ผู้จัดการรายวัน – “นายกฯทรราช” พ่นน้ำลายผ่าน NTB แจ้งสถานการณ์การเมือง อ้างมาจากการเลือกตั้งจึงต้องรักษากฎหมาย ตีหน้าเศร้าเสียใจเหตุตำรวจฆ่า ปชช. แต่อัดพันธมิตรฯชุมนุมเกินขอบเขต พร้อมเสนอพักรบชั่วคราวและขอทำเนียบฯคืนเพื่อทำงานสำคัญของชาติหลายงานที่รออยู่ แต่ตัวเองยังกอดเก้าอี้แน่น บอกเฉยยังหาทางออกไม่ชัดเจน เผยตั้ง “ปรีชา” อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ “ชวรัตน์”เป็นประธานเยียวยาผู้บาดเจ็บฯ
วานนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในช่วงเช้ายังคงเก็บตัวเงียบอยู่ที่บ้านพักเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยในช่วงเช้า ดร.รุ่ง แก้วแดง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ได้เข้าพบนานประมาณ 1 ชั่วโมง
จนเวลา 13.15 น. นายสมชาย ได้เดินทางออกจาบ้านพักไปยังสนามหลวง เพื่อร่วมพิธีซักซ้อมเสมือนจริงริ้วขบวนพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเสร็จพระราชพิธีฯในเวลา 15.00 น.
จากนั้นเวลา 15.30 น.นายสมชาย เดินทางเข้าบ้านพัก พร้อมให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ในเวลา 20.30 น. แต่ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แต่จะพูดเรื่องทั่วๆ ไปให้รอฟัง ถ้าเปิดเผยหมดก็ไม่ตื่นเต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นเรื่องการยุบสภาหรือลาออกหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีหรอก เมื่อถามว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ถูกต้องๆ เมื่อถามอีกว่า เกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้ไป “หลาว” ถึงใครทั้งนั้น เพียงต้องการให้ประชาชนได้ทราบเรื่องราวอะไรบ้างแค่นั้น ไม่มีอะไรมากต้องรอฟัง
ส่วนการที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เคลื่อนขบวนมารวมตัวที่กรุงเทพฯหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมชาย กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว ตนไม่ค่อยรู้เรื่องนั้นและก็บอกไปแล้วว่าเราไม่สนับสนุนให้มีการวิวาท หรือปะทะอะไรกัน การใช้ความรุนแรง ไม่สนับสนุนทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะมีวิธีการดูแลความสงบอย่างไรในเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯจะมีการเคลื่อนไหวในวันตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกันศาลสั่งไม่ให้รัฐใช้วิธีการรุนแรงสลายการชุมนุมนายสมชาย กล่าวว่า ได้เรียนทางตำรวจไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งให้ตนทราบและตนก็บอกว่ารับทราบและขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด เมื่อถามว่าแกนนำ นปช.เป็น ส.ส.พลังประชาชน จะห้ามปราบอย่างไร นายสมชาย ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ทำหน้ามึนๆ แล้วเดินเข้าบ้านทันที
**”สมชาย”บอกเสียใจ”7 ตุลาทมิฬ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในเวลา 20.30 น. นายสมชาย ได้ใช้สถานีโทรทัศน์ NBT กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้โดยใช้เวลา 10 นาที่สรุปว่า บ้านเมืองของเรามีความขัดแย้งทางความคิดมากมายและมีการประท้วงชุมนุมกันมาก บางครั้งก็เกินขอบเขตของกฎหมายที่กำหนดไว้จึงอยากขอความกรุณาให้อยู่ในขอบเจตของกฏหมาย เพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิคนอื่น
นายสมชาย อ้างว่ารัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อประชาชน รัฐสภา ซึ่งรัฐบาลยึดมั่นในการปกปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดหลักกฎหมายในการอยู่ร่วมกัน
นายสมชาย กล่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนเสียใจ เรื่องนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น 2 ชุด โดยชุดแรกทำหน้าที่สอบสวนหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อทำให้มีความกระจ่างชัด สามารถนำเรื่องราวมารายงานต่อประชาชนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ส่วนกรรมการชุดที่สองที่จะดำเนินการเยียวยาความเสียหายต่างๆ ไม่ว่าจะต่อฝ่ายใด บุคคลใด หรือมีความเสียหายต่อทรัพย์สิน
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้เรามีปัญหามากมายไม่ใช่แค่ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดและการเมืองเท่านั้น แต่เรามีภัยที่น่ากลัวนั้นคือภัยเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นแม้เหตุจะเกิดจากเอเมริกา ยุโรป อังกฤษ แต่เหตุเหล่านั้นที่เรียกว่า วิกฤตทางการเงินของโลก ส่งผลต่อศรัทธาต่อสถาบันทางการเงินอย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้น เอเชียเราจึงเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นตลาดสำคัญที่จะกระทบต่อสินค้าของไทย ซึ่งมีผู้ลงทุนที่อยู่ในบ้านเรามากมาย ดังนั้นเรามีความจำเป็นต้องเตรียมการรองรับสถานการณ์ช่วงนี้ให้ดี หากไม่เตรียมตั้งแต่เนิ่นๆ จะกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ
นอกจากนี้ เรายังมีงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งงานนี้รัฐบาลได้เตรียมการมาค่อนข้างนาน ได้ดำเนินการสร้างพระเมรุ ซ่อมราชรถ-ราชยานต่างๆ ซึ่งสำเร็จเกือบ 100% แล้ว การสร้างพระเมรุเกิน 99% เรามีความจำเป็นที่ต้องร่วมไม้ร่วมมือที่ต้องถวายความจงรักภักดีให้สมพระเกียรติที่สุด จากนั้นจะเป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายพระพรและถวายความจงรักภักดี
**อ้อน พธม.คืนทำเนียบฯให้รัฐบาล
นอกจากนี้ การประชุมระดับผู้นำอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในประมาณกลางเดือนธันวาคมที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ตนไม่อยากให้มีความขัดแย้งกัน จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียเกียรติของชาติ คนไทยฉะนั้นอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดงานที่กล่าวมา
“หากผู้ชุมนุมได้กรุณาคืนพื้นที่ในการใช้การจราจรก็ดี หรือทำเนียบรัฐบาลที่เราจะใช้จัดงานสโมสรสันนิบาตก็ดี ผมคิดว่าจะเป็นสิ่งที่สวยงาม” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีข่าวลือต่างๆ มากมาย บางครั้งไม่เป็นความจริง จึงอยากจะกราบเรียนขอร้องพี่น้องประชาชนว่าการรับฟังนั้นคงต้องใช้วิจารณญาณ ใช้สามัญสำนึกที่ดีมีเหตุผลรับฟัง
“ผมอยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่าในปัจจุบันนี้ มีหลายฝ่าย เรียกร้องว่ารัฐบาลควรจะยุบสภาหรือนายกรัฐมนตรีควรจะลาออกจากตำแหน่ง ผมไม่ได้คิดติดยึดในตำแหน่งหน้าที่ ถ้าหากการทำเช่นนั้นสามารถแก้ปัญหาได้จริง แต่การทำเช่นนั้นยังไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ทั้งอาจจะกระทบต่อภารกิจสำคัญที่เราต้องร่วมกันทำหลายอย่าง ผมคิดว่าควรจะให้เห็นทางออกที่ชัดเจนเสียก่อน แล้วผมจะสามารถตัดสินใจได้ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเลย เช่นการที่รัฐบาลสนับสนุนให้มีร่างรัฐธรรมนูญ หรือให้มี ส.ส.ร.3 อย่างนี้ผมคิดว่าเป็นแนวทาง ที่สามารถปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ผมคิดว่าถ้าประชาชนทุกฝ่ายทุกคนพร้อมใจที่ยอมรับในสิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ผมพร้อมที่จะอำลาไป ไม่มีปัญหา แต่อยากจะเรียนว่าเราต้องหาทางออกให้เจอ และพาไปสู่ความสงบสุขที่เราจะอยู่ร่วมกันได้” นายสมชาย กล่าว
**เผยตั้ง“ปรีชา”ปธ.สอบ”7 ตุลาทมิฬ“
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ที่พูดเพราะอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพราะมีงานสำคัญหลายอย่างที่ต้องทำร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าเรายังอยู่ในสภาพที่ขาดเอกภาพการแก้ปัญหาก็จะลำบากจะกระทำกับประชาชนทุกคน ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรให้พันธมิตรฯคืนทำเนียบฯ นั้นกำลังช่วยๆ กันคิดหน่อย
“ตอนนี้เราหยุดความขัดแย้งไว้ซักพักได้ไหม ถ้าความขัดแย้งมันยังไม่หายไปก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้หยุดไว้ซักพักหนึ่ง เสร็จงานแล้วค่อยมาขัดแย้งกันใหม่ก็ยังดีกว่า” นายสมชาย กล่าว
ส่วนจะให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนไหนไปเจรจากับพันธมิตรฯให้เลิกชุมนุมชั่วคราว นายสมชาย กล่าวว่า ใครก็ได้ที่คิดว่าคุยกันเข้าใจ กำลังมองหาอยู่ เรื่องปัญหาความรุนแรง ความขัดแย้งทางความคิดนั้น บางท่านก็กังวลไม่อยากจะไป แต่ก็เป็นความพยายามที่จะต้องทำต่อไป เมื่อถามว่านายกฯจะเข้าไปเจรจาเองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหา แต่ว่าต้องพูดกันด้วยเหตุผล ต่อข้อถามว่า จะยกหูคุยกันเมื่อไร นายสมชายกล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าเป็นอย่างไร
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตอนนี้เราได้รายชื่อผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คือนายปรีชา พาณิชวงศ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยจะเริ่มทำงานได้ไม่เกินวันอังคารที่ 14 ต.ค.นี้ ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะให้ประธานเป็นคนเลือกเอง แม้แต่ตัวประธานก็มีผู้ใหญ่ทาบทามให้และคิดว่าคณะกรรมการจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นได้เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเมือง รัฐบาล ไม่ว่าชุดใดๆทั้งสิ้นส่วนคณะกรรมการเยียวยาฯ คงไม่เป็นปัญหา มอบให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ
วานนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในช่วงเช้ายังคงเก็บตัวเงียบอยู่ที่บ้านพักเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ โดยในช่วงเช้า ดร.รุ่ง แก้วแดง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ได้เข้าพบนานประมาณ 1 ชั่วโมง
จนเวลา 13.15 น. นายสมชาย ได้เดินทางออกจาบ้านพักไปยังสนามหลวง เพื่อร่วมพิธีซักซ้อมเสมือนจริงริ้วขบวนพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเสร็จพระราชพิธีฯในเวลา 15.00 น.
จากนั้นเวลา 15.30 น.นายสมชาย เดินทางเข้าบ้านพัก พร้อมให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ในเวลา 20.30 น. แต่ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แต่จะพูดเรื่องทั่วๆ ไปให้รอฟัง ถ้าเปิดเผยหมดก็ไม่ตื่นเต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นเรื่องการยุบสภาหรือลาออกหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีหรอก เมื่อถามว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ถูกต้องๆ เมื่อถามอีกว่า เกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้ไป “หลาว” ถึงใครทั้งนั้น เพียงต้องการให้ประชาชนได้ทราบเรื่องราวอะไรบ้างแค่นั้น ไม่มีอะไรมากต้องรอฟัง
ส่วนการที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เคลื่อนขบวนมารวมตัวที่กรุงเทพฯหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมชาย กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว ตนไม่ค่อยรู้เรื่องนั้นและก็บอกไปแล้วว่าเราไม่สนับสนุนให้มีการวิวาท หรือปะทะอะไรกัน การใช้ความรุนแรง ไม่สนับสนุนทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะมีวิธีการดูแลความสงบอย่างไรในเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯจะมีการเคลื่อนไหวในวันตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกันศาลสั่งไม่ให้รัฐใช้วิธีการรุนแรงสลายการชุมนุมนายสมชาย กล่าวว่า ได้เรียนทางตำรวจไปแล้ว ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งให้ตนทราบและตนก็บอกว่ารับทราบและขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด เมื่อถามว่าแกนนำ นปช.เป็น ส.ส.พลังประชาชน จะห้ามปราบอย่างไร นายสมชาย ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ทำหน้ามึนๆ แล้วเดินเข้าบ้านทันที
**”สมชาย”บอกเสียใจ”7 ตุลาทมิฬ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในเวลา 20.30 น. นายสมชาย ได้ใช้สถานีโทรทัศน์ NBT กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้โดยใช้เวลา 10 นาที่สรุปว่า บ้านเมืองของเรามีความขัดแย้งทางความคิดมากมายและมีการประท้วงชุมนุมกันมาก บางครั้งก็เกินขอบเขตของกฎหมายที่กำหนดไว้จึงอยากขอความกรุณาให้อยู่ในขอบเจตของกฏหมาย เพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิคนอื่น
นายสมชาย อ้างว่ารัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งจึงจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อประชาชน รัฐสภา ซึ่งรัฐบาลยึดมั่นในการปกปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดหลักกฎหมายในการอยู่ร่วมกัน
นายสมชาย กล่าวถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนเสียใจ เรื่องนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น 2 ชุด โดยชุดแรกทำหน้าที่สอบสวนหาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อทำให้มีความกระจ่างชัด สามารถนำเรื่องราวมารายงานต่อประชาชนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ส่วนกรรมการชุดที่สองที่จะดำเนินการเยียวยาความเสียหายต่างๆ ไม่ว่าจะต่อฝ่ายใด บุคคลใด หรือมีความเสียหายต่อทรัพย์สิน
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้เรามีปัญหามากมายไม่ใช่แค่ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดและการเมืองเท่านั้น แต่เรามีภัยที่น่ากลัวนั้นคือภัยเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นแม้เหตุจะเกิดจากเอเมริกา ยุโรป อังกฤษ แต่เหตุเหล่านั้นที่เรียกว่า วิกฤตทางการเงินของโลก ส่งผลต่อศรัทธาต่อสถาบันทางการเงินอย่างยิ่งใหญ่ ดังนั้น เอเชียเราจึงเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นตลาดสำคัญที่จะกระทบต่อสินค้าของไทย ซึ่งมีผู้ลงทุนที่อยู่ในบ้านเรามากมาย ดังนั้นเรามีความจำเป็นต้องเตรียมการรองรับสถานการณ์ช่วงนี้ให้ดี หากไม่เตรียมตั้งแต่เนิ่นๆ จะกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ
นอกจากนี้ เรายังมีงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งงานนี้รัฐบาลได้เตรียมการมาค่อนข้างนาน ได้ดำเนินการสร้างพระเมรุ ซ่อมราชรถ-ราชยานต่างๆ ซึ่งสำเร็จเกือบ 100% แล้ว การสร้างพระเมรุเกิน 99% เรามีความจำเป็นที่ต้องร่วมไม้ร่วมมือที่ต้องถวายความจงรักภักดีให้สมพระเกียรติที่สุด จากนั้นจะเป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายพระพรและถวายความจงรักภักดี
**อ้อน พธม.คืนทำเนียบฯให้รัฐบาล
นอกจากนี้ การประชุมระดับผู้นำอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในประมาณกลางเดือนธันวาคมที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ตนไม่อยากให้มีความขัดแย้งกัน จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียเกียรติของชาติ คนไทยฉะนั้นอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดงานที่กล่าวมา
“หากผู้ชุมนุมได้กรุณาคืนพื้นที่ในการใช้การจราจรก็ดี หรือทำเนียบรัฐบาลที่เราจะใช้จัดงานสโมสรสันนิบาตก็ดี ผมคิดว่าจะเป็นสิ่งที่สวยงาม” นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีข่าวลือต่างๆ มากมาย บางครั้งไม่เป็นความจริง จึงอยากจะกราบเรียนขอร้องพี่น้องประชาชนว่าการรับฟังนั้นคงต้องใช้วิจารณญาณ ใช้สามัญสำนึกที่ดีมีเหตุผลรับฟัง
“ผมอยากจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่าในปัจจุบันนี้ มีหลายฝ่าย เรียกร้องว่ารัฐบาลควรจะยุบสภาหรือนายกรัฐมนตรีควรจะลาออกจากตำแหน่ง ผมไม่ได้คิดติดยึดในตำแหน่งหน้าที่ ถ้าหากการทำเช่นนั้นสามารถแก้ปัญหาได้จริง แต่การทำเช่นนั้นยังไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ทั้งอาจจะกระทบต่อภารกิจสำคัญที่เราต้องร่วมกันทำหลายอย่าง ผมคิดว่าควรจะให้เห็นทางออกที่ชัดเจนเสียก่อน แล้วผมจะสามารถตัดสินใจได้ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเลย เช่นการที่รัฐบาลสนับสนุนให้มีร่างรัฐธรรมนูญ หรือให้มี ส.ส.ร.3 อย่างนี้ผมคิดว่าเป็นแนวทาง ที่สามารถปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ผมคิดว่าถ้าประชาชนทุกฝ่ายทุกคนพร้อมใจที่ยอมรับในสิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ผมพร้อมที่จะอำลาไป ไม่มีปัญหา แต่อยากจะเรียนว่าเราต้องหาทางออกให้เจอ และพาไปสู่ความสงบสุขที่เราจะอยู่ร่วมกันได้” นายสมชาย กล่าว
**เผยตั้ง“ปรีชา”ปธ.สอบ”7 ตุลาทมิฬ“
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ที่พูดเพราะอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพราะมีงานสำคัญหลายอย่างที่ต้องทำร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าเรายังอยู่ในสภาพที่ขาดเอกภาพการแก้ปัญหาก็จะลำบากจะกระทำกับประชาชนทุกคน ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรให้พันธมิตรฯคืนทำเนียบฯ นั้นกำลังช่วยๆ กันคิดหน่อย
“ตอนนี้เราหยุดความขัดแย้งไว้ซักพักได้ไหม ถ้าความขัดแย้งมันยังไม่หายไปก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้หยุดไว้ซักพักหนึ่ง เสร็จงานแล้วค่อยมาขัดแย้งกันใหม่ก็ยังดีกว่า” นายสมชาย กล่าว
ส่วนจะให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนไหนไปเจรจากับพันธมิตรฯให้เลิกชุมนุมชั่วคราว นายสมชาย กล่าวว่า ใครก็ได้ที่คิดว่าคุยกันเข้าใจ กำลังมองหาอยู่ เรื่องปัญหาความรุนแรง ความขัดแย้งทางความคิดนั้น บางท่านก็กังวลไม่อยากจะไป แต่ก็เป็นความพยายามที่จะต้องทำต่อไป เมื่อถามว่านายกฯจะเข้าไปเจรจาเองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหา แต่ว่าต้องพูดกันด้วยเหตุผล ต่อข้อถามว่า จะยกหูคุยกันเมื่อไร นายสมชายกล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าเป็นอย่างไร
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตอนนี้เราได้รายชื่อผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คือนายปรีชา พาณิชวงศ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยจะเริ่มทำงานได้ไม่เกินวันอังคารที่ 14 ต.ค.นี้ ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะให้ประธานเป็นคนเลือกเอง แม้แต่ตัวประธานก็มีผู้ใหญ่ทาบทามให้และคิดว่าคณะกรรมการจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นได้เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเมือง รัฐบาล ไม่ว่าชุดใดๆทั้งสิ้นส่วนคณะกรรมการเยียวยาฯ คงไม่เป็นปัญหา มอบให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการฯ