ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ได้นำตัว ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ จันทร อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งชันเข่าเล็งอาวุธปืนพกสั้นในแนวระนาบในคลิปที่เผยแพร่ ในเว็บไซด์ต่างๆ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมกันนี้ก็มี ส.ต.อ.ประคอง พันระกา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 2 บก.ตปพ.ซึ่งเป็นคู่ทำงานมีหน้าที่คอยคุ้มกันรถให้ ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาร่วมแถลงข่าวด้วย
พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า ตนเองได้ส่งหนังสือและอีเมล์ ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท้องที่ต่างๆ เพื่อให้กำลังใจ เพราะตอนนี้มีตำรวจมีปัญหาด้านสุขภาพจิตมาก หลังจากถูกสังคมกดดัน
มีตำรวจมาพูดกับผมว่า ตอนนี้ตำรวจไม่กล้าทำงานเพราะผู้ใหญ่ไม่กล้าตัดสินใจ ผมจึงคิดกับเพื่อนตำรวจนอกราชการที่อดีตเคยเป็นครู ตชด. ปจ. คอมมานโด กองปราบปราบ ตั้งกองกำลังกู้ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเสนอรัฐบาลว่า จะเข้าไปยึดทำเนียบฯ คืนเอง เบื้องต้นรวบรวมตำรวจนอกราชการได้กว่า 1 พันนาย ซึ่งถ้าหากตำรวจในราชการ อยากร่วมด้วย ก็ขอให้ไปลาราชการมาร่วมกันทำงาน ส่วนชาวบ้านทั่วไปก็มาร่วมได้ แต่ให้มาทำงานในส่วนอื่น เพราะไม่ได้รับการฝึกมา ซึ่งกองกำลังสามารถรวบรวมได้ภาย ใน 5 วัน ส่วนเรื่องเงินทุน ถ้าไม่มีใครบริจาคสนับสนุน จะขายทรัพย์สินส่วนตัวซึ่งเป็นเหรียญที่มีค่าที่ตนเองเก็บไว้มานาน จะมีการประมูลขาย ใครสนใจสนับสนุนก็ให้ติดต่อมาได้
ด้าน ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นพลขับรถบัส ขนอุปกรพิเศษในการควบคุมฝูงชน ก่อนเกิดเหตุ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับอยู่ตรง บริเวณลานใกล้ประตูทางเขาพระที่นั่งวิมานเมฆ ขณะนั้นกำลังจะขับรถกลับเข้าไปรับเจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ตกค้างอยู่ ก็เห็นรถกระบะสีน้ำเงินขับพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน้าหน้าได้รับบาดเจ็บ 4-5 นาย ตนเองจึงจะขับรถเข้าไปขวาง ซึ่งตอนนั้นได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารว่ามีการยิงกันเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายรายแล้วให้เข้าไปอย่างระมัดระวัง
ตอนนั้นก็รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาออกมาหมดแล้ว ระหว่างที่จะขับรถเข้าไปขวางเห็นว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับพุ่งเข้ามาหวังจะชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่แนวด้านหน้าซ้ำ ตนเองจึงวิ่งลงจากรถเอาอาวุธปืน ประจำกายเป็นอาวุธปืน ลูกโม่ขนาด .357 ออกมาเพื่อหวังยิงสะกัดยางล้อรถเพื่อไม่ให้รถพุ่งมาชน เพื่อนตำรวจซ้ำ แต่รถคันดังกล่าวได้ขับหนีออกไปก่อนจึงไม่ได้ยิงปืนออกไป จากนั้นเพื่อนในหน่วยที่อยู่ใกล้เคียงก็มาสะกิดบอกว่ารถไปแล้วตนจึงได้ขึ้นรถขับตามออกไป ซึ่งตนเองพร้อมให้ตรวจสอบเขม่าดินปืน อาวุธปืนว่าไม่ได้ลั่นไก
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนตำรวจให้รอดชีวิต เพราะตอนนี้แนวด้านหลังก็มีเพื่อนตำรวจอยู่เป็นจำนวนมาก และด้านหน้าแนว เพื่อนที่ถูกรถชนก็ยังไม่มีใครเข้าไปช่วยออกมายังอยู่ที่เดิม ต่อข้อถามที่ว่า คิดหรือไม่ตอนนั้นถ้ายิงออกไปจะพลาดไปถูกกลุ่มผู้ชุมนุม ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนที่ชักอาวุธปืนออกมาตรงนั้นยืนยันว่าไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่เลย มีเพียงตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและรถคันดังกล่าวเท่านั้น
หลังเกิดเหตุการณ์ผู้บังคับบัญชาก็เรียกไปสอบถามว่าในรูปใช่ผมหรือเปล่า ซึ่งผมก็ตอบว่าใช่ ผู้บังคับบัญชาก็ให้เล่าเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งผมก็ได้ทำรายงานชี้แจงไปแล้ว ส่วนอาวุธปืน ตอนนี้เก็บไว้ที่หน่วยพร้อมที่จะให้ตรวจสอบว่ายังไม่มีการยิงออกไป
สำหรับพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร.นั้น ในอดีต เป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อครั้งที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.สล้าง เป็นรองอ.ตร. รับผิดชอบดูแลงานด้านการจราจรนั้น มีความขัดแย้งทางแนวคิดเกี่ยวกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งทาง กทม.ต้องการให้สร้างแบบลอยฟ้า ในขณะที่ พล.ต.อ.สล้าง หนุนการสร้าง รถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ในที่สุด กทม.ก็สร้างรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นแห่งแรก และเป็นคนสนิทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข
นอกจากนี้ เมื่อครั้งคดียาบ้าที่ จ.สุพรรณบุรี พล.ต.อ.สล้าง ก็เป็นผู้บัญชาการในการปราบปราม"โจ ด่านช้าง"กับพวกรวม 6 ศพด้วย
พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า ตนเองได้ส่งหนังสือและอีเมล์ ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท้องที่ต่างๆ เพื่อให้กำลังใจ เพราะตอนนี้มีตำรวจมีปัญหาด้านสุขภาพจิตมาก หลังจากถูกสังคมกดดัน
มีตำรวจมาพูดกับผมว่า ตอนนี้ตำรวจไม่กล้าทำงานเพราะผู้ใหญ่ไม่กล้าตัดสินใจ ผมจึงคิดกับเพื่อนตำรวจนอกราชการที่อดีตเคยเป็นครู ตชด. ปจ. คอมมานโด กองปราบปราบ ตั้งกองกำลังกู้ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเสนอรัฐบาลว่า จะเข้าไปยึดทำเนียบฯ คืนเอง เบื้องต้นรวบรวมตำรวจนอกราชการได้กว่า 1 พันนาย ซึ่งถ้าหากตำรวจในราชการ อยากร่วมด้วย ก็ขอให้ไปลาราชการมาร่วมกันทำงาน ส่วนชาวบ้านทั่วไปก็มาร่วมได้ แต่ให้มาทำงานในส่วนอื่น เพราะไม่ได้รับการฝึกมา ซึ่งกองกำลังสามารถรวบรวมได้ภาย ใน 5 วัน ส่วนเรื่องเงินทุน ถ้าไม่มีใครบริจาคสนับสนุน จะขายทรัพย์สินส่วนตัวซึ่งเป็นเหรียญที่มีค่าที่ตนเองเก็บไว้มานาน จะมีการประมูลขาย ใครสนใจสนับสนุนก็ให้ติดต่อมาได้
ด้าน ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นพลขับรถบัส ขนอุปกรพิเศษในการควบคุมฝูงชน ก่อนเกิดเหตุ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับอยู่ตรง บริเวณลานใกล้ประตูทางเขาพระที่นั่งวิมานเมฆ ขณะนั้นกำลังจะขับรถกลับเข้าไปรับเจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ตกค้างอยู่ ก็เห็นรถกระบะสีน้ำเงินขับพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน้าหน้าได้รับบาดเจ็บ 4-5 นาย ตนเองจึงจะขับรถเข้าไปขวาง ซึ่งตอนนั้นได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารว่ามีการยิงกันเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายรายแล้วให้เข้าไปอย่างระมัดระวัง
ตอนนั้นก็รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาออกมาหมดแล้ว ระหว่างที่จะขับรถเข้าไปขวางเห็นว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับพุ่งเข้ามาหวังจะชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่แนวด้านหน้าซ้ำ ตนเองจึงวิ่งลงจากรถเอาอาวุธปืน ประจำกายเป็นอาวุธปืน ลูกโม่ขนาด .357 ออกมาเพื่อหวังยิงสะกัดยางล้อรถเพื่อไม่ให้รถพุ่งมาชน เพื่อนตำรวจซ้ำ แต่รถคันดังกล่าวได้ขับหนีออกไปก่อนจึงไม่ได้ยิงปืนออกไป จากนั้นเพื่อนในหน่วยที่อยู่ใกล้เคียงก็มาสะกิดบอกว่ารถไปแล้วตนจึงได้ขึ้นรถขับตามออกไป ซึ่งตนเองพร้อมให้ตรวจสอบเขม่าดินปืน อาวุธปืนว่าไม่ได้ลั่นไก
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนตำรวจให้รอดชีวิต เพราะตอนนี้แนวด้านหลังก็มีเพื่อนตำรวจอยู่เป็นจำนวนมาก และด้านหน้าแนว เพื่อนที่ถูกรถชนก็ยังไม่มีใครเข้าไปช่วยออกมายังอยู่ที่เดิม ต่อข้อถามที่ว่า คิดหรือไม่ตอนนั้นถ้ายิงออกไปจะพลาดไปถูกกลุ่มผู้ชุมนุม ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนที่ชักอาวุธปืนออกมาตรงนั้นยืนยันว่าไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่เลย มีเพียงตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและรถคันดังกล่าวเท่านั้น
หลังเกิดเหตุการณ์ผู้บังคับบัญชาก็เรียกไปสอบถามว่าในรูปใช่ผมหรือเปล่า ซึ่งผมก็ตอบว่าใช่ ผู้บังคับบัญชาก็ให้เล่าเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งผมก็ได้ทำรายงานชี้แจงไปแล้ว ส่วนอาวุธปืน ตอนนี้เก็บไว้ที่หน่วยพร้อมที่จะให้ตรวจสอบว่ายังไม่มีการยิงออกไป
สำหรับพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร.นั้น ในอดีต เป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อครั้งที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.สล้าง เป็นรองอ.ตร. รับผิดชอบดูแลงานด้านการจราจรนั้น มีความขัดแย้งทางแนวคิดเกี่ยวกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งทาง กทม.ต้องการให้สร้างแบบลอยฟ้า ในขณะที่ พล.ต.อ.สล้าง หนุนการสร้าง รถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ในที่สุด กทม.ก็สร้างรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นแห่งแรก และเป็นคนสนิทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข
นอกจากนี้ เมื่อครั้งคดียาบ้าที่ จ.สุพรรณบุรี พล.ต.อ.สล้าง ก็เป็นผู้บัญชาการในการปราบปราม"โจ ด่านช้าง"กับพวกรวม 6 ศพด้วย