนึ่งบุคคลใด
**รัฐบาลไม่แก้ปัญหาสินค้าเกษตร
นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ตรัง ว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯเพื่อขับไล่รัฐบาล และโค่นล้มระบอบทักษิณ เป็นการต่อสู้ที่มีความชอบธรรม ส่วนกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ดื้อไม่ยอมลาออกหรือยุบสภานั้นก็เพื่อต่ออายุของรัฐบาลออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงทางตัน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้คิดที่จะแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางด้านการเกษตรตกต่ำแต่อย่างใด เช่น ราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จนถึงขณะนี้
"วันนี้นายสมชาย กำลังนำพาประเทศไปสู่หายนะ บนความเสี่ยงสามปัจจัยคือ 1. เสี่ยงที่ประเทศกำลังสูญเสียประชาธิปไตย ทั้งที่รัฐบาลและพรรคพลังประชาชน อ้างเสมอว่าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง 2. เสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจที่จะทำให้ประเทศล่มจม เพราะกำลังอยู่ในภาวะล่อแหลมของเศรษฐกิจโลก ทั้งตลาดทุน และสถาบันการเงิน 3. เสี่ยงต่อความสูญเสียชีวิตประชาชน ท่ามกลางความขัดแย้งของคนสองกลุ่ม แทนที่ผู้บริหารประเทศจะลดความขัดแย้ง นำประเทศไปสู่ความสงบ แต่วันนี้เห็นได้ชัดว่านายสมชายไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น" นายสาธิตกล่าว
ส่วนที่นายกฯ ยืนยันจะรอผลการสอบของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี 7 ต.ค. นั้น ตนคิดว่าไม่มีผลอะไร เพราะคณะกรรมการเองก็บอกว่า มีอำนาจเพียงรวบรวมข้อเท็จจริง ส่งให้รัฐบาลเท่านั้น ไม่มีหน้าที่สรุปความถูก ผิด ในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ส่วนข้ออ้างจัดงานใหญ่ 3 งาน เป็นข้ออ้างเก่า ที่นายสมัคร ก็เคยอ้างมาก่อน และงานนี้ไม่ว่าใครก็สามารถดำเนินการได้ ที่สำคัญคือประเทศชาติกำลังไปสู่หายนะ แต่นายสมชายไม่ได้นำพาในการแก้ไขปัญหา พรรคขอเรียกร้องให้นายสมชาย ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ปลดล็อกสถานการณ์ เพื่อให้คลี่คลายไปสู่การเริ่มต้นใหม่ อย่างน้อย ก็ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งและอึม ครึมที่เกิดขึ้นมีความชัดเจนขึ้นมาในระดับหนึ่ง นักลงทุน และนักวิเคราะห์จะได้มีความชัดเจนที่จะประเมินความเสี่ยงในการลงทุน
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายสมชาย สวมวิญญาณผู้พิพากษาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศชาติในขณะนี้ โดยอยากเห็นนายสมชาย รับฟังข้อเท็จจริงจากทุกกลุ่มอย่างแท้จริง การเดินทางไปที่อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา อาจจะเห็นภาพมายาจากบางกลุ่มที่อยากให้สู้ต่อ การไปประชุมร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะมีคนอยากให้สู้ต่อ แต่ยังมีอีกหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ หรือ กรรมการสิทธิมนุษยชน ที่เห็นว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบกับการสลายการชุมนุม ก็เป็นข้อเรียกร้องจากสังคมหลายกลุ่ม จึงอยากให้นายสมชาย ที่เคยเป็นผู้พิพากษา กล้าตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม เพราะการให้ความยุติธรรมที่ล่าช้า ถือว่าไม่ใช่ความยุติธรรม ซึ่งความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม จึงขอยืนยันว่า 15 วัน นานเกินไป สำหรับการตัดสินใจเรื่องใหญ่ของชาติ ตนอยากเห็นนายกฯ เสียสละ อย่านำเรื่องการเมืองหรือผลประโยชน์ส่วนตัวของครอบครัวมาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ และขอให้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนที่สุด การที่บอกว่าจะอยู่เพื่อทำ 3 พิธีใหญ่ ทุกคนตอบได้ว่า ถ้าไม่ใช่นายกฯสมชาย คนอื่นก็ทำได้ คนไทยทั้งสังคมพร้อมทำราชพิธีเหล่านี้ โดยไม่ต้องมีนายสมชาย ถ้าอ้างว่าจำเป็นต้องทำทั้ง 3 พิธีแล้วต้องอยู่ต่อ
"ผมขอบอกว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เราไม่ยอมรับ เพราะมีปัญหาตั้งแต่การแถลงนโยบายที่ไม่ชอบ อย่าทำการเซ็นสัญญาหรือเจรจาอื่นๆ อย่าใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียวเข้าไปทำเมกะโปรเจกต์ในโครงการต่างๆ ให้ทำเฉพาะ 3 พิธีนี้แล้วออกไป ถ้าจะอ้างทำ 3 พิธีนี้ให้ได้ อย่าทำเรื่องอื่นเด็ดขาด เพราะเรื่องอื่น เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ยอมรับ" นายบุญยอดกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี ควรรับผิดชอบอย่างไร ต่อกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติว่านายสมชาย ทำวินัยร้ายแรงสมัยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม นายบุญยอด กล่าวว่า ต้องถามนายกฯว่า คนเป็น ส.ส.กับคนเป็นรัฐมนตรี ใครต้องมีจริยธรรมสูงกว่ากัน ซึ่งรัฐมนตรีต้องมีจริยธรรมสูงกว่าส.ส. นายกรัฐมนตรี ต้องมีจริยธรรมสูงกว่าคนเป็นรัฐมนตรี และนายกฯ ที่มาจากผู้พิพากษายิ่งต้องมีจริยธรรมสูงที่สุด ถ้าโดนชี้มูลในคดีอย่างนี้แล้ว เราคงต้องถามหาจริยธรรมจากนายกฯว่า ท่านยังสะกดคำว่าจริยธรรมเป็นหรือไม่ ทั้งนี้ เห็นว่าถ้าเป็นในประเทศอื่นเขาคงลาออกไปแล้ว ต้องรับผิดชอบแล้ว เพราะโดนชี้มูลว่ามีความผิด
**วอนสื่อร่วมสกัดกั้นกลียุค
นายบุญยอด ยังเรียกร้องต่อสื่อมวลชนด้วยว่า เข้าใจว่าสื่อมวลชนทำงานด้วยความยากลำบาก แต่สื่อมวลชนก็ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลทุกกระทรวงว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่ การเจรจาไทย–กัมพูชา ที่อ้างเรื่องความมั่นคง จะต้องยืนยันว่าไทยไม่ได้เสียพื้นที่รอบบริเวณปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพียงแต่เสียการใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ไม่ได้เสียเอกราช ซึ่งคนไทยทุกคน และสื่อต้องยืนยัน และอยากให้สื่อตรวจสอบว่ารัฐบาลต้องการอยู่ต่อเพื่ออะไรกันแน่ โดยเฉพาะการนำมวลชนปะทะมวลชนที่อาจมีความเห็นแตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้กำลังทำให้ประเทศเดินเข้าสุ่กลียุคใช่หรือไม่ กำลังเดินไปสู่ 19 ก.ย. 49 ใช่หรือไม่ สื่อมวลชนต้องพยายามสกัดกั้นไม่ให้สองฝ่ายมาตีกัน เพราะคนไทยไม่ควรฆ่ากัน
**ชัยต้องรับผิดชอบเหตุการณ์7 ตุลา
นายบุญยอด ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมพิธีทำบุญที่อาคารรัฐสภาวันนี้(20ต.ค.) ว่า พวกตนได้รับเพียงข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเท่านั้น โดยยังไม่ได้รับจดหมายเชิญ และมีข้อสงสัยด้วยว่า พิธีที่ว่านี้มีความพิเศษอย่างไร หากนายชัยอยากทำบุญ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การทำบุญไม่ใช่การล้างความผิด สำหรับตนไม่ขอไปร่วมในพิธีทำบุญดังกล่าว เพราะไม่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการ โดยปกติพิธีการวางพานพุ่มต้องแต่งชุดขาวเต็มยศ แต่ข้อความที่ส่งมาบอกให้แต่งกายสุภาพ จึงไม่เข้าใจว่างานนี้คืองานอะไรกันแน่ เพราะไม่มีการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับพิธีดังกล่าวว่า เป็นพิธีที่ทำกันตามปกติ หรือทำบุญเพื่อลบล้างความผิดต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น
"ผมขอเรียกร้องให้ประธานรัฐสภาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.เพราะจนถึงวันนี้ นายชัย ยังไม่ได้แสงดความรับผิดชอบแต่อย่างใด จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ เพราะเป็นคนที่สามารถสั่งให้เลื่อนการประชุมออกไปอีก 2 วันยังได้ แต่กลับไม่ทำ และพยายามทำให้การประชุมเกิดขึ้นให้ได้ ทั้งที่ มีความผิดปกติในการลงคะแนนรับมติ โดยคะแนนที่ให้อภิปรายไม่เกินครึ่ง และนายชัย สั่งพักการประชุมก่อนที่จะเดินหน้าต่อ
ดังนั้นหากมีการสั่งให้ระงับระหว่างทาง และจัดให้มีการประชุมใหม่ก็สามาถทำได้ แต่ก็ไม่ทำ ซึ่งจนถึงวันนี้ นายชัย ก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบแม้แต่น้อย เราเรียกร้องต่อนายกฯ แต่ยังไม่ได้เรียกร้องถึงประธานสภาฝ่ายนิติบัญญัติเลย" นายบุญยอดกล่าว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคยังไม่มีมติว่าไม่ร่วมงานดังกล่าว แต่ตั้งข้อสังเกตว่า การไปแสดงความเคารพ มักเป็นการวางพานพุ่มเพียงอย่างเดียว แต่ปีนี้ เหมือนกับจะเอาการทำบุญสถานการณ์วันที่ 7 ตุลา มารวมด้วย สิ่งที่พรรคเรียกร้องคือนายชัย ควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่าทำบุญเพื่อลบล้างความผิด
**พปช.ต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียชีวิต
นายบุญยอด กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการเยียวยาเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นประธาน ที่มีการรวมสามเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ตั้งแต่กรณีที่ตำรวจสลายการชุมนุมสะพานมัฆวานรังสรรค์วันที่ 29 ส.ค. และ กรณีที่นปช.บุกพันธมิตรฯ วันที่ 2 กันยายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เข้ากับเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 612 คน และเสียชีวิต 3 คน ตนไม่เห็นด้วยที่จะรวมเหตุการณ์เหล่านั้นเข้ามารับการเยียวยา อาจจะยกเว้นกรณีผู้เสียชีวิต 1 ราย เพียงคนเดียว เพราะเสียชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ แต่หากจะเยียวยาให้คนที่ได้รับบาดเจ็บ ควรเรียกร้องกับส.ส.พรรคพลังประชาชน มากกว่า เพราะมี ส.ส. พลังประชาชนหลายคน ไปควบคุมการชุมนุมของนปช.แล้วให้เคลื่อนไปตีพันธมิตรฯ การบาดเจ็บเกิดขึ้นจากการควบคุมชี้นำของ ส.ส.พลังประชาชน และรัฐมนตรีบางคน ดังนั้นการจะใช้ภาษีประชาชนไปเยียวยาบุคคลเหล่านั้น ตนไม่เห็นด้วย
"กรุณาไปเรียกเก็บเงินกับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะดีกว่า ถ้าจะรวบรวมเหตุการณ์ทั้งหมด ต้องรวมเอาเหตุการณ์ที่ นปช. บุกตีพันธมิตรฯ ที่อุดรธานีด้วย เพราะมีผู้บาดเจ็บหลายคน ทำไมไม่รวมด้วย ซึ่งไม่ใช่การปะทะกันระหว่างสองกลุ่ม แต่เป็นการไล่ตีพันธมิตรฯโดยตำรวจปล่อยให้คนกลุ่มหนึ่งเข้าไปไล่ตีคนกลุ่มหนึ่งโดยไม่ยับยั้ง" นายบุญยอดกล่าว
**อัดลงโทษ"กัปตันจักรี"มิชอบ
นายบุญยอด ในฐานะโฆษกกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ บริษัทการบินไทย สั่งลดชั้นกัปตันจักรี จงศิริ ที่ปฏิเสธ ส.ส.พลังประชาชน ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน ไปเป็นผู้ช่วยนักบิน ขณะที่ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จ ว่า ตนได้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของการบินไทย มีการพูดถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าว โดยระบุว่า ในวันนั้น ส.ส.พรรคพลังประชาชน ขึ้นเครื่อง และมีกลุ่มพันธมิตรฯ หลายคนเป็นผู้โดยสาร และเริ่มประท้วงในเครื่องบิน เพราะไม่พอใจ ส.ส.พรรคพลังประชาชน กัปตันจักกรี จึงออกมาควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่อีกข้อมูลบอกว่า กัปตันจักกรี เห็นชื่อผู้โดยสารมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน จึงไปเชิญออกจากเครื่องโดยไม่ให้เหตุผล
ดังนั้น บอร์ดการบินไทยต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยควรนำเทปวงจรปิดมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อยุติก่อน และบอร์ดการบินไทยไม่ควรกลัวกรรมาธิการคมนาคม ที่มีหนึ่งในสาม ส.ส.ซึ่งถูกไล่ลงจากเครื่องบินเป็นรองประธานฯอยู่ โดยบอร์ด ต้องทำตัวเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ก่อนที่จะนำไปสู่บทสรุปในการลงโทษบุคคลหนึ่งบุคคลใด
**รัฐบาลไม่แก้ปัญหาสินค้าเกษตร
นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ตรัง ว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯเพื่อขับไล่รัฐบาล และโค่นล้มระบอบทักษิณ เป็นการต่อสู้ที่มีความชอบธรรม ส่วนกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ดื้อไม่ยอมลาออกหรือยุบสภานั้นก็เพื่อต่ออายุของรัฐบาลออกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงทางตัน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้คิดที่จะแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางด้านการเกษตรตกต่ำแต่อย่างใด เช่น ราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จนถึงขณะนี้