xs
xsm
sm
md
lg

รัฐซื้อเวลาอีก 10 วัน ตัดสินใจอนุมัติขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัฐบาลขอเวลาอีก 10 วัน เพื่อพิจารณาข้อมูลก่อนตัดสินใจอนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าโดยสารรถขนส่งสาธารณะ ระบุต้นทุนน้ำมันพุ่งเกินจุดเหมาะสม 10-20% ไปแล้ว คาดทุบโต๊ะ 15 พ.ค.นี้

วันนี้(30 เม.ย.) นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะภาคเอกชน เพื่อเรียกร้องรัฐบาลเพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หลังราคาน้ำมันดีเซลปรับสูงขึ้นถึงลิตรละ 34 บาท เรื่องดังกล่าว รัฐบาลคงต้องขอเวลาศึกษาต้นทุนการเดินรถโดยสาธารณะอีก 10 วัน ก่อนตัดสินใจปรับเพิ่มค่าโดยสารภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้ หลังพบต้นทุนจากราคาน้ำมันสูงถึง 50% ของต้นทุนทั้งหมด

"คงต้องขอเวลา 10 วัน เพื่อศึกษารายละเอียดต้นทุนการเดินรถ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม รวมทั้งจะได้รวบรวมข้อมูลของรถโดยสารสาธารณะที่ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใช้เอ็นจีวีว่ามีสัดส่วนเท่าใด เนื่องจากที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกมีข้อมูลเฉพาะรถโดยสารใหม่ที่มาจดทะเบียนเท่านั้น และจะได้จัดลำดับกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องใช้ความช่วยเหลือก่อน คาดว่าจะได้ข้อสรุปการปรับค่าโดยสารภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้"

รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า หลังจากรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่องแล้ว ตนเองรู้สึกเห็นใจผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันต้นทุนค่าน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของต้นทุนเดินรถทั้งหมด ขณะที่ต้นทุนที่เหมาะสมควรอยู่ที่ระดับ 30-40% เท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอให้ภาครัฐปรับเพิ่มค่าโดยสารสำหรับรถร่วมบริการ ขสมก. ประเภทรถธรรมดา 10 บาทตลอดสาย จากเดิม 8.50 บาท , รถปรับอากาศปรับเพิ่มอีกระยะละ 2 บาท หรืออยู่ที่ระดับ 14-26 บาท , รถร่วมบริการ บขส.ขอปรับค่าโดยสารเพิ่มอีก 3-9 สตางค์ต่อกิโลเมตร พร้อมทั้งขอให้ยกเว้นการจัดผลตอบแทนของ ขสมก. และ บขส. ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.จัดเก็บผลตอบแทนสำหรับรถธรรมดา 35 บาทต่อวันต่อคัน ส่วนรถปรับอากาศ 60 บาทต่อวันต่อคัน

ทั้งนี้ ข้อมูลต้นทุนการประกอบการที่จะนำมาพิจารณาเพื่อปรับค่าโดยสารจะต้องสะท้อนความเป็นจริงในอัตราเดียวกัน ซึ่งรวมทั้งรถ บขส.และ ขสมก.ด้วย เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายยังมีความเป็นห่วงว่าหากรัฐยังสั่งตรึงราคารถโดยสารของ บขส. และ ขสมก.จะทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันได้จึงควรให้เป็นไปตามกลไกตลาด

นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน มั่นใจว่า คงไม่เกิน 15 วันหลังจากนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับการพิจารณาปรับเพิ่มค่าโดยสารแน่นอน เพราะทุกฝ่ายทราบถึงผลกระทบที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระจากราคาน้ำมันดีเซลแพง

"ภายในเดือน พ.ค.นี้ เชื่อว่าจะต้องมีการปรับเพิ่มค่าโดยสารแน่นอน หากรัฐไม่ยอมหรือยื้อเวลาออกไปอีก เราคงไม่ยอมแล้ว อาจต้องหยุดเดินรถเพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้"

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการยื้อเวลาในการปรับขึ้นค่าโดยสาร เพียงต้องการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับต้นทุนการเดินรถของผู้ประกอบการเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจปรับเพิ่มค่าโดยสาร ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกเห็นใจผู้ประกอบการแต่ก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

ส่วนกรณีที่นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร เสนอขอปรับเพิ่มค่าโดยสารรถร่วมบริการ บขส.อีก 9 สตางค์ต่อกิโลเมตรนั้น รมช.คมนาคม กล่าวว่า เป็นตัวเลขที่สูงเกินไป และยากที่จะมีการอนุมัติให้ได้ เพราะจะทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความเดือนร้อน

และกรณีที่จะให้ปรับค่าโดยสารของรถโดยสาร บขส.และ ขสมก. ให้อยู่ในระดับเดียวกับรถร่วมเอกชนนั้น ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านมาประกอบกันด้วย เช่น การกำหนดค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพื่อให้องค์กรอยู่ได้ และการแบ่งเบาภาระของประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น