นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการคณะกรรมการธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ได้สรุปผลการตรวจสอบการจัดซื้อ จัดจ้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำท่วมแสนแสบ-ลาดพร้าว ปี 2544-2546ที่มีการกล่าวหานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. และผู้เกี่ยวข้องรับสินบนจากอดีตผู้บริหารบริษัทก่อสร้าง นิชิมัตซึ คอนสตรัคชัน จำนวน 400 ล้านเยน หรือ125 ล้านบาท เพื่อแลกกับการได้งานดังกล่าวว่า
ทั้งนี้คณะอนุกรรมาธิการฯได้ศึกษาข้อมูลเป็นเอกสารกว่า5หมื่นหน้า และเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาคือนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าฯกทม.และนายสหัส สหัสบัณฑิตกุล รองผู้ว่าฯกทม.ในขณะนั้น ซึ่งผลสรุป ปรากฎว่าพบราคารกลางเกินกว่าความเป็นจริง500 ล้านบาท ซึ่งเป็นอำนาจของ ผู้ว่าฯกทม.ที่จะเห็นชอบหรือระงับโครงการฯดังกล่าวได้และยังพบว่ามีการฮั้วงาน นอกจากนี้ยังมีการกั๊กงานไว้อีก 400 วัน เพื่อกำหนดราคากลาง และไม่มีการปรับบริษัท ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เขียนราคากลาง ส่งผลให้ กทม.เสียประโยชน์จากค่าปรับ 300 ล้านบาท
คณะอนุกรรมาธิการฯมีมติส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการรชุดใหญ่ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ โดยเบื้องต้นคณะอนุฯสรุปว่า โครงการฯนี้พบทุจริตจริง โดยผู้เกี่ยวข้องคือนายสมัคร นายสหัส ทำให้ รัฐเสียหายกว่า 500 ล้านบาท แต่ถ้า คณะกรรมาธิการฯชุดใหญ่ไม่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ผมก็จะใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส. ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการทันที นายชาญชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำแสนแสบ (คลองลาดพร้าว -สถานีสูบน้ำพระโขนง) มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท กทม.ได้เปิดประกวดราคาโครงการ เมื่อ ก.ค.2546 สมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีคุณหญิงณฐนนท์ ทวีสิน เป็นปลัด กทม. ในขณะนั้น กทม.มีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เขตบางกะปิ คลองสามวา และมีนบุรี ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำลงสู่ คลองแสนแสบให้รวดเร็ว จึงมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร ยาว 5.3 กิโลเมตร โดยกิจการร่วมค้า ไอเอ็น (บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) และนิชิมัสซึ คอนสตรัคชั่น ) เป็นผู้ชนะการประมูลโดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 2,115,134,912 บาท โดยโครงการสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว เริ่มต้นโครงการจากบึงพระราม 9 และสิ้นสุดโครงการที่สถานีสูบน้ำ พระโขนง รวมระยะทาง 5.3 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวคืบหน้าไปแล้ว 75% และกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.51นี้
ล่าสุดโครงการฯนี้ตกเป็นข่าวครึกโครม เมื่อหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มีการจ่ายเงินสินบนในประเทศไทย 400 ล้านเยนหรือ 125 ล้านบาท เพื่อแลกกับ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบริเวณคลองแสนแสบ-ลาดพร้าวของกทม.มูลค่า 2,000กว่าล้านบาท ช่วงที่ นาย สมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่ากทม.เมื่อปี 2546
ปูดเตรียมงาบ2หมื่นล้านรถไฟฟ้า
นายชาญชัย แถลงอีกว่ากรณี นาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะมีการใช้เม็ดเงินกว่าแสนล้านในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะมีการเดินหน้า โครงการเมกกะโปรเจคต่อไปนั้น ตนตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการหาเงิน โดยระดมเพื่อไว้ใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นายชาญชัย กล่าวว่าโครงการฯแรก มาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ความยาว 23 กิโลเมตร ที่มีการตั้งกรอบวงเงินเดิมที่ 31,217 ล้านบาท แต่สมัยต้นช่วงรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี มีการปรับมาอยู่ที่ 36,055ล้านบาท โดยอ้างว่าค่าน้ำมันและค่าเหล็กขึ้นตามตลาดโลก แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันและเหล็กลดลงมาเกือบ100 % โดยราคาน้ำมันเบนซิน95 จากเดิม 42บาท ลดลงเหลือ 32บาท ขณะที่เหล็กกิโลกรัมละ 45บาทลดลงเหลือ 22 บาท ดังนั้น ราคาจะต้องลดลงมาไม่ต่ำกว่า 7,500ล้านบาท และพบว่าในการประกวดราคา มีเพียง3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ชนะการประมวดราคาไปแล้วใน3 สัญญาในเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้รอเพียง เจบิค ปล่อยเงินกู้เท่านั้น
นอกจากนี้ยังพบว่า โครงการสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย( รฟท.) ความยาว 26กิโลเมตร ที่รัฐบาลพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ตั้งไว้ที่ 59,000 ล้านบาท แต่เมื่อช่วงต้นของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.คมนาคม ได้ปรับเพิ่มมาเป็น 66,591 ล้านบาท ล่าสุดนายสันติ เตรียมนำเรื่องให้ ครม.อนุมัติ โดยจะปรับวงเงินเพิ่มเป็น77,000ล้าน โดยอ้าง ราคาน้ำมันและเหล็กที่สูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับราคารน้ำมันและเหล็ก ณ ราคาปัจจุบันโครงการฯ นี้ควรจะปรับลดลงมา15,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการฯนี้จะมีการประกวดราคาในเดือน พ.ย.นี้
นายชาญชัย กล่าวว่า ในขณะที่อีกโครงการคือ โครงการรถไฟสายสีแดง บางซื่อ -ตลิ่งชัน ของ รฟท. กรอบวงเงิน13,133 ล้านบาท แต่ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ได้จ้างอาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรฯ มาคำนวนราคาใหม่ ปรากฎว่าเหลือ 8,748 ล้านบาท ลดลงมาถึง27 % และยังมีบริษัทชนะการประมูลงาน คือ บริษัท ยูนิค-ซุนอู เป็นผู้ชนะการประมูลงาน แต่รัฐบาลยังไม่ได้เร่งรีบเซ็นต์สัญญา ทั้งที่บอกว่าเป็นเรื่อง รีบเร่งด่วน ตรงนี้อาจเป็นเพราะไม่มีผู้ได้เสียในโครงการฯนี้ จึงไม่มีการเร่งรีบอะไร
ผมไม่ได้ขัดขวางการประมูลงานแต่ไม่อยากเห็นการทุจริต คอรัปชั่น ซึ่งใน 3 โครงการนี้ มี 2โครงการที่ไม่โปร่งใส เพราะมีการเตรียมเงินจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านเพื่อนำไปใช้สำหรับการเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้คณะอนุกรรมาธิการฯได้ศึกษาข้อมูลเป็นเอกสารกว่า5หมื่นหน้า และเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาคือนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าฯกทม.และนายสหัส สหัสบัณฑิตกุล รองผู้ว่าฯกทม.ในขณะนั้น ซึ่งผลสรุป ปรากฎว่าพบราคารกลางเกินกว่าความเป็นจริง500 ล้านบาท ซึ่งเป็นอำนาจของ ผู้ว่าฯกทม.ที่จะเห็นชอบหรือระงับโครงการฯดังกล่าวได้และยังพบว่ามีการฮั้วงาน นอกจากนี้ยังมีการกั๊กงานไว้อีก 400 วัน เพื่อกำหนดราคากลาง และไม่มีการปรับบริษัท ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เขียนราคากลาง ส่งผลให้ กทม.เสียประโยชน์จากค่าปรับ 300 ล้านบาท
คณะอนุกรรมาธิการฯมีมติส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการรชุดใหญ่ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ โดยเบื้องต้นคณะอนุฯสรุปว่า โครงการฯนี้พบทุจริตจริง โดยผู้เกี่ยวข้องคือนายสมัคร นายสหัส ทำให้ รัฐเสียหายกว่า 500 ล้านบาท แต่ถ้า คณะกรรมาธิการฯชุดใหญ่ไม่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ผมก็จะใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส. ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการทันที นายชาญชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำแสนแสบ (คลองลาดพร้าว -สถานีสูบน้ำพระโขนง) มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท กทม.ได้เปิดประกวดราคาโครงการ เมื่อ ก.ค.2546 สมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีคุณหญิงณฐนนท์ ทวีสิน เป็นปลัด กทม. ในขณะนั้น กทม.มีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ เขตบางกะปิ คลองสามวา และมีนบุรี ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำลงสู่ คลองแสนแสบให้รวดเร็ว จึงมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร ยาว 5.3 กิโลเมตร โดยกิจการร่วมค้า ไอเอ็น (บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) และนิชิมัสซึ คอนสตรัคชั่น ) เป็นผู้ชนะการประมูลโดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 2,115,134,912 บาท โดยโครงการสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว เริ่มต้นโครงการจากบึงพระราม 9 และสิ้นสุดโครงการที่สถานีสูบน้ำ พระโขนง รวมระยะทาง 5.3 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวคืบหน้าไปแล้ว 75% และกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธ.ค.51นี้
ล่าสุดโครงการฯนี้ตกเป็นข่าวครึกโครม เมื่อหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มีการจ่ายเงินสินบนในประเทศไทย 400 ล้านเยนหรือ 125 ล้านบาท เพื่อแลกกับ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบริเวณคลองแสนแสบ-ลาดพร้าวของกทม.มูลค่า 2,000กว่าล้านบาท ช่วงที่ นาย สมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่ากทม.เมื่อปี 2546
ปูดเตรียมงาบ2หมื่นล้านรถไฟฟ้า
นายชาญชัย แถลงอีกว่ากรณี นาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะมีการใช้เม็ดเงินกว่าแสนล้านในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะมีการเดินหน้า โครงการเมกกะโปรเจคต่อไปนั้น ตนตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการหาเงิน โดยระดมเพื่อไว้ใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นายชาญชัย กล่าวว่าโครงการฯแรก มาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ความยาว 23 กิโลเมตร ที่มีการตั้งกรอบวงเงินเดิมที่ 31,217 ล้านบาท แต่สมัยต้นช่วงรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี มีการปรับมาอยู่ที่ 36,055ล้านบาท โดยอ้างว่าค่าน้ำมันและค่าเหล็กขึ้นตามตลาดโลก แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันและเหล็กลดลงมาเกือบ100 % โดยราคาน้ำมันเบนซิน95 จากเดิม 42บาท ลดลงเหลือ 32บาท ขณะที่เหล็กกิโลกรัมละ 45บาทลดลงเหลือ 22 บาท ดังนั้น ราคาจะต้องลดลงมาไม่ต่ำกว่า 7,500ล้านบาท และพบว่าในการประกวดราคา มีเพียง3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ชนะการประมวดราคาไปแล้วใน3 สัญญาในเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้รอเพียง เจบิค ปล่อยเงินกู้เท่านั้น
นอกจากนี้ยังพบว่า โครงการสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย( รฟท.) ความยาว 26กิโลเมตร ที่รัฐบาลพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ตั้งไว้ที่ 59,000 ล้านบาท แต่เมื่อช่วงต้นของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.คมนาคม ได้ปรับเพิ่มมาเป็น 66,591 ล้านบาท ล่าสุดนายสันติ เตรียมนำเรื่องให้ ครม.อนุมัติ โดยจะปรับวงเงินเพิ่มเป็น77,000ล้าน โดยอ้าง ราคาน้ำมันและเหล็กที่สูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับราคารน้ำมันและเหล็ก ณ ราคาปัจจุบันโครงการฯ นี้ควรจะปรับลดลงมา15,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการฯนี้จะมีการประกวดราคาในเดือน พ.ย.นี้
นายชาญชัย กล่าวว่า ในขณะที่อีกโครงการคือ โครงการรถไฟสายสีแดง บางซื่อ -ตลิ่งชัน ของ รฟท. กรอบวงเงิน13,133 ล้านบาท แต่ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ได้จ้างอาจารย์ มหาวิทยาลัยเกษตรฯ มาคำนวนราคาใหม่ ปรากฎว่าเหลือ 8,748 ล้านบาท ลดลงมาถึง27 % และยังมีบริษัทชนะการประมูลงาน คือ บริษัท ยูนิค-ซุนอู เป็นผู้ชนะการประมูลงาน แต่รัฐบาลยังไม่ได้เร่งรีบเซ็นต์สัญญา ทั้งที่บอกว่าเป็นเรื่อง รีบเร่งด่วน ตรงนี้อาจเป็นเพราะไม่มีผู้ได้เสียในโครงการฯนี้ จึงไม่มีการเร่งรีบอะไร
ผมไม่ได้ขัดขวางการประมูลงานแต่ไม่อยากเห็นการทุจริต คอรัปชั่น ซึ่งใน 3 โครงการนี้ มี 2โครงการที่ไม่โปร่งใส เพราะมีการเตรียมเงินจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านเพื่อนำไปใช้สำหรับการเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้
