ปธ.อนุไต่สวนเหตุนองเลือด 7 ตุลาทมิฬ เร่งเฟ้นหาบุคลากรเสริมทีมสอบ ก่อนขอมติที่ประชุม ป.ป.ช.พรุ่งนี้ ยันไม่อาจชี้มูลความผิดในชั้นนี้ แต่มั่นใจได้ตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งฆ่า เชื่อนายตำรวจแค่มีส่วนร่วมในการสลายผู้ชุมนุม
วันนี้ (15 ต.ค.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่การตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณรัฐสภา โดยใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้สรุปว่า ตำรวจทั้ง 3 นายมีพฤติกรรมความผิดชัดเจนตามที่สื่อมวลชนเสนอไป เป็นแค่การมีข้อเท็จจริงและหลักฐานเบื้องต้นเชื่อมโยงว่ามีส่วนร่วมในการสั่งการสลายการชุมนุม ซึ่งสามารถตั้งคณะกรรมการไต่สวนได้ แต่ยังไม่ใช่การชี้มูลความผิด แต่จะมีความผิดหรือไม่ จะต้องมีการไต่สวนจากพยานบุคคล เอกสารหลักฐานต่างๆ ต่อไป คณะอนุกรรมการฯ ไม่มีสิทธิไปตั้งข้อกล่าวหาใครล่วงหน้าได้ แต่มีหน้าที่เพียงหาความจริงเท่านั้น
นายวิชา กล่าวว่า ในวันที่ 15 ต.ค.จะเร่งหาตัวคณะอนุกรรมการชุดนี้ให้เสร็จ เพื่อนำไปขอมติที่ประชุม ป.ป.ช.ในวันที่ 16 ต.ค.จะได้เริ่มทำงานได้ทันที โดยคณะอนุกรรมการฯ จะนำบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งด้านกฎหมาย ตำรวจ การแพทย์ เพื่อให้การไต่สวนหาข้อเท็จจริงมีความครอบคลุมทุกประเด็น ทั้งนี้ น่าจะสามารถสืบสาวจนถึงตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการสั่งการสลายการชุมนุมได้ เพราะเท่าที่ดูเห็นว่าสถานการณ์ขณะนั้นน่าจะมีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 3 คน โดยอาจรวมถึงตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงแก๊สน้ำตาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเรียกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาให้ถ้อยคำด้วยหรือไม่ นายวิชา ตอบว่า ขึ้นอยู่กับความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ แต่ใครที่เกี่ยวข้องก็ต้องเรียกมาให้ถ้อยคำทั้งหมด และใครที่ให้การเป็นประโยชน์จะกันไว้เป็นพยาน
ส่วนที่มีหลายฝ่ายได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อสวนข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมขึ้นมาหลายชุดนั้น นายวิชา กล่าวว่า คงไม่ทำให้เกิดความซับซ้อนในการทำงาน แต่จะเป็นข้อดีที่ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว หากผลสอบกรรมการชุดใดเป็นประโยชน์ ป.ป.ช.จะขอข้อมูล เช่น คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็อาจจะขอข้อมูลเรื่องการยิงแก๊สน้ำตา เนื่องจาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ผลการยิงจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าคดีนี้จะทำได้อย่างรวดเร็ว เสร็จเร็วกว่าคดีทั่วไป หากพบว่ามีผู้ใดความผิดนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยแล้วจะต้องมีความผิดทางอาญาด้วย