ผู้จัดการรายวัน – คนกรุง ไม่สนสถานการณ์ทางการเมือง แห่เข้างาน ไทยเที่ยวไทย วันแรกคึกคัก ระบุกังวล ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่า ย้ำชัดถ้าเครียดเรื่องการเมือง ท่องเที่ยวช่วยได้ ด้านข้าราชการเกษียณ ติง โครงการบัตรผู้สูงวัย ของ ททท. ปีนี้ แพกเกจทัวร์แพง วอน ปรับลดราคาให้จับต้องได้จริง
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงาน ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 13 และเที่ยวทั่วโลก 2008 เปิดเผยว่า มั่นใจ การจัดงานครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ก.ย.51 จะมีคนไทยสนใจเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยว ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า ตลอดการจัดงาน จะมีผู้เข้าชม 3 แสนคน เกิดการซื้อขายส่งเงินสะพัดภายในงานไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
โดยวันแรกของการจัดงาน มีผู้สนใจเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน ถือว่าเกินความคาดหมาย เพราะ จากสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ทำให้รู้สึกกังวลว่าจะกระทบกับผู้เข้าชมงาน แต่กลับพบว่ามีผู้เข้าชมงานคึกคัก เท่ากับช่วงปกติกับการจัดงานครั้งก่อนๆ โดยหลังจากการจัดงานครั้งนี้แล้ว ในวันที่ 30 ต.ค.- 2 พ.ย. 51 จะจัดงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ที่อิมแพคเมืองทองธานี เป็นปีแรก ที่จัดงาน ถึง 3 ครั้ง จากเดิมจะจัดปีละ 2 ครั้ง เพราะเล็งเห็นดีมานด์ ของผู้ซื้อในแถบจ.นนทบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามประชาชนผู้เข้าชมงาน ไทยเที่ยวไทย พบว่า ส่วนใหญ่ เป็นขาประจำ ที่มาเที่ยวชมงานนี้ ทุกครั้งและทุกปี โดยมีความเห็นตรงกันว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว และ ปัญหาเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ และ ราคาน้ำมันที่แพง มีผลมากกว่า โดยอาจจะเลือกตัดสินใจเดินทางในเดสติเนชั่นใกล้ขึ้น หรือเลือกซื้อห้องพักโรงแรม แล้วเดินทางท่องเที่ยวเอง โดยไม่ผ่านบริษัทนำเที่ยว หรือ แพกเกจทัวร์
ส่วน การออกบูธ ของสายการบิน ปีนี้ ค่อนข้างจะหงอยเหงา มีเพียง สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย และ นกแอร์ เท่านั้นที่มาเปิดบูธ
***การเมืองไม่ระคายคนกรุงยันเดินทางเที่ยว
นายปริญญา ภัทรมงคล อาชีพอิสระ หนึ่งในผู้ที่มาเดินเลือกซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยว ภายในงาน ไทยเที่ยวไทยครั้งนี้ กล่าวว่า ยังคงเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยไปกับครอบครัว ซื้อห้องพักโรงแรมแล้วขับรถเที่ยวเอง ในระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก สถานการณ์การเมือง ไม่ค่อยมีผลกับการตัดสินใจท่องเที่ยว เพราะมีความเข้าใจดีว่าเป็นคนละส่วนกัน แต่ปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าแพง น่าจะมีผลมากกว่า เพราะ ทำให้โรงแรม และ ร้านอาหารปรับขึ้นราคา จากปีก่อนเฉลี่ย 10%
***อัดโครงการผู้สูงวัยของ ททท.ราคาแพง***
นางสุมิตรา วงษ์ทอง ข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า หลังเกษียณก็เดินทางท่องเที่ยวทุกปีๆละหลายครั้ง บางช่วง เที่ยวเกือบทุกเดือน เหมือนเป็นการให้รางวัลชีวิต โดยส่วนตัวชอบเที่ยวอุทยานแห่งชาติ จะเลือกซื้อทั้งแบบเป็นแพกเกจทัวร์ และ แบบเฉพาะห้องพักโรงแรม มองว่า การเมือง ไม่มีผลกับการตัดสินใจเที่ยว แต่เศรษฐกิจน่าจะมีผลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ในอดีตเคยเข้าเป็นสมาชิกของบัตรผู้สูงวัย ในโครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) แต่ ในสำหรับปีนี้ ในโครงการบัตรผู้สูงวัย ก็ได้เข้าเป็นสมาชิก แต่ แพกเกจท่องเที่ยวที่นำเสนอขายมีแต่สถานที่หรูหรา ทำให้ราคาแพกเกจทัวร์แพงเกินความจำเป็น
***อัดโปรโมชั่นจูงใจนักชอป***
นายเติมศักดิ์ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ Lima Coco Resort Group รีสอร์ตบนเกาะเสม็ด กล่าวว่า งานไทยเที่ยวไทยครั้งนี้ คึกคักว่าที่คิดไว้ เพราะตอนแรกเกรงว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะกระทบทำให้ผู้เข้าชมงานลดลง ซึ่ง Lima Coco เข้าร่วมงานไทยเที่ยวไทยทุกครั้ง ครั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายภายในงานไว้เพียง 600 ห้อง ลดจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เราขายได้ 800 ห้อง โดย ลดราคาห้องพักเฉลี่ย 40-50% เพิ่มโปรโมชั่น เช่น แจกของที่ระลึก แถมห้องพัก เป็นต้น และร่วมกับบัตรเครดิตกรุงไทย สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรรูดซื้อภายในงานได้สิทธิ์ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย 0%
“มองว่าคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพ เข้าใจและปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันแล้ว แต่ ยังวิตกว่าจะกระทบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์ ที่เขาระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ หากเขาวิตกกับการเมืองไทย และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วไม่มาประเทศไทย ก็จะกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในวงกว้าง เพราะช่วงนี้เริ่มเข้าไฮซีซั่นแล้ว”
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.เอ็กซิบิชั่น เมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงาน ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 13 และเที่ยวทั่วโลก 2008 เปิดเผยว่า มั่นใจ การจัดงานครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ก.ย.51 จะมีคนไทยสนใจเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยว ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า ตลอดการจัดงาน จะมีผู้เข้าชม 3 แสนคน เกิดการซื้อขายส่งเงินสะพัดภายในงานไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
โดยวันแรกของการจัดงาน มีผู้สนใจเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน ถือว่าเกินความคาดหมาย เพราะ จากสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ทำให้รู้สึกกังวลว่าจะกระทบกับผู้เข้าชมงาน แต่กลับพบว่ามีผู้เข้าชมงานคึกคัก เท่ากับช่วงปกติกับการจัดงานครั้งก่อนๆ โดยหลังจากการจัดงานครั้งนี้แล้ว ในวันที่ 30 ต.ค.- 2 พ.ย. 51 จะจัดงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ที่อิมแพคเมืองทองธานี เป็นปีแรก ที่จัดงาน ถึง 3 ครั้ง จากเดิมจะจัดปีละ 2 ครั้ง เพราะเล็งเห็นดีมานด์ ของผู้ซื้อในแถบจ.นนทบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามประชาชนผู้เข้าชมงาน ไทยเที่ยวไทย พบว่า ส่วนใหญ่ เป็นขาประจำ ที่มาเที่ยวชมงานนี้ ทุกครั้งและทุกปี โดยมีความเห็นตรงกันว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว และ ปัญหาเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ และ ราคาน้ำมันที่แพง มีผลมากกว่า โดยอาจจะเลือกตัดสินใจเดินทางในเดสติเนชั่นใกล้ขึ้น หรือเลือกซื้อห้องพักโรงแรม แล้วเดินทางท่องเที่ยวเอง โดยไม่ผ่านบริษัทนำเที่ยว หรือ แพกเกจทัวร์
ส่วน การออกบูธ ของสายการบิน ปีนี้ ค่อนข้างจะหงอยเหงา มีเพียง สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย และ นกแอร์ เท่านั้นที่มาเปิดบูธ
***การเมืองไม่ระคายคนกรุงยันเดินทางเที่ยว
นายปริญญา ภัทรมงคล อาชีพอิสระ หนึ่งในผู้ที่มาเดินเลือกซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยว ภายในงาน ไทยเที่ยวไทยครั้งนี้ กล่าวว่า ยังคงเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยไปกับครอบครัว ซื้อห้องพักโรงแรมแล้วขับรถเที่ยวเอง ในระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก สถานการณ์การเมือง ไม่ค่อยมีผลกับการตัดสินใจท่องเที่ยว เพราะมีความเข้าใจดีว่าเป็นคนละส่วนกัน แต่ปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าแพง น่าจะมีผลมากกว่า เพราะ ทำให้โรงแรม และ ร้านอาหารปรับขึ้นราคา จากปีก่อนเฉลี่ย 10%
***อัดโครงการผู้สูงวัยของ ททท.ราคาแพง***
นางสุมิตรา วงษ์ทอง ข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า หลังเกษียณก็เดินทางท่องเที่ยวทุกปีๆละหลายครั้ง บางช่วง เที่ยวเกือบทุกเดือน เหมือนเป็นการให้รางวัลชีวิต โดยส่วนตัวชอบเที่ยวอุทยานแห่งชาติ จะเลือกซื้อทั้งแบบเป็นแพกเกจทัวร์ และ แบบเฉพาะห้องพักโรงแรม มองว่า การเมือง ไม่มีผลกับการตัดสินใจเที่ยว แต่เศรษฐกิจน่าจะมีผลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ในอดีตเคยเข้าเป็นสมาชิกของบัตรผู้สูงวัย ในโครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) แต่ ในสำหรับปีนี้ ในโครงการบัตรผู้สูงวัย ก็ได้เข้าเป็นสมาชิก แต่ แพกเกจท่องเที่ยวที่นำเสนอขายมีแต่สถานที่หรูหรา ทำให้ราคาแพกเกจทัวร์แพงเกินความจำเป็น
***อัดโปรโมชั่นจูงใจนักชอป***
นายเติมศักดิ์ อยู่วิทยา กรรมการผู้จัดการ Lima Coco Resort Group รีสอร์ตบนเกาะเสม็ด กล่าวว่า งานไทยเที่ยวไทยครั้งนี้ คึกคักว่าที่คิดไว้ เพราะตอนแรกเกรงว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะกระทบทำให้ผู้เข้าชมงานลดลง ซึ่ง Lima Coco เข้าร่วมงานไทยเที่ยวไทยทุกครั้ง ครั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายภายในงานไว้เพียง 600 ห้อง ลดจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เราขายได้ 800 ห้อง โดย ลดราคาห้องพักเฉลี่ย 40-50% เพิ่มโปรโมชั่น เช่น แจกของที่ระลึก แถมห้องพัก เป็นต้น และร่วมกับบัตรเครดิตกรุงไทย สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรรูดซื้อภายในงานได้สิทธิ์ผ่อนชำระอัตราดอกเบี้ย 0%
“มองว่าคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพ เข้าใจและปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันแล้ว แต่ ยังวิตกว่าจะกระทบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์ ที่เขาระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ หากเขาวิตกกับการเมืองไทย และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วไม่มาประเทศไทย ก็จะกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในวงกว้าง เพราะช่วงนี้เริ่มเข้าไฮซีซั่นแล้ว”
