ผู้จัดการรายวัน- เดินหน้าโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คันคลอดทีโออาร์สัปดาห์หน้า เตรียมเปิดให้สาธารณชนแสดงความคิดเห็น ผ่านเวปไซด์ ก่อนปรับปรุงและเปิดประมูล ขณะที่ปรับโครงการสร้างอัตราค่าโดยสารรถสาธารณะใหม่ คาดได้ข้อสรุปใน 8 เดือน ด้านขสมก.ฟุ้ง ก้าวสู่ปีที่ 33 ปรับปรุงบริการ โดยจะเพิ่มเส้นทางเดินรถอีกเกือบ 37 เส้นทางให้ครอบคลุมมากขึ้น
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะกรรมการยกร่างเอกสารข้อกำหนดการประกวดราคา(ทีโออาร์) โครงการเช่ารถเมล์ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 4,000 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาคณะกรรมการยกร่างทีโออาร์ สำหรับการจัดเช่าโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ได้ประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าร่างทีโออาร์เบื้องต้นจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นจะมีการนำร่างทีโออาร์ขึ้นโพสต์ในเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกเพื่อเปิดให้ประชาชน และทุกฝ่ายในสังคม ได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างทีโออาร์ เพื่อนำไปปรับปรุงเพื่อให้เป็นทีโออาร์สำหรับการจัดเช่ารถเอ็นจีวีที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในอนาคตจะมีการปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสาร ของรถขนส่งสาธารณะใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาโครงสร้าง โดยจะนำข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขของราคาน้ำมันปัจจุบันเป็นตัวชี้วัดและเป็นเกณฑ์ในการศึกษา คาดว่าใช้ระยะเวลาในการศึกษากรณีดังกล่าว 8 เดือน ทั้งนี้ในปัจจุบัน รถรถร่วมบริการ ขสมก.ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวีประมาณ 60 % ของจำนวนรถทั้งหมด
ด้านนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการขสมก. กล่าวว่า เนื่องจากในปี 2552 ขสมก.จะครบรอบการสถาปนาก้าวขึ้นสู่ปีที่ 33 จึงมีแผนเร่งรัดยกระดับการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มเส้นทางเดินรถในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่เดิมเดินรถอยู่ 108 เส้นทาง เป็น 145 เส้นทาง เพื่อให้เส้นทางครอบคลุมการใช้บริการของประชาชน นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงอู่รถ 5 แห่ง ด้วยการยกระดับให้มีความทันสมัย มีศูนย์ธุรกิจ พื้นที่จอดรถ และสถานีบริการน้ำมัน เติมก๊าซเอ็นจีวี
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะกรรมการยกร่างเอกสารข้อกำหนดการประกวดราคา(ทีโออาร์) โครงการเช่ารถเมล์ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงจำนวน 4,000 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาคณะกรรมการยกร่างทีโออาร์ สำหรับการจัดเช่าโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ได้ประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าร่างทีโออาร์เบื้องต้นจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นจะมีการนำร่างทีโออาร์ขึ้นโพสต์ในเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกเพื่อเปิดให้ประชาชน และทุกฝ่ายในสังคม ได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างทีโออาร์ เพื่อนำไปปรับปรุงเพื่อให้เป็นทีโออาร์สำหรับการจัดเช่ารถเอ็นจีวีที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในอนาคตจะมีการปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสาร ของรถขนส่งสาธารณะใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้ว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาโครงสร้าง โดยจะนำข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขของราคาน้ำมันปัจจุบันเป็นตัวชี้วัดและเป็นเกณฑ์ในการศึกษา คาดว่าใช้ระยะเวลาในการศึกษากรณีดังกล่าว 8 เดือน ทั้งนี้ในปัจจุบัน รถรถร่วมบริการ ขสมก.ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวีประมาณ 60 % ของจำนวนรถทั้งหมด
ด้านนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการขสมก. กล่าวว่า เนื่องจากในปี 2552 ขสมก.จะครบรอบการสถาปนาก้าวขึ้นสู่ปีที่ 33 จึงมีแผนเร่งรัดยกระดับการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มเส้นทางเดินรถในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่เดิมเดินรถอยู่ 108 เส้นทาง เป็น 145 เส้นทาง เพื่อให้เส้นทางครอบคลุมการใช้บริการของประชาชน นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงอู่รถ 5 แห่ง ด้วยการยกระดับให้มีความทันสมัย มีศูนย์ธุรกิจ พื้นที่จอดรถ และสถานีบริการน้ำมัน เติมก๊าซเอ็นจีวี