ป.ป.ช. มั่นใจสอบถึงไอ้โม่งคนสั่งการได้แน่ ย้ำหากพบใครมีส่วนเกี่ยวข้องเจอทั้งวินัยและอาญา พันธมิตรฯยันบุก สตช.รอกำหนดวัน เผยมี 2 พล.ต.อ.ในรัฐบาลสั่งการสลายการชุมนุม เตรียมขอเทปลับเผยแพร่ "วีระ สมความคิด" ยื่น ป.ป.ช.สอบเอาผิดกราวรูด "สมชาย-พัชรวาท-สุชาติ"ระบุ "สมชาย" ตั้ง กก.สอบเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ แค่กลบเกลื่อนความผิดโจร "สนธิ"แฉความชั่วแม้ว เดินเกมให้กัมพูชาเปิดศึก หวังกลบข่าวพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์ ลิ่วล้อพลังประชาชนจวก"หมอพรทิพย์" ทำเกินงานเหตุแฉผู้บงการฆ่า ขณะที่ เจ้าตัวไม่สน ถ้าไม่เชื่อแก๊สน้ำตารุนแรง ท้าให้มาเป็นเป้าทดลอง ด้านพันธมิตรนัด 10 โมงเช้าศุกร์ 17 ต.ค.รวมพลแจกหนังสือ ซีดี ตำรวจฆ่าประชาชนที่สวนลุมฯ
เข้าสู่วันที่ 10 (16 ต.ค.)หลังจากรัฐบาลได้สั่งการให้ตำรวจสลายประชาชนและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ที่ชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันอังคารที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงการสั่งการในการสลายประชาชนในครั้งนี้
พันธมิตรฯปูดมีเทปลับคนสั่งฆ่าปชช.
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายพิภพ ธงไชย สองแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯร่วมกัน แถลงข่าว โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในเวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ ทางแกนนำจะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับการเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) หรือไม่ แต่ทั้งนี้ ทางพันธมิตรยังไม่เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ สตช. เนื่องจากประชาชนยังมีความเครียดแค้นกับตำรวจที่ทำร้ายประชาชน เทียบเท่ากับความเครียดแค้นรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพันธมิตรฯ พอจะทราบแล้วว่าใครเป็นคนสั่งการ เนื่องจากมีเทปลับซึ่งเป็นบันทึกการปรึกษาหารือของนักการเมืองที่เป็นผู้สั่งการ ซึ่งทางพันธมิตรฯกำลังประสานขออยู่เพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนกระแสข่าวที่มีตำรวจ ยศ พล.ต.อ. ที่เป็นรัฐมนตรี 2 นาย เป็นผู้สั่งการ ทางพันธมิตรฯก็ได้รับข้อมูลเช่นนั้นเหมือนกัน
ล่าสุด ทางพันธมิตรฯได้ประกาศว่า ในวันศุกร์ที่ 17 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จะมีการรวมกลุ่มที่อนุสาวรีรัชกาลที่ 6 บริเวณด้านหน้าสวนลุมพินี เพื่อนำแผ่นซีดีและหนังสือ ไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในบริเวณสีลม ให้รับรู้ถึงเหตุการณ์การทำร้ายประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ได้ผลิตซีดีแล้ว 1 ล้านแผ่น และจะพิมพ์หนังสือตำรวจฆ่าประชาชนเพิ่มอีก 5 แสนเล่ม รวมเป็น 1 ล้านเล่ม
โจร!ตั้งกก.แค่กลบเกลื่อนฆ่าประชาชน
นายสมศักดิ์ กล่าวถึง รายชื่อคณะกรรมการอิสระ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเหตุการณ์ไม่สงบ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 ว่า การที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้น ถือเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น สร้างสถานการณ์กลบเกลื่อน ซึ่งความจริงแล้วรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องสอบสวนเรื่องนี้ เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการสั่งการให้ตำรวจทำร้ายประชาชน ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะมันเป็นอาวุธร้ายแรงอยู่แล้ว จึงทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
"คิดว่าพยานหลักฐาน รวมถึงผู้ยิงที่เป็นตำรวจ และผู้สั่งการที่เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล จนทำให้มีคนตายและเจ็บเต็มโรงพยาบาล ก็เป็นหลักฐานที่ครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนแล้ว แค่นำหลักฐานทั้งหมดไปฟ้องศาลได้ทันที"
นายพิภพ กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลบอกว่าให้สิทธิ์กับนายปรีชา พานิชวงศ์ ประธานคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการนั้น ตนได้รับทราบ ข้อมูลมาว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีการตัดรายชื่อกรรมการบางคน ซึ่งเป็นที่ยอมรับของสังคมว่า มีความตรงไปตรงมาออกไป แสดงให้เห็นว่าหลักการของคณะกรรมการชุดนี้ถูกทำลายไปแล้ว และถูกรัฐบาลแทรกแซง ดังนั้น พันธมิตรฯจึงเห็นว่า ควรให้องค์กรอิสระ เป็นผู้ตรวจสอบ แล้วให้ศาลยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน
" ขอยืนยันว่า รัฐบาลเป็นผู้สั่งฆ่าประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะมาจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบการกระทำของตนเอง อีกทั้งการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ถือเป็นเกมการเมือง เพื่อกลบเกลื่อนการกระทำของรัฐบาล ส่วนที่ตำรวจบอกว่า ไม่รู้ว่า อาวุธแก๊สน้ำตาที่นำมาใช้มีความรุนแรงนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ตำรวจจะไม่รู้ เพราะตำรวจเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธอยู่แล้ว"นายพิภพกล่าว
เตือน10วันอันตรายก่อนตัดสินคดี 'แม้ว'
นายพิภพ กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 12-21 ต.ค.เป็น 10 วันอันตราย เพราะเป็นเวลาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีที่ดินรัชดา ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จึงเห็นว่ารัฐบาล ของนายสมชาย และพรรคพลังประชาชน พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง และสร้างความตรึงเครียดจนไม่สามารถควบคุมความรุนแรงได้ เห็นได้ชัด เมื่อคืนวันพุธที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เคลื่อนขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีกลุ่ม นปช. ประมาณ 70 คน ได้บุกมาถึงแยก จ.ป.ร. ซึ่งตำรวจไม่ได้มีการห้ามปรามแต่อย่างใด
"วิชา"ยันอนุฯสอบยังไม่ได้ตั้งข้อหาใคร
นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่าขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้สรุปว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. มีพฤติกรรมความผิดชัดเจนตามที่สื่อมวลชนเสนอไป
"คณะอนุกรรมการฯไม่มีสิทธิตั้งข้อกล่าวหาใครล่วงหน้าได้ แต่มีหน้าที่เพียงหาความจริงเท่านั้น"
มั่นใจสอบถึงไอ้โม่งสั่งการได้
นายวิชากล่าวว่า จะเร่งหาตัวคณะอนุกรรมการชุดนี้ให้เสร็จ เพื่อนำไปขอมติ ที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันนี้ ( 16 ต.ค.) จะได้เริ่มทำงานได้ทันที โดยคณะอนุกรรมการฯจะนำบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งด้านกฎหมาย ตำรวจ การแพทย์ เพื่อให้การไต่สวนหาข้อเท็จจริงมีความครอบคลุมทุกประเด็น ทั้งนี้น่าจะสามารถ สืบสาวจนถึงตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการสั่งการสลายการชุมนุมได้ เพราะเท่าที่ดูเห็นว่า สถานการณ์ขณะนั้น น่าจะมีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 3 คน โดยอาจรวมถึงตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงแก๊สน้ำตาด้วย
เชื่อผลสอบจะออกมาเร็วกว่าคดีอื่น
ส่วนที่มีหลายฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อสวนข้อเท็จจริง กรณีการสลายการชุมนุมขึ้นมาหลายชุดนั้น นายวิชา กล่าวว่า คงไม่ทำให้เกิดความซับซ้อนในการทำงาน แต่จะเป็นข้อดีที่ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว หากผลสอบกรรมการ ชุดใดเป็นประโยชน์ ป.ป.ช.จะขอข้อมูล เช่น คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็อาจจะขอข้อมูลเรื่อง การยิงแก๊สน้ำตา เนื่องจาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ ผลการยิงจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าคดีนี้จะทำได้อย่างรวดเร็ว เสร็จเร็วกว่าคดีทั่วไป หากพบว่า มีผู้ใดความผิดนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยแล้ว จะต้องมีความผิดทางอาญาด้วย
วีระยื่นป.ป.ช.
วานนี้ (15 ต.ค.) นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับนักการเมืองและข้าราชการตำรวจใน 3 กรณีด้วยกัน คือ กรณีแรก ตามหนังสือของกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่ กพส.038/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 เรื่อง ขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญากับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์กับพวก ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 257 และมาตรา 289(4)
เรื่องที่ 2 นายวีระ ได้ยื่นหนังสือเลขที่ กพส.039/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช.เรื่อง ขอให้ไต่สวนดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาพนักงานสอบสวนในความผิดตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 200 วรรค 2 และมาตรา 257 โดยได้กล่าวหาร้องเรียนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ว่าเป็นพนักงานในตำแหน่งพนักงานสอบสวน กระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ ด้วยเจตนากลั่นแกล้งให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พลตรีจำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายอมร อมรรัตนานนท์, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายเทิดภูมิ ใจดี ต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 วรรคสอง และมาตรา 157
เรื่องที่ 3 ได้ยื่นหนังสือ ที่ กพส. 037/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง ขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญากับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยได้กล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมตัวนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
'จึงขอกล่าวหาร้องเรียนมา เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำการไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญาแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กระทำความผิดดังกล่าว และขอให้รีบดำเนินการโดยเร็ว'
"สนธิ"ชี้เขมรก่อสงครามหวังกลบข่าวน้องโบว์
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เรื่องใหญ่จากนี้ คือ เราต้องรักษาราชบัลลังก์ให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพตลอดไป เพราะขณะนี้มีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รักสถาบันที่มีสถาบันฯเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ กับอีกกลุ่มที่ไม่ต้องการสถาบันฯเป็นศูนย์รวมจิตใจ และในเมื่อปรัชญาความคิดเห็นต่างกัน เราต้องมาสู้กัน และสิ่งที่พันธมิตรฯทำอยู่ ก็ไม่สายเกินไป
" เราเชื่อว่ายังมีนักธุรกิจที่ดี แต่ก็มีไม่น้อยที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และชอบกล่าวหาว่า พันธมิตรฯทำให้เศรษฐกิจปั่นป่วน ซึ่งผมเตือนว่า นักธุรกิจต้องการจะอยู่ในสังคมที่ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส หรืออยากอยู่ในสังคมที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแบบปกติ ไม่ต้องไปวิ่งเต้น หากเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มั่นคง ไม่มีใครไปจาบจ้วง มีสถาบันทหารปกป้อง ประเทศชาติก็จะมีแต่ความมั่นคง ประชาธิปไตยภายใต้สถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศก็มั่นคง และก็ดีกับประชาชนด้วย หรือไม่งั้น พี่น้องนักธุรกิจ ลองหลับตาดู และเมื่อตื่นขึ้นมา เห็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือ นายวีระ มุสิกพงศ์ หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นคณะบริหารประธานาธิบดี ก็ลองคิดดู นักธุรกิจคิดดู พวกสนามหลวงเป็นพวกไม่เอาสถาบันฯอย่างชัดเจน และพวกสนามหลวง ก็ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจ และทหาร 1 คน " นายสนธิกล่าวและว่า
แม้แต่วันพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์ พอประมาณทุ่มครึ่ง สมเด็จฯฮุนเซนออกมาประกาศจะเปิดศึกกับประเทศไทย นี้เป็นเกมที่ต้องการกลบข่าวพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์
"บอกได้เลย ต่อให้อีก 10 ชาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เกิด ตรงนี้ต้องการเบี่ยงเบนประเด็นดูซิ ชักศึกภายนอกเข้าศึกภายในบ้าน ทหารไทยที่เสียชีวิตไม่ใช่ฝีมือทหารกัมพูชา แต่เป็นฝีมือของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนมันเลวไม่รู้จะเลวอย่างไร สมัยก่อนเราพูดเสมอมว่าทักษิณอยู่เบื้องหลัง ก็มีคนเชื่อ มีคนไม่เชื่อ แต่สุดท้ายแล้ว วันเวลาก็พิสูจน์ได้ว่า ความจริงคืออะไร คนคนนี้ ต้องการทำลายประเทศชาติ และให้มีการเข่นฆ่าประชาชน ในเมื่อมันรู้ว่าหนีคดีไม่พ้น ก็ถือโอกาสทำลายประเทศไทยเลย คนคนเดียวพี่น้อง ตั้งแต่2544 -2551 เห็นหรือยัง ก่อนทักษิณจะมาเป็นนายกฯ หนี้สินของประชาชนไม่มาก ประชาชนเดินไปไหนเห็นพ่อหลวง แม่หลวงของเรา ก็กราบไหว้ แต่สุดท้ายคนคนนี้กลับเอาภาษีไปแจกจ่ายให้ประชาชน เพื่อสอนให้คนมาเคารพ เท70,000 กว่าล้านบาทกองทุนหมู่บ้าน หากทำเพื่อพ่อหลวง ปานนี้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้แล้ว แต่มันกลับเอา 70,000 ล้านบาท แจก เพื่อให้ประชาชนเลือกมันกลับมาอีก "นายสนธิกล่าวให้เห็นถึงธาตุแท้ของคนที่บ้าอำนาจ พร้อมลั่นวาจาว่า
" ใครเอาก็เอา ใครไม่เอาราชบัลลังก์ ก็ต้องรบกัน "
ป.ป.ช.ต้องสอบเอาผิด "สมชาย"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัญหาก็จะวุ่นวายต่อไป และในส่วนของพรรคก็อยากทำความเข้าใจกับป.ป.ช.ว่า ไม่อยากให้ป.ป.ช.มองข้ามกรณีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่พรรคเชื่อว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะข้อเท็จจริงพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดการเสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.นั้น เกิดขึ้นในช่วงเย็นและช่วงค่ำ ไม่ใช่ช่วงเช้า
"จากการฟังคำแถลงของ ป.ป.ช.ดูเหมือนสนใจเฉพาะกระบวนการสั่งการต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนเช้า แต่ข้อเท็จจริงหลังเหตุการณ์ ในตอนเช้าพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ลาออกจากรองนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย ทราบดีว่าอะไรเกิดขึ้นช่วงเช้า และในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด แต่กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงอยากให้ป.ป.ช.รับพิจารณาแยกกันก็ได้ "นายอภิสิทธิ์กล่าว
ลิ่วล้อจวก"พรทิพย์"แฉคนสั่งฆ่า!
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ นายสมชาย และรมว.กลาโหม วานนี้ (15 ต.ค.) ว่า ในช่วงเช้า ร.ต.ท.เชาวริน ลักธศักดิ์ ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้เดินทางเข้าพบที่บ้านพักหมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวภายหลังว่า ตนมาลาไปสาธารณะรัฐประชาชนจีน ไม่มีมีเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรับศึกหนัก เหนื่อยหน่อย ตั้งแต่เหตุการณ์ 7 ต.ค. ขณะนี้รัฐบาลก็ได้ตั้งคณะกรรมการ 2 สอบสวน หาข้อเท็จจริง และเยียวยา ส่วนตัวก็ได้บอกด้วยความสงสัยกับนายกรัฐมนตรีว่า ทำไม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ จึงจัดการงานนอกสั่ง แต่กลับมาแถลงว่าใครเป็นคนสั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งมันถือว่านอกหน้าที่
ไม่ต้องกำหนดเวลาให้กก.สอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมชาย ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ผู้สื่อข่าว ถามถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีกรอบเวลาอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดเวลา ไม่เหมือนคณะกรรมการเยียวยาอันนี้เราต้องเร่งรัด
"สมชาย"ไม่สนแนวคิด "อานันท์"
ต่อกรณีที่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้มีอยู่คนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี(ที่ถูกหมายจับ) นายสมชาย กล่าวว่า "การจะคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณเพื่อคลี่คลายสถานการณ์หรือไม่ ไม่เกี่ยวกัน มันเป็นเรื่องของความเห็นหลากหลาย ผมเป็นนายกฯต้องรับผิดชอบดูแลเรื่องการทำงาน ผมไม่เอาความคิดของคนที่ไม่ได้อยู่ในราชการมาทำ "นายสมชาย(น้องเขยแม้ว)กล่าว
ผู้บาดเจ็บอาการน่าเป็นห่วง
นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการรพ.รามาธิบดี กล่าวว่า วานนี้ (15 ต.ค.)อาการล่าสุดของนายชิงชัย เจริญอุดมกิจ หรือ ตี๋ ศิลปินอิสระยังคงทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง โดยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดไม่ให้มีการติดเชื้อที่บริเวณปิด ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น ขณะนี้ยังมีผู้ที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ. 5 คน รายที่น่าเป็นห่วงคืออาการของนายชิงชัยที่ถือว่ายังไม่ปลอดภัย มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ตลอด ส่วนอีกราย เนื่องจากมีอายุมากมีบาดแผลเท้าขวาขาด สาหัส บาดแผลจึงน่าเป็นห่วง เนื่องจากอายุมากจึงฟื้นตัวช้า
นพ.ธีรพงษ์ เจริญวิทย์ รักษาการณ์ผู้อำนวยการรพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า อาการของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้า สมอง กะโหลก อาการยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ต้องรักษาอาการในห้องปลอดเชื้อ และต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
"สุขุมพงศ์"อ้างกก.เชื่อถือได้
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สังคม ไม่ยอมรับการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า คิดว่านาย สมชาย ได้ตั้งคนที่ดีที่สุดแล้ว มีทั้งอดีตนายทหาร อดีตเลขานุการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และตัวแทนภาคอัยการ จึงน่าจะเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะตัวนายปรีชา พานิชวงศ์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ ท่านคงไม่ทำอะไรที่ทำลายชื่อเสียงที่มีมายาวนาน จึงน่าจะรับประกันความเป็นกลางได้ รวมทั้งหน่วยงานอื่นยังมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกหลายคณะ เพื่อตรวจสอบไปพร้อม ๆ กัน
จวก"หมอพรทิพย์ "พล่ามเกินหน้าที่
ส่วนที่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุถึงตัวผู้บงการแล้ว จะทำอย่างไร นายสุขุมพงษ์ กล่าวว่า อยากให้การสืบสวนได้ข้อสรุป ที่แท้จริงก่อนจึงค่อยเปิดเผยผลสอบ การกระทำของคุณหญิงพ.ญ.พรทิพย์ ไม่ถูกต้อง
"ยุวรัตน์"ชี้อยากรู้ความจริงจึงเป็นกก.
นายยุวรัตน์ กมลเวชช กรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ ไม่สงบเมื่อวันที่ 7ต.ค. กล่าวว่า สาเหตุที่ตอบรับเข้าร่วมเป็นกรรมการชุดนี้ เพราะต้องการรับทราบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตาของตนเอง
สำหรับกรอบการทำงานขณะนี้ยังบอกรายละเอียดอะไรไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีการเรียกประชุมคณะกรรมการ ฯส่วนกรอบการทำงาน และเวลาขึ้นอยู่กับประธาน และที่ประชุมจะพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดการประชุมออกมา แต่เชื่อว่า การทำงานจะเป็นการรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงนำเสนอต่อสาธารณชน โดยกรรมการฯ คงจะไม่แสดงความคิดเห็น แต่จะเปิดกว้างให้ประชาชนแต่ละคนวินิจฉัยกันเอง
"เมื่อเราเข้าไปแล้วก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ผลก็จะออกมาตามข้อเท็จจริง ส่วนความพอใจไม่พอใจขึ้นอยู่กับงานที่ทำ เมื่อทำเสร็จแล้วทุกอย่างก็จบ คณะกรรมการไม่ใช่พนักงานสอบสวนเป็นเพียงผู้รวบรวมข้อเท็จจริงเท่านั้น วิธีทำงานของผมคือรวบรวมข้อเท็จจริง"
"หมอพรทิพย์"โต้กลับฝ่ายการเมือง
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลไม่พอใจการออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการ ใช้ความรุนแรงในสลายการชุมนุมโดยพาดพิงถึงฝ่ายการเมืองว่า ตนเข้าไปตรวจสอบ รายละเอียดและสถานที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ตามที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า ไม่ได้เข้าไปทำงาน ในบทบาทหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม และได้ให้สัมภาษณ์รายละเอียดบางส่วน ตามที่ปรากฏเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งพบจากการตรวจสอบ จึงไม่คิดว่าจะถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยใดๆ
ท้าให้มาเป็นเป้าทดลองแก๊สน้ำตา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีบุคคลบางกลุ่มไม่เชื่อว่าแก๊สน้ำตาที่สั่งซื้อจากประเทศจีน มีผลทำให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บแขนขาขาดนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนของอนุกรรมการสิทธิฯ ไม่จำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ซ้ำอีกแล้ว เพราะผลการทดสอบและการเก็บตัวอย่างสารเคมีมาตรวจพิสูจน์ได้ผลชัดเจนเพียงพอแล้ว อีกทั้งสภาพบาดแผลจากศพของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) ก็แสดงให้เห็นถึงร่องรอยอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า หากกรณีที่ยังมีคนไม่เชื่อผลการตรวจพิสูจน์ก็สามารถทดลองยิงแก๊สน้ำตาชนิดดังกล่าวซ้ำอีกกี่ครั้งก็ได้ หรือจะให้คนที่ไม่เชื่อว่าแก๊สน้ำตามีอานุภาพร้ายแรงทำการทดสอบด้วยตนเอง โดยไปยืนเรียงแล้วให้ตำรวจทดสอบยิงแก๊สน้ำตาใส่ก็ได้
"สุชาติ"ปากกล้าแก้ได้ทุกคำถาม!
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้ง ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.รวมถึงตนเองด้วยนั้น ว่ารู้สึกดีที่จะได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองให้สังคมได้รับรู้ความ จริงทั้งหมด
"แต่ถึงขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะถามอะไรบ้าง แต่คิดว่าผมมีคำตอบให้กับทุกคำถามอยู่แล้ว เพราะความจริงก็ต้องเป็นความจริง ผมพร้อมให้สังคมตรวจสอบอยู่แล้ว เราเกิดมาเป็นตำรวจก็ต้องเดินหน้าทำงานต่อไป แต่ก็ยืนยันว่าตอนนี้ ขวัญและกำลังใจของตำรวจนครบาลทุกคนดีมาก"
"อำนวย"อ้างกม.ให้สลายชุมนุม
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวอ้างว่า ผู้ชุมนุมที่ไปปิดล้อมรัฐสภาช่วงเช้าไม่ให้มีการเข้าประชุมก็ดี และหลังจาก ส.ส.เข้าประชุมสภาแล้วเสร็จไปปิดล้อมไม่ให้ออกก็ดี ตรงนั้นไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เพราะไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจที่จะดำเนินการได้ ส่วนการดำเนินการนั้นจะต้องไม่เกินกว่าเหตุ และคำว่าไม่เกินกว่าเหตุนี่ ก็ต้องมีการสอบสวนกันต่อไป เพราะฉะนั้นถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้หรือไม่ ถือเป็นอำนาจโดยชอบที่จะเข้าดำเนินการ
เข้าสู่วันที่ 10 (16 ต.ค.)หลังจากรัฐบาลได้สั่งการให้ตำรวจสลายประชาชนและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ที่ชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันอังคารที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงการสั่งการในการสลายประชาชนในครั้งนี้
พันธมิตรฯปูดมีเทปลับคนสั่งฆ่าปชช.
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายพิภพ ธงไชย สองแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯร่วมกัน แถลงข่าว โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในเวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ ทางแกนนำจะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับการเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) หรือไม่ แต่ทั้งนี้ ทางพันธมิตรยังไม่เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ สตช. เนื่องจากประชาชนยังมีความเครียดแค้นกับตำรวจที่ทำร้ายประชาชน เทียบเท่ากับความเครียดแค้นรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพันธมิตรฯ พอจะทราบแล้วว่าใครเป็นคนสั่งการ เนื่องจากมีเทปลับซึ่งเป็นบันทึกการปรึกษาหารือของนักการเมืองที่เป็นผู้สั่งการ ซึ่งทางพันธมิตรฯกำลังประสานขออยู่เพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนกระแสข่าวที่มีตำรวจ ยศ พล.ต.อ. ที่เป็นรัฐมนตรี 2 นาย เป็นผู้สั่งการ ทางพันธมิตรฯก็ได้รับข้อมูลเช่นนั้นเหมือนกัน
ล่าสุด ทางพันธมิตรฯได้ประกาศว่า ในวันศุกร์ที่ 17 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จะมีการรวมกลุ่มที่อนุสาวรีรัชกาลที่ 6 บริเวณด้านหน้าสวนลุมพินี เพื่อนำแผ่นซีดีและหนังสือ ไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในบริเวณสีลม ให้รับรู้ถึงเหตุการณ์การทำร้ายประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ได้ผลิตซีดีแล้ว 1 ล้านแผ่น และจะพิมพ์หนังสือตำรวจฆ่าประชาชนเพิ่มอีก 5 แสนเล่ม รวมเป็น 1 ล้านเล่ม
โจร!ตั้งกก.แค่กลบเกลื่อนฆ่าประชาชน
นายสมศักดิ์ กล่าวถึง รายชื่อคณะกรรมการอิสระ 2 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเหตุการณ์ไม่สงบ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 ว่า การที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้น ถือเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น สร้างสถานการณ์กลบเกลื่อน ซึ่งความจริงแล้วรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องสอบสวนเรื่องนี้ เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการสั่งการให้ตำรวจทำร้ายประชาชน ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะมันเป็นอาวุธร้ายแรงอยู่แล้ว จึงทำให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
"คิดว่าพยานหลักฐาน รวมถึงผู้ยิงที่เป็นตำรวจ และผู้สั่งการที่เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล จนทำให้มีคนตายและเจ็บเต็มโรงพยาบาล ก็เป็นหลักฐานที่ครบถ้วน โดยไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนแล้ว แค่นำหลักฐานทั้งหมดไปฟ้องศาลได้ทันที"
นายพิภพ กล่าวเสริมว่า การที่รัฐบาลบอกว่าให้สิทธิ์กับนายปรีชา พานิชวงศ์ ประธานคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการนั้น ตนได้รับทราบ ข้อมูลมาว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีการตัดรายชื่อกรรมการบางคน ซึ่งเป็นที่ยอมรับของสังคมว่า มีความตรงไปตรงมาออกไป แสดงให้เห็นว่าหลักการของคณะกรรมการชุดนี้ถูกทำลายไปแล้ว และถูกรัฐบาลแทรกแซง ดังนั้น พันธมิตรฯจึงเห็นว่า ควรให้องค์กรอิสระ เป็นผู้ตรวจสอบ แล้วให้ศาลยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน
" ขอยืนยันว่า รัฐบาลเป็นผู้สั่งฆ่าประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะมาจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบการกระทำของตนเอง อีกทั้งการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ถือเป็นเกมการเมือง เพื่อกลบเกลื่อนการกระทำของรัฐบาล ส่วนที่ตำรวจบอกว่า ไม่รู้ว่า อาวุธแก๊สน้ำตาที่นำมาใช้มีความรุนแรงนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ตำรวจจะไม่รู้ เพราะตำรวจเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธอยู่แล้ว"นายพิภพกล่าว
เตือน10วันอันตรายก่อนตัดสินคดี 'แม้ว'
นายพิภพ กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 12-21 ต.ค.เป็น 10 วันอันตราย เพราะเป็นเวลาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินคดีที่ดินรัชดา ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จึงเห็นว่ารัฐบาล ของนายสมชาย และพรรคพลังประชาชน พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง และสร้างความตรึงเครียดจนไม่สามารถควบคุมความรุนแรงได้ เห็นได้ชัด เมื่อคืนวันพุธที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เคลื่อนขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีกลุ่ม นปช. ประมาณ 70 คน ได้บุกมาถึงแยก จ.ป.ร. ซึ่งตำรวจไม่ได้มีการห้ามปรามแต่อย่างใด
"วิชา"ยันอนุฯสอบยังไม่ได้ตั้งข้อหาใคร
นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่าขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้สรุปว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. มีพฤติกรรมความผิดชัดเจนตามที่สื่อมวลชนเสนอไป
"คณะอนุกรรมการฯไม่มีสิทธิตั้งข้อกล่าวหาใครล่วงหน้าได้ แต่มีหน้าที่เพียงหาความจริงเท่านั้น"
มั่นใจสอบถึงไอ้โม่งสั่งการได้
นายวิชากล่าวว่า จะเร่งหาตัวคณะอนุกรรมการชุดนี้ให้เสร็จ เพื่อนำไปขอมติ ที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันนี้ ( 16 ต.ค.) จะได้เริ่มทำงานได้ทันที โดยคณะอนุกรรมการฯจะนำบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งด้านกฎหมาย ตำรวจ การแพทย์ เพื่อให้การไต่สวนหาข้อเท็จจริงมีความครอบคลุมทุกประเด็น ทั้งนี้น่าจะสามารถ สืบสาวจนถึงตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการสั่งการสลายการชุมนุมได้ เพราะเท่าที่ดูเห็นว่า สถานการณ์ขณะนั้น น่าจะมีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 3 คน โดยอาจรวมถึงตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงแก๊สน้ำตาด้วย
เชื่อผลสอบจะออกมาเร็วกว่าคดีอื่น
ส่วนที่มีหลายฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อสวนข้อเท็จจริง กรณีการสลายการชุมนุมขึ้นมาหลายชุดนั้น นายวิชา กล่าวว่า คงไม่ทำให้เกิดความซับซ้อนในการทำงาน แต่จะเป็นข้อดีที่ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว หากผลสอบกรรมการ ชุดใดเป็นประโยชน์ ป.ป.ช.จะขอข้อมูล เช่น คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็อาจจะขอข้อมูลเรื่อง การยิงแก๊สน้ำตา เนื่องจาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ ผลการยิงจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าคดีนี้จะทำได้อย่างรวดเร็ว เสร็จเร็วกว่าคดีทั่วไป หากพบว่า มีผู้ใดความผิดนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยแล้ว จะต้องมีความผิดทางอาญาด้วย
วีระยื่นป.ป.ช.
วานนี้ (15 ต.ค.) นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับนักการเมืองและข้าราชการตำรวจใน 3 กรณีด้วยกัน คือ กรณีแรก ตามหนังสือของกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่ กพส.038/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 เรื่อง ขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญากับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์กับพวก ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 257 และมาตรา 289(4)
เรื่องที่ 2 นายวีระ ได้ยื่นหนังสือเลขที่ กพส.039/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช.เรื่อง ขอให้ไต่สวนดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาพนักงานสอบสวนในความผิดตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 200 วรรค 2 และมาตรา 257 โดยได้กล่าวหาร้องเรียนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ว่าเป็นพนักงานในตำแหน่งพนักงานสอบสวน กระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ ด้วยเจตนากลั่นแกล้งให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พลตรีจำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายอมร อมรรัตนานนท์, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายเทิดภูมิ ใจดี ต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 วรรคสอง และมาตรา 157
เรื่องที่ 3 ได้ยื่นหนังสือ ที่ กพส. 037/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง ขอให้ไต่สวนและดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญากับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยได้กล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมตัวนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
'จึงขอกล่าวหาร้องเรียนมา เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทำการไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญาแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กระทำความผิดดังกล่าว และขอให้รีบดำเนินการโดยเร็ว'
"สนธิ"ชี้เขมรก่อสงครามหวังกลบข่าวน้องโบว์
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เรื่องใหญ่จากนี้ คือ เราต้องรักษาราชบัลลังก์ให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพตลอดไป เพราะขณะนี้มีคนอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รักสถาบันที่มีสถาบันฯเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ กับอีกกลุ่มที่ไม่ต้องการสถาบันฯเป็นศูนย์รวมจิตใจ และในเมื่อปรัชญาความคิดเห็นต่างกัน เราต้องมาสู้กัน และสิ่งที่พันธมิตรฯทำอยู่ ก็ไม่สายเกินไป
" เราเชื่อว่ายังมีนักธุรกิจที่ดี แต่ก็มีไม่น้อยที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และชอบกล่าวหาว่า พันธมิตรฯทำให้เศรษฐกิจปั่นป่วน ซึ่งผมเตือนว่า นักธุรกิจต้องการจะอยู่ในสังคมที่ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่โปร่งใส หรืออยากอยู่ในสังคมที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแบบปกติ ไม่ต้องไปวิ่งเต้น หากเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มั่นคง ไม่มีใครไปจาบจ้วง มีสถาบันทหารปกป้อง ประเทศชาติก็จะมีแต่ความมั่นคง ประชาธิปไตยภายใต้สถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศก็มั่นคง และก็ดีกับประชาชนด้วย หรือไม่งั้น พี่น้องนักธุรกิจ ลองหลับตาดู และเมื่อตื่นขึ้นมา เห็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือ นายวีระ มุสิกพงศ์ หรือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นคณะบริหารประธานาธิบดี ก็ลองคิดดู นักธุรกิจคิดดู พวกสนามหลวงเป็นพวกไม่เอาสถาบันฯอย่างชัดเจน และพวกสนามหลวง ก็ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจ และทหาร 1 คน " นายสนธิกล่าวและว่า
แม้แต่วันพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์ พอประมาณทุ่มครึ่ง สมเด็จฯฮุนเซนออกมาประกาศจะเปิดศึกกับประเทศไทย นี้เป็นเกมที่ต้องการกลบข่าวพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์
"บอกได้เลย ต่อให้อีก 10 ชาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เกิด ตรงนี้ต้องการเบี่ยงเบนประเด็นดูซิ ชักศึกภายนอกเข้าศึกภายในบ้าน ทหารไทยที่เสียชีวิตไม่ใช่ฝีมือทหารกัมพูชา แต่เป็นฝีมือของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนมันเลวไม่รู้จะเลวอย่างไร สมัยก่อนเราพูดเสมอมว่าทักษิณอยู่เบื้องหลัง ก็มีคนเชื่อ มีคนไม่เชื่อ แต่สุดท้ายแล้ว วันเวลาก็พิสูจน์ได้ว่า ความจริงคืออะไร คนคนนี้ ต้องการทำลายประเทศชาติ และให้มีการเข่นฆ่าประชาชน ในเมื่อมันรู้ว่าหนีคดีไม่พ้น ก็ถือโอกาสทำลายประเทศไทยเลย คนคนเดียวพี่น้อง ตั้งแต่2544 -2551 เห็นหรือยัง ก่อนทักษิณจะมาเป็นนายกฯ หนี้สินของประชาชนไม่มาก ประชาชนเดินไปไหนเห็นพ่อหลวง แม่หลวงของเรา ก็กราบไหว้ แต่สุดท้ายคนคนนี้กลับเอาภาษีไปแจกจ่ายให้ประชาชน เพื่อสอนให้คนมาเคารพ เท70,000 กว่าล้านบาทกองทุนหมู่บ้าน หากทำเพื่อพ่อหลวง ปานนี้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้แล้ว แต่มันกลับเอา 70,000 ล้านบาท แจก เพื่อให้ประชาชนเลือกมันกลับมาอีก "นายสนธิกล่าวให้เห็นถึงธาตุแท้ของคนที่บ้าอำนาจ พร้อมลั่นวาจาว่า
" ใครเอาก็เอา ใครไม่เอาราชบัลลังก์ ก็ต้องรบกัน "
ป.ป.ช.ต้องสอบเอาผิด "สมชาย"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัญหาก็จะวุ่นวายต่อไป และในส่วนของพรรคก็อยากทำความเข้าใจกับป.ป.ช.ว่า ไม่อยากให้ป.ป.ช.มองข้ามกรณีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่พรรคเชื่อว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะข้อเท็จจริงพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดการเสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.นั้น เกิดขึ้นในช่วงเย็นและช่วงค่ำ ไม่ใช่ช่วงเช้า
"จากการฟังคำแถลงของ ป.ป.ช.ดูเหมือนสนใจเฉพาะกระบวนการสั่งการต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนเช้า แต่ข้อเท็จจริงหลังเหตุการณ์ ในตอนเช้าพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ลาออกจากรองนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย ทราบดีว่าอะไรเกิดขึ้นช่วงเช้า และในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด แต่กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงอยากให้ป.ป.ช.รับพิจารณาแยกกันก็ได้ "นายอภิสิทธิ์กล่าว
ลิ่วล้อจวก"พรทิพย์"แฉคนสั่งฆ่า!
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ นายสมชาย และรมว.กลาโหม วานนี้ (15 ต.ค.) ว่า ในช่วงเช้า ร.ต.ท.เชาวริน ลักธศักดิ์ ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้เดินทางเข้าพบที่บ้านพักหมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ
ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวภายหลังว่า ตนมาลาไปสาธารณะรัฐประชาชนจีน ไม่มีมีเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรับศึกหนัก เหนื่อยหน่อย ตั้งแต่เหตุการณ์ 7 ต.ค. ขณะนี้รัฐบาลก็ได้ตั้งคณะกรรมการ 2 สอบสวน หาข้อเท็จจริง และเยียวยา ส่วนตัวก็ได้บอกด้วยความสงสัยกับนายกรัฐมนตรีว่า ทำไม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ จึงจัดการงานนอกสั่ง แต่กลับมาแถลงว่าใครเป็นคนสั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งมันถือว่านอกหน้าที่
ไม่ต้องกำหนดเวลาให้กก.สอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสมชาย ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ผู้สื่อข่าว ถามถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีกรอบเวลาอย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดเวลา ไม่เหมือนคณะกรรมการเยียวยาอันนี้เราต้องเร่งรัด
"สมชาย"ไม่สนแนวคิด "อานันท์"
ต่อกรณีที่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้มีอยู่คนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี(ที่ถูกหมายจับ) นายสมชาย กล่าวว่า "การจะคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณเพื่อคลี่คลายสถานการณ์หรือไม่ ไม่เกี่ยวกัน มันเป็นเรื่องของความเห็นหลากหลาย ผมเป็นนายกฯต้องรับผิดชอบดูแลเรื่องการทำงาน ผมไม่เอาความคิดของคนที่ไม่ได้อยู่ในราชการมาทำ "นายสมชาย(น้องเขยแม้ว)กล่าว
ผู้บาดเจ็บอาการน่าเป็นห่วง
นพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการรพ.รามาธิบดี กล่าวว่า วานนี้ (15 ต.ค.)อาการล่าสุดของนายชิงชัย เจริญอุดมกิจ หรือ ตี๋ ศิลปินอิสระยังคงทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง โดยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดไม่ให้มีการติดเชื้อที่บริเวณปิด ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น ขณะนี้ยังมีผู้ที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ. 5 คน รายที่น่าเป็นห่วงคืออาการของนายชิงชัยที่ถือว่ายังไม่ปลอดภัย มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ตลอด ส่วนอีกราย เนื่องจากมีอายุมากมีบาดแผลเท้าขวาขาด สาหัส บาดแผลจึงน่าเป็นห่วง เนื่องจากอายุมากจึงฟื้นตัวช้า
นพ.ธีรพงษ์ เจริญวิทย์ รักษาการณ์ผู้อำนวยการรพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า อาการของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้า สมอง กะโหลก อาการยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ต้องรักษาอาการในห้องปลอดเชื้อ และต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
"สุขุมพงศ์"อ้างกก.เชื่อถือได้
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สังคม ไม่ยอมรับการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า คิดว่านาย สมชาย ได้ตั้งคนที่ดีที่สุดแล้ว มีทั้งอดีตนายทหาร อดีตเลขานุการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และตัวแทนภาคอัยการ จึงน่าจะเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะตัวนายปรีชา พานิชวงศ์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการ ท่านคงไม่ทำอะไรที่ทำลายชื่อเสียงที่มีมายาวนาน จึงน่าจะรับประกันความเป็นกลางได้ รวมทั้งหน่วยงานอื่นยังมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกหลายคณะ เพื่อตรวจสอบไปพร้อม ๆ กัน
จวก"หมอพรทิพย์ "พล่ามเกินหน้าที่
ส่วนที่ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุถึงตัวผู้บงการแล้ว จะทำอย่างไร นายสุขุมพงษ์ กล่าวว่า อยากให้การสืบสวนได้ข้อสรุป ที่แท้จริงก่อนจึงค่อยเปิดเผยผลสอบ การกระทำของคุณหญิงพ.ญ.พรทิพย์ ไม่ถูกต้อง
"ยุวรัตน์"ชี้อยากรู้ความจริงจึงเป็นกก.
นายยุวรัตน์ กมลเวชช กรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ ไม่สงบเมื่อวันที่ 7ต.ค. กล่าวว่า สาเหตุที่ตอบรับเข้าร่วมเป็นกรรมการชุดนี้ เพราะต้องการรับทราบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตาของตนเอง
สำหรับกรอบการทำงานขณะนี้ยังบอกรายละเอียดอะไรไม่ได้ เนื่องจากยังไม่มีการเรียกประชุมคณะกรรมการ ฯส่วนกรอบการทำงาน และเวลาขึ้นอยู่กับประธาน และที่ประชุมจะพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดการประชุมออกมา แต่เชื่อว่า การทำงานจะเป็นการรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงนำเสนอต่อสาธารณชน โดยกรรมการฯ คงจะไม่แสดงความคิดเห็น แต่จะเปิดกว้างให้ประชาชนแต่ละคนวินิจฉัยกันเอง
"เมื่อเราเข้าไปแล้วก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ผลก็จะออกมาตามข้อเท็จจริง ส่วนความพอใจไม่พอใจขึ้นอยู่กับงานที่ทำ เมื่อทำเสร็จแล้วทุกอย่างก็จบ คณะกรรมการไม่ใช่พนักงานสอบสวนเป็นเพียงผู้รวบรวมข้อเท็จจริงเท่านั้น วิธีทำงานของผมคือรวบรวมข้อเท็จจริง"
"หมอพรทิพย์"โต้กลับฝ่ายการเมือง
ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลไม่พอใจการออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการ ใช้ความรุนแรงในสลายการชุมนุมโดยพาดพิงถึงฝ่ายการเมืองว่า ตนเข้าไปตรวจสอบ รายละเอียดและสถานที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ตามที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า ไม่ได้เข้าไปทำงาน ในบทบาทหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม และได้ให้สัมภาษณ์รายละเอียดบางส่วน ตามที่ปรากฏเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งพบจากการตรวจสอบ จึงไม่คิดว่าจะถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยใดๆ
ท้าให้มาเป็นเป้าทดลองแก๊สน้ำตา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีบุคคลบางกลุ่มไม่เชื่อว่าแก๊สน้ำตาที่สั่งซื้อจากประเทศจีน มีผลทำให้ประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บแขนขาขาดนั้น พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนของอนุกรรมการสิทธิฯ ไม่จำเป็นต้องตรวจพิสูจน์ซ้ำอีกแล้ว เพราะผลการทดสอบและการเก็บตัวอย่างสารเคมีมาตรวจพิสูจน์ได้ผลชัดเจนเพียงพอแล้ว อีกทั้งสภาพบาดแผลจากศพของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) ก็แสดงให้เห็นถึงร่องรอยอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า หากกรณีที่ยังมีคนไม่เชื่อผลการตรวจพิสูจน์ก็สามารถทดลองยิงแก๊สน้ำตาชนิดดังกล่าวซ้ำอีกกี่ครั้งก็ได้ หรือจะให้คนที่ไม่เชื่อว่าแก๊สน้ำตามีอานุภาพร้ายแรงทำการทดสอบด้วยตนเอง โดยไปยืนเรียงแล้วให้ตำรวจทดสอบยิงแก๊สน้ำตาใส่ก็ได้
"สุชาติ"ปากกล้าแก้ได้ทุกคำถาม!
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้ง ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.รวมถึงตนเองด้วยนั้น ว่ารู้สึกดีที่จะได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองให้สังคมได้รับรู้ความ จริงทั้งหมด
"แต่ถึงขณะนี้ยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะถามอะไรบ้าง แต่คิดว่าผมมีคำตอบให้กับทุกคำถามอยู่แล้ว เพราะความจริงก็ต้องเป็นความจริง ผมพร้อมให้สังคมตรวจสอบอยู่แล้ว เราเกิดมาเป็นตำรวจก็ต้องเดินหน้าทำงานต่อไป แต่ก็ยืนยันว่าตอนนี้ ขวัญและกำลังใจของตำรวจนครบาลทุกคนดีมาก"
"อำนวย"อ้างกม.ให้สลายชุมนุม
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวอ้างว่า ผู้ชุมนุมที่ไปปิดล้อมรัฐสภาช่วงเช้าไม่ให้มีการเข้าประชุมก็ดี และหลังจาก ส.ส.เข้าประชุมสภาแล้วเสร็จไปปิดล้อมไม่ให้ออกก็ดี ตรงนั้นไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เพราะไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจที่จะดำเนินการได้ ส่วนการดำเนินการนั้นจะต้องไม่เกินกว่าเหตุ และคำว่าไม่เกินกว่าเหตุนี่ ก็ต้องมีการสอบสวนกันต่อไป เพราะฉะนั้นถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้หรือไม่ ถือเป็นอำนาจโดยชอบที่จะเข้าดำเนินการ