ค่าครองชีพรุมเล่นงานคนกรุง! รถเมล์-เรือด่วน พาเหรดขอปรับขึ้นราคา

ผู้ประกอบการระบบการเดินทางสาธารณะ ทั้ง ขสมก. บขส. รถร่วมบริการ และเรือโดยสาร โอดผลกระทบหนักจากราคาดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น พาเหรดขอขยับขึ้นค่าโดยสาร ระบุ ถ้ารัฐจะให้ช่วยตรึงราคาเพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน ก็นต้องเร่งออกมาตรการช่วยเหลือโดยด่วน

วันนี้(28 เม.ย.) นาวาโทปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และอุปนายกสมาคมเรือไทย กล่าวยอมรับว่า ต้นทุน น้ำมันของการเดินเรือสูงขึ้น จากร้อยละ 32 มาแตะที่ระดับร้อยละ 50 แล้ว โดยในวันนี้ สมาชิกทั้งหมดของสมาคมฯ เตรียมจะหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางในการเจรจากับคณะกรรมการกำกับเรือโดยสาร ของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีต่อไป โดยที่ผ่านมา มีข้อตกลงกันว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน 3 บาท จะต้องอนุมัติให้ผู้ประกอบการขึ้นค่าโดยสารอีก 2 บาท โดยการปรับราคาครั้งที่ผ่านมา ได้ปรับไปเมื่อราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในช่วงราคา 29-31 บาทต่อลิตร แต่ขณะนี้ ราคาน้ำมันดีเซลปรับไปเกิน 33 บาทต่อลิตรแล้ว

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทำให้ต้นทุนการเดินรถของบขส.เพิ่มขึ้นจากเดิม 30% มาอยู่ที่ 55% ทำให้บขส.ต้องขาดทุนเดือนละ20ล้านบาท ขณะนี้ บขส.ขาดทุนสะสมไปแล้ว 140 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้ บขส.อาจไม่มีกำไรเลย แม้ว่าปีที่แล้ว บขส.จะมีกำไรสูงถึง 300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในภาวะน้ำมันแพง บขส.ปรับตัวเพื่อลดรายจ่ายจากราคาน้ำมัน โดยนำรถโดยสารเอ็นจีวี เข้ามาใช้ให้เร็วขึ้น โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางให้กำหนดอายุการใช้งานของรถโดยสารเป็นไม่เกิน 4 ปี จากเดิม 8 ปี เพื่อหมุนเวียนรถใหม่เข้ามาใช้ทั้งในส่วน บขส.และรถร่วม บขส. เพื่อดึงดูดประชาชนหันมาใช้บริการรถสาธารณะให้มากขึ้นด้วย

นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ สมาคมฯ ได้นัดประชุมกันเรื่องปัญหาน้ำมันแพง หลังจากนั้น จะนำข้อเสนอไปยื่นต่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณา โดยก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการยื่นข้อเรียกร้องไปแล้วว่าจะขอขึ้นค่าโดยสารอีก 9 สตางค์ต่อกิโลเมตร เพื่อชดเชยค่าน้ำมัน ค่าอะไหล่และค่าต้นทุนอื่นที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก

นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่ลิตรละ 24 บาท จนขณะนี้มาอยู่ที่ลิตรละเกือบ 33 บาท ทำให้ ขสมก. มีต้นทุนการเดินรถสูงขึ้นกว่าวันละ 2 ล้านบาท ในขณะที่ภาคเอกชน รถร่วมบริการของ ขสมก. ก็มีภาระหนักเช่นเดียวกัน เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดว่าเมื่อราคาน้ำมันขึ้นไปครบ 3 บาท จะต้องอนุมัติให้ผู้ประกอบการขึ้นค่าโดยสารอีก 1 บาท

ขณะนี้ ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นจากฐานเดิมถึง 6 บาท แต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาอนุมัติให้ผู้ประกอบการปรับราคาไปแค่ 50 สตางค์เท่านั้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ ขสมก. และรถร่วมบริการมีภาระสูงขึ้นทั้งค่าน้ำมัน และมีปัญหาการจัดการเกี่ยวกับเศษสตางค์ด้วย

"ขสมก. เห็นด้วยกับแนวคิดล่าสุดที่กระทรวงการคลังเตรียมหาแนวทางในการชดเชยต้นทุนราคาน้ำมันด้วยวิธีการลดภาษีสรรพสามิตนำเข้าน้ำมันให้แก่ธุรกิจขนส่งและรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งหากรัฐบาลมีแนวคิดที่จะให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะมีการตรึงราคาค่าโดยสารต่อไปเพื่อช่วยประชาชนก็ควรเร่งรัดให้มาตรการดังกล่าวมีผลโดยเร็ว"

ทั้งนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. จะมีการเปลี่ยนเครื่องรถเป็นเอ็นจีวีประมาณ 2,000 คัน ซึ่งจะได้เสนอแผนดังกล่าวต่อบอร์ดบริหาร ขสมก.ชุดใหม่ โดยคาดว่าหลังเสนอแผนแล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือนจึงเริ่มทำตามแผนงานได้