ผู้จัดการรายวัน – อย.โต้ “ดัชมิลล์” ห้ามนำนมผงจากจีนที่ถูกอายัดส่งกลับประเทศจีน โดยไม่ได้รับอนุมัติใบรับรองสินค้าจากอย.และศุลกากร ขณะที่ข้อสรุปวอร์รูมเมลามีนเตรียมเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้ใบรับรองทุก 15.00 น. ด้าน “เฉลิม” ย้ำไม่ได้พกความโง่มาจากบ้านจะได้เซ็นลงนามก่อนแถลงนโยบายรัฐบาล ด้านดัชมิลล์ ระงับนำเข้านมผงจีนทั้งหมด พร้อมส่งสินค้า 120 ตัน คืนซัปพลายเออร์ เล็งอินเดียแหล่งวัตถุดิบใหม่ พับแผนร่วมทุนโรงงานนมในจีน-เวียดนาม เตรียมอัดแคมเปญพิเศษเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 4
วานนี้ ( 2 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย. กล่าวว่า แม้ทางบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด จะยืนยันว่า นมผงที่นำเข้าจากประเทศจีนที่อยู่ระหว่างการนำเข้าพิธีการทางศุลกากรที่ท่าเรือปท.10 จ.สมุทรปราการจำนวนประมาณ 100 ตันโดยได้ตรวจสอบนมผงดังกล่าวโดยห้องปฏิบัติการของบริษัท ซึ่งไม่มีสารเมลามีนแต่ก็ยืนยันที่จะส่งนมผงล็อตดังกล่าวกลับไปยังประเทศต้นทางคือประเทศจีน ซึ่งทางอย.ไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าว โดยขั้นตอนการส่งคืนวัตถุดิบใดๆ จะต้องมีใบรับรองสินค้าจากอย.และศุลกากร จึงจะสามารถถอนการอายัดและส่งสินค้าออกจากท่าเรือได้
“ขณะนี้อย.อยู่ระหว่างการรอผลตัวอย่างนมผงล็อต 100 ตันและ 22 ตันของบริษัทดัชมิลล์ก่อนหน้านี้ไปตรวจสอบยืนยันอีกครั้งหนึ่งที่ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งใช้เวลาในการตรวจประมาณ 2 วัน และไม่ว่าจะผ่านการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการแห่งใด อย.ก็จะนำตัวอย่างสินค้ามาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยยึดผลแล็บจากกรมวิทยาศาสตร์ฯเป็นมาตรฐาน ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์ฯได้พัฒนาชุดตรวจสารเมลามีนในเบื้องต้นสำเร็จ โดยจะกระจายไปให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบตัวอย่างแล้ว”
นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุขออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอย่าให้กระพือข่าวเรื่องสารเมลามีน เพราะเกรงว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้น ความจริงแล้วตนเองได้ให้ข้อมูลกับร.ต.อ.เฉลิม ถึงมาตรการป้องกันการปนเปื้อนสารเมลามีนว่า ใช้วิธีการคุมเข้มโดยการตรวจสอบ แต่ยังไม่ถึงขั้นห้ามนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนโดยตรงเหมือนกับที่หลายประเทศดำเนินการแล้ว ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมก็เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่ใช่การห้ามดำเนินการตามมาตรการที่ทำอยู่
นอกจากนี้ข้อสรุปของคณะทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับการปนเปื้อนเมลามีนในอาหารและผลิตภัณฑ์นมหรือวอร์รูมเมลามีนมีข้อสรุปว่าในเวลา 15.00 น. ของทุกวันจะเผยแพร่ข้อมูลสินค้าที่ได้รับการรับรองจากอย.ผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้ประชาชนทราบและไม่ตื่นตระหนก รวมทั้งจะเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมในสินค้าที่นำเข้าทางด่านอาหารและยาพร้อมรายงานการอายัดสินค้าว่ามีจำนวนเท่าไหร่ด้วย ส่วนกรณีที่ประเทศฮ่องกงพบว่า มีการพบสารเมลามีนในกูลิโกะ ก็จะมีการตรวจวิเคราะห์สารเมลามีนเพื่อความมั่นใจ แม้จะไม่มีข้อมูลว่ามีการนำเข้ากูลิโกะจากประเทศจีนก็ตาม
“เวลานี้เป็นเรื่องความซื่อสัตย์ของผู้ค้า มิฉะนั้นผู้ผลิตจะเสียหายเอง แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรโคนมในประเทศ จึงขอยืนยันว่าขณะนี้นมในตลาดส่วนใหญ่มีความปลอดภัยสามารถรับประทานได้”นพ.พิพัฒน์กล่าว
**ทราบผล 89 ตัวอย่างแล้ว
นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการอย.กล่าวว่า อย.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศจำนวน 103 ตัวอย่าง ขณะนี้ทราบผลแล้ว 89 ตัวอย่าง และรอผลการวิเคราะห์ 14 ตัวอย่าง ขณะนี้ได้ออกใบรับรองแล้วจำนวน 31 รายการ ซึ่งส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่อย.เป็นผู้เก็บตัวอย่าง และอีกส่วนหนึ่งบริษัทเป็นผู้เก็บตัวอย่าง ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจซ้ำในล็อตที่บริษัทเป็นผู้ตรวจวิเคราะห์ด้วย
“ผลิตภัณฑ์นมผงของบริษัทดัชมิลล์ จำนวน 100 ตัน ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ส่งกลับประเทศจีน หรือหายไปไหน แต่ยังคงอยู่ที่ท่าเรือ ด่านศุลกากร โดยมีการย้ายสถานที่จัดเก็บเพื่อความเหมาะสมเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากบริษัทจะส่งคืนก็เป็นเรื่องของบริษัทแต่อย.มีหน้าที่ตรวจสอบสินค้าทั้งหมดที่จะนำเข้า”นพ.นรังสันต์กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หนังสือพิมพ์บางฉบับรายงานว่าตนไม่เซ็นลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาควบคุมสารเมลามีนในอาหารนั้น ตนทราบว่าอยากให้เซ็นประกาศดังกล่าวไวๆ แต่ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา อำนาจรัฐมนตรีจึงยังไม่มีสิทธิเต็มในการลงนามคำสั่งใดๆ
“หากผมพกความโง่มาจากบ้านก็คงจะเซ็นไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ผมจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายกสมาคมไหหลำ ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว ไม่ได้ทำเป็นทางการแต่เป็นการพบกันแบบส่วนตัว ซึ่งผมกับนายกสมาคมเหล่านี้ ก็ชอบกันมานาน และยืนยันว่าหากแถลงนโยบายเรียบร้อยจะลงนามทันที”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาเปิดเผยว่า วานนี้(2 ต.ค.) อย.ได้ออกหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์แก่บริษัทผู้ผลิต/น้ำเข้าที่ผลตรวจไม่พบการปนเปื้อนสารเมลามีนอีก 4 รายการ จำนวน 2 บริษัทดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์เอมโปรเบบี้ช้อยส์ ซึ่งเป็นอาหารเสริมบิสกิตจากธัญพืชสำหรับทารกและเด็กเล็ก อายุ 8 เดือนถึง 3 ปี ของ บ.มาร์เก็ตติ้ง อินเทลลิเจ้นท์ จำกัด 2.โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ของ บ.ดัชมิลล์จำกัด 3-4.โยเกิร์ตธรรมชาติ เลขสารบบอาหาร 73-1-17929-1-0021 และเลขสารบบอาหาร 773-1-17929-1-0002 ของ บ.ดัชมิลล์ จำกัด
**ดัชมิลล์ล้มร่วมทุนจีน
จากการเกิดวิกฤตการปนเปื้อนของสารเมลามีนในนมผงจีน ทำให้เด็กเสียชีวิต 4 ราย ล้มป่วยไปแล้วกว่า 60,000 คน และอีก 150 รายเกิดอาการไตวาย โดยทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เข้ามาตรวจสอบโรงงานดัชมิลล์เมื่อวันที่ 22 กันยายน และอายัดนมผงที่นำเข้าจากจีนจำนวน 20 ตัน พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์นมสดและโยเกิร์ต 11 รายการ อาทิ นมพลาสเจอร์ไรส์ตราดัชมิลล์ และโยเกิร์ต ดัชชี่ จำนวน 11 รายการ เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนและสารในกลุ่มเดียวกัน กระทั่งวันเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา อย.ได้แจ้งว่าผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ต่อไป
นายธีระยุทธ ฉายสว่างวงศ์ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมเปรี้ยวพร้อมดื่มดัชมิลล์ ได้กล่าวชี้แจ้งว่า แม้ว่าผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์จะปลอดภัยต่อการบริโภค แต่บริษัทฯก็ได้ระงับการใช้นมผงจากจีนในการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา และแม้ว่าผลการตรวจจะผ่านมาตรฐานจากทางยุโรปก็ตาม โดยบริษัทจะส่งนำผงคืนแก่ซัปพลายเออร์ในจีนทั้งหมดจำนวน 120 ตัน โดยโดยอยู่ในโรงงาน 20 ตัน และท่าเรือ 100 ตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท จนกว่าอย.ออกมาตรฐานที่ชัดเจน และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ซึ่งต้องเฝ้าติดตามในช่วง 3-6 เดือน
นมผงที่นำเข้าจากประเทศจีนของดัชมิลล์ ไม่ได้ผลิตจากโรงงาน 22 แห่งที่ประสบปัญหาการปนเปื้อนสารเมลามีน ทั้งนี้หากย้อนเวลาได้ บริษัทคงไม่นำเข้านมผงจากจีนเข้ามาใช้อย่างเด็ดขาด โดยบริษัทเพิ่งนำเข้านมผงจากจีนมาใช้เมื่อ 15 เดือนที่ผ่านมา จากเดิมนำเข้าจากฮอล์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น แต่เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ดังนั้นเราจึงต้องหาแหล่งวัตถุดิบสำรองแหล่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ ประกอบกับเราเป็นบริษัทคนไทย อำนาจการต่อรองหรือหาแหล่งวัตถุดิบไม่มีเท่ากับบริษัทข้ามชาติ อาทิ โฟร์โมสต์ ดาน่อน เมจิ ในขณะที่จีนสามารถผลิตนมผงได้ถึง 4 หมื่นตัน เป็นอันดับ 2 ของโลกรองอินเดีย
อย่างไรก็ตาม นายธีระยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนช่วงนี้ จากเดิมจะซื้อหุ้นในโรงงานนมในประเทศจีน โดยจะเข้าไปถือหุ้น 55% และขยายกำลังการผลิตในประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยในเวียดนามคาดว่าจะไปถือหุ้น 5% ในโรงงานวินนามิลค์ แผนการชะลอการลงทุน ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทไม่มั่นใจในแผนกู้วิกฤติเศรษฐกิจระบบการเงินสหรัฐฯมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 23 ล้านล้านบาท อีกทั้งภาวะภายในประเทศ การเมืองยังไม่นิ่ง ต้องให้เวลานายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง
นายเขมทัต กรัยวิเชียร ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ กล่าวว่า บริษัทฯคงต้องหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ทดแทนการนำเข้าจากประเทศจีน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้าจากประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามคงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ โดยขณะนี้นมพาสเจอร์ไรส์ที่ผลิตสู่ตลาดเป็นสินค้าล็อตใหม่ ซึ่งไม่ได้ใช้นมผงที่มาจากประเทศจีน
***งัดแคมเปญพิเศษเรียกความเชื่อมั่น***
นายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า หลังจากข่าวแพร่ออกไปขณะนี้บริษัทฯยังไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขาย ส่วนหนึ่งเพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานานร่วม 25 ปี อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทฯจะจัดแคมเปญพิเศษออกมาสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค จากงบการตลาดในช่วงปลายปีนี้ 50-60 ล้านบาท ที่บริษัทฯวางไว้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากตลาดนมพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโต 0.8% ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมา และผลประกอบการโต 2% จากเป้าหมายทั้งปีโต 10% จากการมีรายได้ปีที่ผ่านมากว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่ตลาดเติบโตมาจากการปรับราคาของนมพร้อมดื่ม และกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง
**บิ๊กซีรับกระทบยอดขาย**
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากสารเมลามีนปนเปื้อนในนมผง ทำให้ยอดขายลดลงบ้าง โดยในกลุ่มสินค้านมคิดเป็นสัดส่วน 5-6% ของรายได้ของบิ๊กซี ทั้งนี้การที่ยอดขายลดลง เนื่องจากบิ๊กซีได้ถอดสินค้าที่มีวัตถุดิบการผลิตจากนมทั้งหมด จนกว่าซัปพลายเออร์จะนำใบรองรับผลจากทางอย. ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายตามปกติเกือบ 50% แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากถอนนมพร้อมดื่มจากชั้นวาง ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปซื้อนมถั่วเหลืองดื่มมากขึ้น.
วานนี้ ( 2 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย. กล่าวว่า แม้ทางบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด จะยืนยันว่า นมผงที่นำเข้าจากประเทศจีนที่อยู่ระหว่างการนำเข้าพิธีการทางศุลกากรที่ท่าเรือปท.10 จ.สมุทรปราการจำนวนประมาณ 100 ตันโดยได้ตรวจสอบนมผงดังกล่าวโดยห้องปฏิบัติการของบริษัท ซึ่งไม่มีสารเมลามีนแต่ก็ยืนยันที่จะส่งนมผงล็อตดังกล่าวกลับไปยังประเทศต้นทางคือประเทศจีน ซึ่งทางอย.ไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าว โดยขั้นตอนการส่งคืนวัตถุดิบใดๆ จะต้องมีใบรับรองสินค้าจากอย.และศุลกากร จึงจะสามารถถอนการอายัดและส่งสินค้าออกจากท่าเรือได้
“ขณะนี้อย.อยู่ระหว่างการรอผลตัวอย่างนมผงล็อต 100 ตันและ 22 ตันของบริษัทดัชมิลล์ก่อนหน้านี้ไปตรวจสอบยืนยันอีกครั้งหนึ่งที่ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งใช้เวลาในการตรวจประมาณ 2 วัน และไม่ว่าจะผ่านการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการแห่งใด อย.ก็จะนำตัวอย่างสินค้ามาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยยึดผลแล็บจากกรมวิทยาศาสตร์ฯเป็นมาตรฐาน ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์ฯได้พัฒนาชุดตรวจสารเมลามีนในเบื้องต้นสำเร็จ โดยจะกระจายไปให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบตัวอย่างแล้ว”
นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุขออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอย่าให้กระพือข่าวเรื่องสารเมลามีน เพราะเกรงว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้น ความจริงแล้วตนเองได้ให้ข้อมูลกับร.ต.อ.เฉลิม ถึงมาตรการป้องกันการปนเปื้อนสารเมลามีนว่า ใช้วิธีการคุมเข้มโดยการตรวจสอบ แต่ยังไม่ถึงขั้นห้ามนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนโดยตรงเหมือนกับที่หลายประเทศดำเนินการแล้ว ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมก็เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่ใช่การห้ามดำเนินการตามมาตรการที่ทำอยู่
นอกจากนี้ข้อสรุปของคณะทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับการปนเปื้อนเมลามีนในอาหารและผลิตภัณฑ์นมหรือวอร์รูมเมลามีนมีข้อสรุปว่าในเวลา 15.00 น. ของทุกวันจะเผยแพร่ข้อมูลสินค้าที่ได้รับการรับรองจากอย.ผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้ประชาชนทราบและไม่ตื่นตระหนก รวมทั้งจะเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมในสินค้าที่นำเข้าทางด่านอาหารและยาพร้อมรายงานการอายัดสินค้าว่ามีจำนวนเท่าไหร่ด้วย ส่วนกรณีที่ประเทศฮ่องกงพบว่า มีการพบสารเมลามีนในกูลิโกะ ก็จะมีการตรวจวิเคราะห์สารเมลามีนเพื่อความมั่นใจ แม้จะไม่มีข้อมูลว่ามีการนำเข้ากูลิโกะจากประเทศจีนก็ตาม
“เวลานี้เป็นเรื่องความซื่อสัตย์ของผู้ค้า มิฉะนั้นผู้ผลิตจะเสียหายเอง แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรโคนมในประเทศ จึงขอยืนยันว่าขณะนี้นมในตลาดส่วนใหญ่มีความปลอดภัยสามารถรับประทานได้”นพ.พิพัฒน์กล่าว
**ทราบผล 89 ตัวอย่างแล้ว
นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการอย.กล่าวว่า อย.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศจำนวน 103 ตัวอย่าง ขณะนี้ทราบผลแล้ว 89 ตัวอย่าง และรอผลการวิเคราะห์ 14 ตัวอย่าง ขณะนี้ได้ออกใบรับรองแล้วจำนวน 31 รายการ ซึ่งส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่อย.เป็นผู้เก็บตัวอย่าง และอีกส่วนหนึ่งบริษัทเป็นผู้เก็บตัวอย่าง ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจซ้ำในล็อตที่บริษัทเป็นผู้ตรวจวิเคราะห์ด้วย
“ผลิตภัณฑ์นมผงของบริษัทดัชมิลล์ จำนวน 100 ตัน ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ส่งกลับประเทศจีน หรือหายไปไหน แต่ยังคงอยู่ที่ท่าเรือ ด่านศุลกากร โดยมีการย้ายสถานที่จัดเก็บเพื่อความเหมาะสมเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากบริษัทจะส่งคืนก็เป็นเรื่องของบริษัทแต่อย.มีหน้าที่ตรวจสอบสินค้าทั้งหมดที่จะนำเข้า”นพ.นรังสันต์กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หนังสือพิมพ์บางฉบับรายงานว่าตนไม่เซ็นลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาควบคุมสารเมลามีนในอาหารนั้น ตนทราบว่าอยากให้เซ็นประกาศดังกล่าวไวๆ แต่ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา อำนาจรัฐมนตรีจึงยังไม่มีสิทธิเต็มในการลงนามคำสั่งใดๆ
“หากผมพกความโง่มาจากบ้านก็คงจะเซ็นไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ผมจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายกสมาคมไหหลำ ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว ไม่ได้ทำเป็นทางการแต่เป็นการพบกันแบบส่วนตัว ซึ่งผมกับนายกสมาคมเหล่านี้ ก็ชอบกันมานาน และยืนยันว่าหากแถลงนโยบายเรียบร้อยจะลงนามทันที”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาเปิดเผยว่า วานนี้(2 ต.ค.) อย.ได้ออกหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์แก่บริษัทผู้ผลิต/น้ำเข้าที่ผลตรวจไม่พบการปนเปื้อนสารเมลามีนอีก 4 รายการ จำนวน 2 บริษัทดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์เอมโปรเบบี้ช้อยส์ ซึ่งเป็นอาหารเสริมบิสกิตจากธัญพืชสำหรับทารกและเด็กเล็ก อายุ 8 เดือนถึง 3 ปี ของ บ.มาร์เก็ตติ้ง อินเทลลิเจ้นท์ จำกัด 2.โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ของ บ.ดัชมิลล์จำกัด 3-4.โยเกิร์ตธรรมชาติ เลขสารบบอาหาร 73-1-17929-1-0021 และเลขสารบบอาหาร 773-1-17929-1-0002 ของ บ.ดัชมิลล์ จำกัด
**ดัชมิลล์ล้มร่วมทุนจีน
จากการเกิดวิกฤตการปนเปื้อนของสารเมลามีนในนมผงจีน ทำให้เด็กเสียชีวิต 4 ราย ล้มป่วยไปแล้วกว่า 60,000 คน และอีก 150 รายเกิดอาการไตวาย โดยทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เข้ามาตรวจสอบโรงงานดัชมิลล์เมื่อวันที่ 22 กันยายน และอายัดนมผงที่นำเข้าจากจีนจำนวน 20 ตัน พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์นมสดและโยเกิร์ต 11 รายการ อาทิ นมพลาสเจอร์ไรส์ตราดัชมิลล์ และโยเกิร์ต ดัชชี่ จำนวน 11 รายการ เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนและสารในกลุ่มเดียวกัน กระทั่งวันเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา อย.ได้แจ้งว่าผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ต่อไป
นายธีระยุทธ ฉายสว่างวงศ์ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมเปรี้ยวพร้อมดื่มดัชมิลล์ ได้กล่าวชี้แจ้งว่า แม้ว่าผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์จะปลอดภัยต่อการบริโภค แต่บริษัทฯก็ได้ระงับการใช้นมผงจากจีนในการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา และแม้ว่าผลการตรวจจะผ่านมาตรฐานจากทางยุโรปก็ตาม โดยบริษัทจะส่งนำผงคืนแก่ซัปพลายเออร์ในจีนทั้งหมดจำนวน 120 ตัน โดยโดยอยู่ในโรงงาน 20 ตัน และท่าเรือ 100 ตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท จนกว่าอย.ออกมาตรฐานที่ชัดเจน และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ซึ่งต้องเฝ้าติดตามในช่วง 3-6 เดือน
นมผงที่นำเข้าจากประเทศจีนของดัชมิลล์ ไม่ได้ผลิตจากโรงงาน 22 แห่งที่ประสบปัญหาการปนเปื้อนสารเมลามีน ทั้งนี้หากย้อนเวลาได้ บริษัทคงไม่นำเข้านมผงจากจีนเข้ามาใช้อย่างเด็ดขาด โดยบริษัทเพิ่งนำเข้านมผงจากจีนมาใช้เมื่อ 15 เดือนที่ผ่านมา จากเดิมนำเข้าจากฮอล์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น แต่เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ดังนั้นเราจึงต้องหาแหล่งวัตถุดิบสำรองแหล่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ ประกอบกับเราเป็นบริษัทคนไทย อำนาจการต่อรองหรือหาแหล่งวัตถุดิบไม่มีเท่ากับบริษัทข้ามชาติ อาทิ โฟร์โมสต์ ดาน่อน เมจิ ในขณะที่จีนสามารถผลิตนมผงได้ถึง 4 หมื่นตัน เป็นอันดับ 2 ของโลกรองอินเดีย
อย่างไรก็ตาม นายธีระยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนช่วงนี้ จากเดิมจะซื้อหุ้นในโรงงานนมในประเทศจีน โดยจะเข้าไปถือหุ้น 55% และขยายกำลังการผลิตในประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยในเวียดนามคาดว่าจะไปถือหุ้น 5% ในโรงงานวินนามิลค์ แผนการชะลอการลงทุน ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทไม่มั่นใจในแผนกู้วิกฤติเศรษฐกิจระบบการเงินสหรัฐฯมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 23 ล้านล้านบาท อีกทั้งภาวะภายในประเทศ การเมืองยังไม่นิ่ง ต้องให้เวลานายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง
นายเขมทัต กรัยวิเชียร ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ กล่าวว่า บริษัทฯคงต้องหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ทดแทนการนำเข้าจากประเทศจีน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้าจากประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามคงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ โดยขณะนี้นมพาสเจอร์ไรส์ที่ผลิตสู่ตลาดเป็นสินค้าล็อตใหม่ ซึ่งไม่ได้ใช้นมผงที่มาจากประเทศจีน
***งัดแคมเปญพิเศษเรียกความเชื่อมั่น***
นายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า หลังจากข่าวแพร่ออกไปขณะนี้บริษัทฯยังไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขาย ส่วนหนึ่งเพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานานร่วม 25 ปี อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทฯจะจัดแคมเปญพิเศษออกมาสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค จากงบการตลาดในช่วงปลายปีนี้ 50-60 ล้านบาท ที่บริษัทฯวางไว้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากตลาดนมพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโต 0.8% ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมา และผลประกอบการโต 2% จากเป้าหมายทั้งปีโต 10% จากการมีรายได้ปีที่ผ่านมากว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่ตลาดเติบโตมาจากการปรับราคาของนมพร้อมดื่ม และกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง
**บิ๊กซีรับกระทบยอดขาย**
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากสารเมลามีนปนเปื้อนในนมผง ทำให้ยอดขายลดลงบ้าง โดยในกลุ่มสินค้านมคิดเป็นสัดส่วน 5-6% ของรายได้ของบิ๊กซี ทั้งนี้การที่ยอดขายลดลง เนื่องจากบิ๊กซีได้ถอดสินค้าที่มีวัตถุดิบการผลิตจากนมทั้งหมด จนกว่าซัปพลายเออร์จะนำใบรองรับผลจากทางอย. ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายตามปกติเกือบ 50% แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากถอนนมพร้อมดื่มจากชั้นวาง ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปซื้อนมถั่วเหลืองดื่มมากขึ้น.