เอเอฟพี - ญี่ปุ่นจัดแฟชั่นโชว์แหวกแนวรับมือสังคมยุคประชากรสูงวัยเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ด้วยการให้นางแบบและนายแบบสวมผ้าอ้อมสีขาวถุงน่องสีดำเดินเฉิดฉายบนแคทวอล์ก คลอด้วยเสียงดนตรียุคทศวรรษ 1980 ทั้งแนวป๊อบและร็อค และทั้งของอเมริกันและอังกฤษ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยในคอลเล็กชันดังกล่าวมีผ้าอ้อมผู้ใหญ่หลากหลายขนาดกว่า 170 ชุด
พิธีกรกล่าวแนะนำผ้าอ้อมแบบแรกที่ชื่อ "รีลีฟ" ซึ่งเป็นผ้าอ้อมชนิดที่สวมเหมือนกางเกงชั้นในผืนบางสวมใส่ได้ง่าย โดยบอกว่า"ผ้าอ้อมรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุสวมใส่ได้พอดี ทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม ให้ความรู้สึกเหมือนสวมกางเกงชั้นในตามปกติ นอกจากนั้นยังมีสารกำจัดเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นด้วย"
"แบบที่สองชื่อ 'โพรฟิต' เป็นแบบที่มีขอบย่นบางๆ เข้ารูปกับสะโพก ซึ่งช่วยป้องกันการซึมเปื้อนได้"
นอกจากนั้น ผู้เข้าชมแฟชั่นโชว์จำนวนหลายร้อยคนยังได้รับแคตาล็อกผ้าอ้อมประจำปี 2008 ซึ่งมีรายชื่อสินค้าทั้งหมดที่แสดงในงานรวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าด้วย
ผู้จัดแฟชั่นโชว์แหวกแนวครั้งนี้คือมัตสุเคียน ซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนอิสระจากเกียวโต และเป็นกลุ่มที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการของผู้สูงวัย โดยมีอาสาสมัคร 70 คนและบริษัทผู้ผลิตผ้าอ้อมให้การสนับสนุน
"สินค้าพวกนี้เป็นของใช้จำเป็น คุณไม่ต้องรู้สึกอายเลย" คิโยโกะ ฮามาดะ หัวหน้ากลุ่มมัตสุเคียน กล่าวถึงเหตุผลการจัดงานครั้งนี้ด้วยว่า "เพื่อให้คนทั่วไปมองผ้าอ้อมในแง่ที่ทำให้รู้สึกดี"
ทั้งนี้ ในปัจจุบันประชากรญี่ปุ่นราว 1 ใน 5 อยู่ในวัย 65 ปีขึ้นไป และมีผ้าอ้อมผู้ใหญ่วางจำหน่ายอยู่ถึงอย่างน้อย 400 ชนิด การแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จึงเป็นการกระตุ้นเตือนผู้ชมให้นึกถึงข้อเท็จจริงพื้นๆ ที่ว่า คนส่วนใหญ่มีชีวิตตอนเริ่มต้นและช่วงสุดท้ายอยู่กับผ้าอ้อม และผู้เข้าชมส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มพยาบาล คนเฝ้าไข้ รวมทั้งผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเรื่องการใช้ผ้าอ้อมเพื่อเตรียมไว้สำหรับตนเอง
"ไม่ว่าคุณจะรวยสักแค่ไหน หรืออยู่ในวงสังคมสูงส่งระดับใด ในท้ายที่สุด ส่วนใหญ่ก็ย่อมต้องการใครสักคนคอยดูแลในช่วงที่สุขภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย" ผู้บรรยายเกริ่นนำ
"อาจจะเป็นช่วงสองสามวันที่คุณต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือการนอนป่วยบนเตียงนานแรมปีก็ได้" ซาชิโกะ ฮานะริ ซึ่งดูแลคนถึง 5 คนคือ ปู่ย่า พ่อแม่ และแม่สามี มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว กล่าวและเสริมว่า "การดูแลคนป่วยยังเป็นเรื่องของการทำความสะอาดร่างกายและจัดการกับของเสียต่างๆ บางคนก็บอกว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง"
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เมื่อนับถึงสิ้นเดือนเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นราว 4.34 ล้านคนที่ต้องการการดูแลในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อ 6 ปีก่อนถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนยูนิชาร์มซึ่งเป็นผู้นำตลาดผ้าอ้อมผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นก็ระบุว่ามูลค่าตลาดนั้นสูงถึงราว 110,000 ล้านเยน (1,000 ล้านดอลลาร์) ต่อปี
โทมาโกะ ทามาโกชิ แม่บ้านวัย 36 ปี เล่าว่าเธอมาหาข้อมูลให้กับพ่อสามีซึ่งขณะนี้กำลังป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจและอยู่ในความดูแลของแม่สามีซึ่งมีอายุมากกว่า
"คนแก่ต้องคอยดูแลคนแก่ด้วยกัน ดิฉันพักอยู่ไกลจากพวกท่าน แต่ก็หวังว่าจะเรียนรู้อะไรบางอย่างเท่าที่จะทำได้" เธอบอก
นอกจากนั้น มัตสุเคียนยังจัดโครงการฝึกอบรมและออกประกาศนียบัตรให้กับ "ผู้สวมผ้าอ้อมได้พอดี" อีกด้วย โดยที่ฮิโรโกะ ซาโน อาสาสมัครวัย 55 ปี เจ้าของบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล "เชส โกโบ" ยอมทดลองปัสสาวะลงในผ้าอ้อมตามกติกาการประกวดด้วย
เธอเล่าว่าเธอเคยปัสสาวะลงในผ้าอ้อมตอนที่รถติดมากมาแล้ว
"มันไม่ค่อยจะสบายเท่าไรหรอก" เธอเล่า "แต่ฉันไม่แคร์หรอก ไม่มีใครเห็นสักหน่อย แล้วอีกหน่อยพวกคุณก็ต้องเป็นแบบนี้เหมือนกันแหละ
พิธีกรกล่าวแนะนำผ้าอ้อมแบบแรกที่ชื่อ "รีลีฟ" ซึ่งเป็นผ้าอ้อมชนิดที่สวมเหมือนกางเกงชั้นในผืนบางสวมใส่ได้ง่าย โดยบอกว่า"ผ้าอ้อมรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุสวมใส่ได้พอดี ทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม ให้ความรู้สึกเหมือนสวมกางเกงชั้นในตามปกติ นอกจากนั้นยังมีสารกำจัดเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นด้วย"
"แบบที่สองชื่อ 'โพรฟิต' เป็นแบบที่มีขอบย่นบางๆ เข้ารูปกับสะโพก ซึ่งช่วยป้องกันการซึมเปื้อนได้"
นอกจากนั้น ผู้เข้าชมแฟชั่นโชว์จำนวนหลายร้อยคนยังได้รับแคตาล็อกผ้าอ้อมประจำปี 2008 ซึ่งมีรายชื่อสินค้าทั้งหมดที่แสดงในงานรวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าด้วย
ผู้จัดแฟชั่นโชว์แหวกแนวครั้งนี้คือมัตสุเคียน ซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนอิสระจากเกียวโต และเป็นกลุ่มที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการของผู้สูงวัย โดยมีอาสาสมัคร 70 คนและบริษัทผู้ผลิตผ้าอ้อมให้การสนับสนุน
"สินค้าพวกนี้เป็นของใช้จำเป็น คุณไม่ต้องรู้สึกอายเลย" คิโยโกะ ฮามาดะ หัวหน้ากลุ่มมัตสุเคียน กล่าวถึงเหตุผลการจัดงานครั้งนี้ด้วยว่า "เพื่อให้คนทั่วไปมองผ้าอ้อมในแง่ที่ทำให้รู้สึกดี"
ทั้งนี้ ในปัจจุบันประชากรญี่ปุ่นราว 1 ใน 5 อยู่ในวัย 65 ปีขึ้นไป และมีผ้าอ้อมผู้ใหญ่วางจำหน่ายอยู่ถึงอย่างน้อย 400 ชนิด การแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จึงเป็นการกระตุ้นเตือนผู้ชมให้นึกถึงข้อเท็จจริงพื้นๆ ที่ว่า คนส่วนใหญ่มีชีวิตตอนเริ่มต้นและช่วงสุดท้ายอยู่กับผ้าอ้อม และผู้เข้าชมส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มพยาบาล คนเฝ้าไข้ รวมทั้งผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเรื่องการใช้ผ้าอ้อมเพื่อเตรียมไว้สำหรับตนเอง
"ไม่ว่าคุณจะรวยสักแค่ไหน หรืออยู่ในวงสังคมสูงส่งระดับใด ในท้ายที่สุด ส่วนใหญ่ก็ย่อมต้องการใครสักคนคอยดูแลในช่วงที่สุขภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย" ผู้บรรยายเกริ่นนำ
"อาจจะเป็นช่วงสองสามวันที่คุณต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือการนอนป่วยบนเตียงนานแรมปีก็ได้" ซาชิโกะ ฮานะริ ซึ่งดูแลคนถึง 5 คนคือ ปู่ย่า พ่อแม่ และแม่สามี มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว กล่าวและเสริมว่า "การดูแลคนป่วยยังเป็นเรื่องของการทำความสะอาดร่างกายและจัดการกับของเสียต่างๆ บางคนก็บอกว่านี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง"
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า เมื่อนับถึงสิ้นเดือนเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่นราว 4.34 ล้านคนที่ต้องการการดูแลในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อ 6 ปีก่อนถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนยูนิชาร์มซึ่งเป็นผู้นำตลาดผ้าอ้อมผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นก็ระบุว่ามูลค่าตลาดนั้นสูงถึงราว 110,000 ล้านเยน (1,000 ล้านดอลลาร์) ต่อปี
โทมาโกะ ทามาโกชิ แม่บ้านวัย 36 ปี เล่าว่าเธอมาหาข้อมูลให้กับพ่อสามีซึ่งขณะนี้กำลังป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจและอยู่ในความดูแลของแม่สามีซึ่งมีอายุมากกว่า
"คนแก่ต้องคอยดูแลคนแก่ด้วยกัน ดิฉันพักอยู่ไกลจากพวกท่าน แต่ก็หวังว่าจะเรียนรู้อะไรบางอย่างเท่าที่จะทำได้" เธอบอก
นอกจากนั้น มัตสุเคียนยังจัดโครงการฝึกอบรมและออกประกาศนียบัตรให้กับ "ผู้สวมผ้าอ้อมได้พอดี" อีกด้วย โดยที่ฮิโรโกะ ซาโน อาสาสมัครวัย 55 ปี เจ้าของบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล "เชส โกโบ" ยอมทดลองปัสสาวะลงในผ้าอ้อมตามกติกาการประกวดด้วย
เธอเล่าว่าเธอเคยปัสสาวะลงในผ้าอ้อมตอนที่รถติดมากมาแล้ว
"มันไม่ค่อยจะสบายเท่าไรหรอก" เธอเล่า "แต่ฉันไม่แคร์หรอก ไม่มีใครเห็นสักหน่อย แล้วอีกหน่อยพวกคุณก็ต้องเป็นแบบนี้เหมือนกันแหละ