xs
xsm
sm
md
lg

“หมอพรทิพย์” ฟันธงสาร RDX ประกอบระเบิดฆ่า “น้องโบว์”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“หญิงหมอพรทิพย์” เผยแผลตามร่างกาย “น้องโบว์” เป็นแก๊สน้ำตาจากจีนมีสาร RDX ซึ่งใช้ประกอบระเบิดเจือปน จึงน่าเชื่อได้ว่ามีผู้จัดหามาให้ใช้ทำร้ายประชาชน ขณะที่ตำรวจแจงแก๊สน้ำตาที่สั่งซื้อจากจีนเมื่อปี 38 ไม่มีเหลือในคลังนานแล้ว

วันนี้ (13 ต.ค.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า จากการตรวจสอบยิงแก๊สน้ำตาเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) พบสาร RDX ซึ่งเป็นสารร้ายแรงประกอบระเบิด จากการทดลองพบว่า แก๊สน้ำตาชนิดยิงและขว้างจากประเทศจีนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สลายการชุมนุมเมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาที่บริเวณหน้ารัฐสภา พบมีสาร RDX ฟุ้งกระจาย ซึ่งขณะนี้พบต้นตอของสาร RDX แล้ว ซึ่งสาร RDX ไม่มีในแก๊สน้ำตาของอเมริกา และของสเปน

นอกจากนี้ ตนได้นำชิ้นส่วนของปลอกกระสุนแก๊สน้ำตาที่พันธมิตรฯ นำมาให้แล้ว พบว่าเป็นชนิดเดียวกับของจีน ซึ่งเป็นชนิดที่มีการยิงแก๊สน้ำตามากที่สุดในวันที่ 7 ต.ค. อย่างไรก็ตาม วงกระแทกของแผลที่เกิดจากสาร RDX จะมีลักษณะเฉพาะเป็นวงกลม ซึ่งเมื่อเปรียบกับแผลของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) ก็พบว่าตัวลูกยิงแก๊สน้ำตาจากจีนกับแผลใกล้เคียงกัน ขนาดเท่ากัน

“ได้ให้ข้อมูลทั้งหมดกับคณะกรรมการสิทธิฯ แล้ว แต่เปิดเผยให้สื่อทราบยังไม่ได้ ซึ่งข้อมูลการใช้แก๊ส พบว่าผู้ใช้ไม่ได้เป็นผู้จัดซื้อแก๊สน้ำตาจากจีน แต่มีผู้จัดหามาให้ ซึ่งไม่รู้ก่อนนำมาใช้ได้ทดลองก่อนหรือเปล่า เชื่อว่าผู้นำมาใช้ไม่รู้ว่าถืออะไรอยู่ในมือ และตำรวจได้บอกหมอว่าขณะนี้ไม่มีแก๊สน้ำตาชนิดที่เคยสั่งซื้อเมื่อปี 2538 อยู่ในคลังเก็บอาวุธแล้ว เพราะมีการเบิกไปใช้หมดแล้ว แต่ละหน่วยก็ไม่มีเก็บแก๊สน้ำตาจากจีนไว้” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

ทางด้าน นายสุรศรี โกศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า การทดลองยิงแก๊สน้ำตามีความรุนแรงทั้งหมดชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา 6 วันก็สรุปเบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตามจะเชิญผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาให้ข้อมูลก่อนสรุปข้อมูลนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ต่อไป

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสุรศรี เปิดภายหลังประชุมร่วมคณะกรรมการสิทธิฯชุดเล็กว่า ในเบื้องต้นได้ตรวจพิสูจน์ในสถานที่เกิดเหตุแล้ว พบวัสดุทดลองยิงแก๊สน้ำตารุนแรงจริง ส่วนรายละเอียดที่จะดำเนินการตามกฎหมายจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการสิทธิฯชุดใหญ่ในบ่ายวันนี้อีกครั้ง ซึ่งความชัดเจนว่าคณะกรรมการสิทธิฯจะเป็นตัวแทนฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ คงต้องรอพยานหลักฐานบางส่วน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยในทราบได้


กำลังโหลดความคิดเห็น