“สนธิ” เผยพระมหากรุณาธิคุณล้นฟ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “น้องโบว์” ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อัด “อนุพงษ์” ไม่ใช่ทหารเสือ แต่ทำหน้าที่พิทักษ์ “ทักษิณ” ใจอำมหิต เพราะยืนข้างศพประชาชน แฉ “แม้ว” สั่งผ่านโทรศัพท์ในที่ประชุม ครม.ฉุกเฉิน 6 ต.ค.ให้สลายชุมนุมหน้ารัฐสภา ชี้ “สล้าง” คนไม่มีราคา เตือนถูกลากไส้ให้คนได้รู้ธาตุแท้มากกว่านี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (13 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.15 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัคราชกุมารี เป็นล้นพ้น ที่เสด็จในงานพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ทำให้ตัวเองต้องน้ำตาไหล
นายสนธิ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นได้สังเกตเห็นอิริยาบถของผู้นำเหล่าทัพแต่ละคนที่ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์ เช่น ผู้บัญชาการทหารอากาศที่สนทนากับคุณพ่อและครอบครัวของน้องโบว์อย่างเอาใจใส่ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทำหน้าเมินเฉย ไม่มองและไม่คุยกับครอบครัวและคุณพ่อของน้องโบว์แม้แต่คำเดียว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ขณะเดินทางกลับจึงถูกพี่น้องประชาชนโห่ไล่ ถูกเอามือทุบรถยนต์
“จนบัดนี้คุณอนุพงษ์ยังไม่รู้ว่าประชาชนนับสิบล้านคนเขารู้สึกเกลียดชังขนาดไหน” นายสนธิ ระบุ และว่าต้องขอชมเชยพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะก่อนหน้าที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะเสด็จฯ มาก็ได้ไปขอร้องพี่น้องในทุกบริเวณงานให้ระงับอารมณ์เพื่อเห็นแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ห้ามใช้สัญลักษณ์มือตบ แต่พอพระองค์เสด็จกลับก็มีการนำมือตบออกมากันอย่างพร้อมเพรียง
นายสนธิ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ยังไม่รู้สำนึก ที่มาวันนี้เพราะเป็นหน้าที่ต้องมารับเสด็จ หน้าจึงบอกบุญไม่รับ พร้อมทั้งคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในเรื่องจะเปลี่ยนขั้วการเมืองใหม่ ซึ่งก็เป็นการเมืองเก่า
“พล.อ.อนุพงษ์ได้เคยพูดในที่ประชุมว่า เขานั้นทำตามกฎหมายทุกอย่าง และอยู่ข้างประชาชน ทั้งที่อยู่ข้างศพประชาชนต่างหาก ถือว่า พล.อ.อนุพงษ์ เป็นคนใจดำอำมหิตที่เห็นประชาชนตาย บาดเจ็บต่อหน้าต่อตา โดยที่ไม่ทำอะไรเลย” นายสนธิ กล่าว และว่า พล.อ.อนุพงษ์มีลูกเรียนที่ประเทศอังกฤษก็เดินตามหลังนายพานทองแท้ ชินวัตร ขณะที่เมียก็ไปอังกฤษเดือนละ 2 ครั้ง ไม่รู้ว่ากลายเป็นร่างทรงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปแล้วหรือยัง ถามว่าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือที่ประชาชนถูกฆ่าทั้งที่เป็นลูกหลานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ
“คุณอ้างว่าพิทักษ์ราชบัลลังก์ ทั้งที่เวที นปก.มีฉากหลังจาบจ้วงพระองค์ คุณอนุพงษ์คุณรักชาติไม่ได้เศษเสี้ยวของน้องโบว์ คุณพิทักษ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหาก คนแบบนี้ไปยกมือไหว้ทำไมคนไม่มีราคา แค่ยืมเครื่องแบบทหารมาใส่ ไม่ใช่ทหารเสือพระราชินีตัวจริง เพราะคนที่นั่งอยู่ที่นี่ต่างหากคือทหารเสือของพระราชาพระราชินีที่แท้จริง คุณรู้สึกอายหรือเปล่า” นายสนธิ กล่าว
จากนั้น นายสนธิ ได้กล่าวึงการบอยคอตหนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน และมติชนสุดสัปดาห์ที่บิดเบือนว่าจะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้น โดยเปิดเผยว่าวันนี้มีพี่น้องที่พิษณุโลกได้โทรศัพท์มาบอกว่า ได้ไปหาซื้อเนชั่นสุดสัปดาห์แต่ขายเกลี้ยงแผงแล้ว ขณะที่หนังสือ 3 ฉบับดังกล่าวยังเหลืออยู่เป็นตั้ง
“ขอสัญญาจากพี่น้องว่าเราจะต้องบอยคอตหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับดังกล่าว คือ ข่าวสด มติชน และมติชนสุดสัปดาห์ ที่บิดเบือนให้ช่วยกันบอกต่อกันไป ให้มันขายกันเฉพาะพวก นปก.ก็แล้วกัน” นายสนธิ กล่าวเรียกร้อง จากนั้นได้ย้ำถึงความเป็นพี่น้องของกลุ่มพันธมิตรฯโดยบอกว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งได้แสดงความจำนงที่จะมอบบ้านหลังหนึ่งให้กับพี่น้องเพื่อนำไปขายเพื่อนำเงินมามอบพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บและเดือดร้อนจากการสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันล่าสุดได้มีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามได้บริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวของ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือสารวัตรจ๊าบ อีก 5 แสนบาท
ต่อมา นายสนธิ ได้อ่านแถลงการณ์ของกับตันจักรี จงศิริ กัปตันการบินไทย ที่ไม่ยอมให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนขึ้นเครื่องบิน โดยในจดหมายที่มีมาถึงนายสนธิ ได้ย้ำถึงเหตุผลที่ไม่ยอมให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนขึ้นเครื่องว่า เพื่อความปลอดภัยของ ส.ส.เหล่านั้น เพราะไม่ต้องการให้ผู้โดยสารบนเครื่องที่ไม่พอใจและอาจทำร้ายได้ โดยกัปตันจักรียืนยันว่ายอมตายเสียดีกว่าจะยอมเสียศักดิ์ศรีชายชาติทหารและไปขอโทษ ส.ส.เหล่านั้น
นายสนธิ ได้เปิดเผยข้อมูลบางส่วนในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อกลางดึกวันที่ 6 ตุลาคม ที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สั่งสลายการชุมนุม แต่มีคนทักท้วง ทำให้นายสมชายต่อสายไปที่กรุงลอนดอนและเปิดเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ที่ประชุมฟัง โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งสลายการชุมนุมให้ได้ พร้อมทั้งบอกว่าหาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่ทำก็ปลดมันซะ
อย่างไรก็ดี เมื่อพูดถึงตรงนี้ นายสนธิ กล่าวว่า ต้องให้เครดิตกับ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แม้ว่าที่ผ่านมาเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกเรา แต่ก็ไม่เคยใช้กำลังสลายการชุมนุม และสาเหตุที่ถูกย้ายเพราะปฏิเสธที่จะสลายพวกเรา ขณะที่ พล.ต.ท.สุชาต เหมือนแก้ว กลับเป็นคนที่รับอาสานักการเมืองที่จะทำจึงได้รับแต่งตั้งเข้ามาแทน
นายสนธิ ได้พูดถึง พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ที่ประกาศจะช่วยรัฐบาลยึดทำเนียบคืนว่า ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวที่โยงมาถึงตนนั้นยังคลาดเคลื่อน ส่วนเรื่องหนี้สิน 60 ล้านบาทนั้นเป็นเรื่องจริงว่า พล.ต.อ.สล้าง ได้ยืมเงิน 60 ล้านจริง และจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้คืนมาสักบาทเดียว ซึ่งตนเองมีข้อมูลของคนคนนี้เยอะมาก สักวันหนึ่งจะนำมาเปิดเผย และครอบครัวของเขาเป็นหนี้บุญคุณตนมาก และสาเหตุที่ พล.ต.อ.สล้างออกมากระโดดโลดเต้นครั้งนี้เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หลอกให้ออกมา และว่า พล.ต.อ.สล้างคนเดียวกันนี้เคยตบ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ จนหูเสียไปข้างหนึ่ง และคนคนนี้เคยนำตำรวจไปบุกฆ่าประชาชนเมื่อเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 19 และสั่งฆ่า โจ ด่านช้าง กับพวกตายคากุญแจมือ 6 คน ที่สุพรรณบุรี
“สักวันหนึ่งผมอาจจะต้องพูดถึงคนคนนี้ ทั้งที่ไม่อยากพูดถึงเพราะไม่มีราคา” นายสนธิ กล่าว พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ในวันนี้ตำรวจได้เตรียมรับมือพันธมิตรฯ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ระดมเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ มีการใช้งบประมาณสั่งซื้อกันหลายล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามถ้าพวกเราจะไปเยี่ยมเมื่อไหร่ก็ไปได้ทุกเมื่อและไปกันได้ทันที
ในตอนท้ายก่อนที่จะจบการปราศรัย นายสนธิได้กล่าวกับพี่น้องพันธมิตรฯ ทั่วประเทศถึงกรณีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จไปในพิธีพระราชทานเพลิงศพของน้องโบว์ว่า “เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นฟ้า ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ขอให้พี่น้องอย่ารู้อะไรมากไปกว่านี้เลย”
สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพของ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ที่วัดโสมนัสวรวิหาร ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ จะมีการถ่ายทอดสดทางเอเอสทีวี ตั้งแต่เวลา 15.00-16.00 น. โดยมี นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี