บ่ายวันนี้ (12 ต.ค.) คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนร่วมตรวจพิสูจน์กรณีการสลายการชุมนุม วันที่ 7 ตุลาคม นำโดย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายสุรสีห์ โกศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ภูวดล วุฑฒกนก ผู้บัญชาการกองพลาธิการ และกรมสรรพาวุธ พล.ต.อุทิศ สุนทร ผู้บัญชาการกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 และ พ.อ.ชาติชาย สุคนธสิงห์ ผู้อำนวยกองการศึกษา กรมสรรพาวุธ ทหารบก ร่วมกันสาธิตการยิงแก๊สน้ำตา ณ มณฑลทหารบกที่ 11 บริเวณกลางสนาม โดยแก๊สน้ำตาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำมาสาธิตมีทั้งหมด 6 ชนิด ที่มีอยู่ใน สตช. ประกอบด้วย แก๊สน้ำตาแบบยิง 4 ชนิด คือ จากจีน สเปน และสหรัฐฯ 2 ชนิด แก๊สน้ำตาแบบขว้าง จากจีนและสหรัฐฯ
นายสุรสีห์ กล่าวว่า จากการพิสูจน์ในวันนี้คาดว่า จะทราบผลภายใน 2 วัน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจและเปรียบเทียบกับกระบอกบรรจุแก๊สน้ำตาที่ตกในจุดเกิดเหตุสลายผุ้ชุมนุม พบว่ามีแก๊สน้ำตาแบบลูกยิงและลูกขว้าง จากจีนมากที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.ภูวดล กล่าวว่า การสลายผู้ชุมนุมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาแบบยิงทั้งสหรัฐฯ และจีน ความบาดเจ็บรุนแรงที่เกิดกับประชาชน ตำรวจไม่มีเจตนา ที่ผ่านมาตำรวจไม่เคยใช้แก๊สน้ำตากับประชาชน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ในรอบ 20 ปี แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องรอให้พิสูจน์กันต่อไปว่า เป็นอุบัติเหตุหรือมือที่ 3
มีรายงานว่าขั้นตอนหลังจากการสาธิตยิงแก๊สน้ำตาแล้ว จะมีการส่งผลพิสูจน์เปรียบเทียบว่าแก๊สน้ำตาที่พบในจุดสลายชุมนุมทั้งสองชนิด คือ ทั้งยิงและขว้างจากประเทศจีนนั้น มีสารระเบิดหรือไม่ และถ้ามีจะเป็นชนิดเดียวกันกับสารระเบิดที่คณะอนุกรรมการฯ ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ตรวจสอบในจุดสลายการชุมนุมหรือไม่
ก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ไป สน.พันธมิตรฯ โดยมีนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรฯ นำซากปลอกกระสุนแก๊สน้ำตาจำนวนมาก มาให้คณะอนุกรรมการฯ พิสูจน์ และเก็บเป็นหลักฐาน ซึ่งพบเศษนิ้วมือ ปลอกกระสุนแก๊สจำนวนมาก
นายสุรสีห์ กล่าวว่า จากการพิสูจน์ในวันนี้คาดว่า จะทราบผลภายใน 2 วัน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า จากการสำรวจและเปรียบเทียบกับกระบอกบรรจุแก๊สน้ำตาที่ตกในจุดเกิดเหตุสลายผุ้ชุมนุม พบว่ามีแก๊สน้ำตาแบบลูกยิงและลูกขว้าง จากจีนมากที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.ภูวดล กล่าวว่า การสลายผู้ชุมนุมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาแบบยิงทั้งสหรัฐฯ และจีน ความบาดเจ็บรุนแรงที่เกิดกับประชาชน ตำรวจไม่มีเจตนา ที่ผ่านมาตำรวจไม่เคยใช้แก๊สน้ำตากับประชาชน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ในรอบ 20 ปี แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องรอให้พิสูจน์กันต่อไปว่า เป็นอุบัติเหตุหรือมือที่ 3
มีรายงานว่าขั้นตอนหลังจากการสาธิตยิงแก๊สน้ำตาแล้ว จะมีการส่งผลพิสูจน์เปรียบเทียบว่าแก๊สน้ำตาที่พบในจุดสลายชุมนุมทั้งสองชนิด คือ ทั้งยิงและขว้างจากประเทศจีนนั้น มีสารระเบิดหรือไม่ และถ้ามีจะเป็นชนิดเดียวกันกับสารระเบิดที่คณะอนุกรรมการฯ ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ตรวจสอบในจุดสลายการชุมนุมหรือไม่
ก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ไป สน.พันธมิตรฯ โดยมีนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรฯ นำซากปลอกกระสุนแก๊สน้ำตาจำนวนมาก มาให้คณะอนุกรรมการฯ พิสูจน์ และเก็บเป็นหลักฐาน ซึ่งพบเศษนิ้วมือ ปลอกกระสุนแก๊สจำนวนมาก
