"วีระศักดิ์" จี้ใช้งบลงทุน หลัง แบ่งบัญชีแหล่งท่องเที่ยวออกเป็น 3 กลุ่ม ไฮน์ มีเดียม โลว์ ระบุให้เร่งพัฒนาอัพเกรดศักยภาพทุกแหล่งท่องเที่ยวเปิดหน้าร้าน จัดสรรโซนต่างชาติเที่ยวไทย และ ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ต่อยอด 12 คู่มือเดินทางท่องเที่ยว หวังผลบรรลุรายได้ 8 แสนล้านบาทสิ้นปีนี้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯอยู่ระหว่างการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายบริหารประเทศ ที่แถลงไว้กับรัฐสภา จากนั้นจะนำไปสู่การจัดทำแผนปฏิบัติการเป็นลำดับต่อไป โดยเบื้องต้น จะต้องเร่งผลักดันการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2551 ให้เร็วขึ้นแต่ต้องไม่ลืมเรื่องของประสิทธิภาพด้วย
ทั้งนี้เพราะล่าสุดจากการสอบถามสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง พบว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯเบิกจ่ายงบลงทุนออกไปเพียง 3.19% ทั้งที่เริ่มปีงบประมาณไปได้ 4 เดือนกว่าแล้ว ส่วนงบดำเนินงานเบิกจ่ายมาแล้ว 47% ซึ่งเป็นปกติ สาเหตุเพราะปลายปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงเลือกตั้งผู้แทนราษฎร จึงทำให้ภาครัฐต้องชะลอโครงการลงทุน ดังนั้นจากนี้ไปก็จะเร่งใช้งบในส่วนนี้ เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และเงินส่วนนี้จะยังช่วยเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จากการจัดทำบัญชีแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 76 จังหวัด ทำให้ทราบแล้วว่า ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวใดบ้าง แต่ละแหล่งมีความพร้อมรับรองนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน โดยล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวได้แบ่งบัญชีแหล่งท่องเที่ยวออกเป็น 3 กลุ่ม คือ โลว์ มีเดียม และ ไฮน์ ( L,M,H) พิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานของแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถนน สนามบิน เป็นต้น รวมถึงรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จำนวนโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และ บริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ โดยในกลุ่ม L กระทรวงการท่องเที่ยว โดยสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว จะใช้งบลงทุนเข้าไปฟื้นฟูและพัฒนา เพื่อให้ขึ้นสู่กลุ่ม M ส่วนกลุ่มM ก็จะพัฒนาสู่กลุ่ม H ตรงนี้เท่ากับเรากำลังเปิดหน้าร้านนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวออกสู่สายตาวชาวโลก และ ตลาดคนไทย
ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่มดังกล่าว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดไว้ว่าจะนำแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่ม H ซึ่งมี 21 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช อยุธยา อุบลราชธานี อุดรธานี กาญจนบุรี ชลบุรี เป็นต้น ออกไปขยายตลาดนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยชูให้เป็นเวิลด์คลาสเดสติเนชั่น ส่วนกลุ่ม M มี 24 จังหวัด ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ตลาดหลักคือคนไทย เพื่อไปสอดรับกับ 12 คู่มือ การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ที่ ททท.อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ ได้แก่ ท่องเที่ยวกับผู้สูงวัย ,ท่องเที่ยวกับเด็ก ,เที่ยวกับผู้พิการ,เที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงแสนรัก, เที่ยวรอบกรุงฯ, เที่ยวนอกกรุงฯ, เที่ยวทางจิตวิญญาณ ,เที่ยวโหด มัน ฮา, ท้องก็เที่ยว..เปรี้ยวปาก, กางเต็นท์ที่ไหน...ปลอดภัยได้วิวสวย, บินถูกเที่ยวมันส์ และ เที่ยวถูกๆ ส่วนกลุ่ม L มี 31 จังหวัด ก็จะเร่งโปรโมตและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ M
อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ตามแผนงาน ดังกล่าว รวมถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ตั้งไว้ 8 แสนล้านบาทในปีนี้นั้น จะต้องมี 4 ฝ่ายร่วมทำยุทธศาสตร์ร่วมกัน ได้แก่ 1.หน่วยงานรัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 2.นักธุรกิจ 3.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 4.ชุมชน ซึ่ง ในสัปดาห์นี้ ตนจะพบและหารือกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยวให้เสร็จเพื่อรับฟังปัญหา และ แจ้งนโยบายการทำงานให้ได้รับทราบ จากนั้น จะประสานไปยัง ท้องถิ่น ชุมชน หน่วยงานรัฐ ให้เข้าใจตรงกัน เพื่อให้งานเดินทางอย่างมีจุดหมายเดียวกัน
นอกจากนั้น จะสำรวจและพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดยจะร่วมกับสถานศึกษา พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน โดยเฉพาะเรื่องมัคคุเทศก์ในภาษาที่ขาดแคลน เช่น จีน รัสเซีย เกาหลี เป็นต้น โดยจะต้องผลิตบุคลากรให้เพียงพอกับการขยายตัวของอุตสาหกรรม ไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับมือการเปิดเสรีธุรกิจบริการ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯอยู่ระหว่างการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายบริหารประเทศ ที่แถลงไว้กับรัฐสภา จากนั้นจะนำไปสู่การจัดทำแผนปฏิบัติการเป็นลำดับต่อไป โดยเบื้องต้น จะต้องเร่งผลักดันการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2551 ให้เร็วขึ้นแต่ต้องไม่ลืมเรื่องของประสิทธิภาพด้วย
ทั้งนี้เพราะล่าสุดจากการสอบถามสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง พบว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯเบิกจ่ายงบลงทุนออกไปเพียง 3.19% ทั้งที่เริ่มปีงบประมาณไปได้ 4 เดือนกว่าแล้ว ส่วนงบดำเนินงานเบิกจ่ายมาแล้ว 47% ซึ่งเป็นปกติ สาเหตุเพราะปลายปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงเลือกตั้งผู้แทนราษฎร จึงทำให้ภาครัฐต้องชะลอโครงการลงทุน ดังนั้นจากนี้ไปก็จะเร่งใช้งบในส่วนนี้ เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และเงินส่วนนี้จะยังช่วยเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จากการจัดทำบัญชีแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 76 จังหวัด ทำให้ทราบแล้วว่า ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวใดบ้าง แต่ละแหล่งมีความพร้อมรับรองนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน โดยล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวได้แบ่งบัญชีแหล่งท่องเที่ยวออกเป็น 3 กลุ่ม คือ โลว์ มีเดียม และ ไฮน์ ( L,M,H) พิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานของแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถนน สนามบิน เป็นต้น รวมถึงรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จำนวนโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และ บริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ โดยในกลุ่ม L กระทรวงการท่องเที่ยว โดยสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว จะใช้งบลงทุนเข้าไปฟื้นฟูและพัฒนา เพื่อให้ขึ้นสู่กลุ่ม M ส่วนกลุ่มM ก็จะพัฒนาสู่กลุ่ม H ตรงนี้เท่ากับเรากำลังเปิดหน้าร้านนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวออกสู่สายตาวชาวโลก และ ตลาดคนไทย
ส่วนเป้าหมายนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่มดังกล่าว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดไว้ว่าจะนำแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่ม H ซึ่งมี 21 จังหวัดได้แก่ กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช อยุธยา อุบลราชธานี อุดรธานี กาญจนบุรี ชลบุรี เป็นต้น ออกไปขยายตลาดนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยชูให้เป็นเวิลด์คลาสเดสติเนชั่น ส่วนกลุ่ม M มี 24 จังหวัด ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ตลาดหลักคือคนไทย เพื่อไปสอดรับกับ 12 คู่มือ การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ที่ ททท.อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ ได้แก่ ท่องเที่ยวกับผู้สูงวัย ,ท่องเที่ยวกับเด็ก ,เที่ยวกับผู้พิการ,เที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงแสนรัก, เที่ยวรอบกรุงฯ, เที่ยวนอกกรุงฯ, เที่ยวทางจิตวิญญาณ ,เที่ยวโหด มัน ฮา, ท้องก็เที่ยว..เปรี้ยวปาก, กางเต็นท์ที่ไหน...ปลอดภัยได้วิวสวย, บินถูกเที่ยวมันส์ และ เที่ยวถูกๆ ส่วนกลุ่ม L มี 31 จังหวัด ก็จะเร่งโปรโมตและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ M
อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ตามแผนงาน ดังกล่าว รวมถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ตั้งไว้ 8 แสนล้านบาทในปีนี้นั้น จะต้องมี 4 ฝ่ายร่วมทำยุทธศาสตร์ร่วมกัน ได้แก่ 1.หน่วยงานรัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 2.นักธุรกิจ 3.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 4.ชุมชน ซึ่ง ในสัปดาห์นี้ ตนจะพบและหารือกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยวให้เสร็จเพื่อรับฟังปัญหา และ แจ้งนโยบายการทำงานให้ได้รับทราบ จากนั้น จะประสานไปยัง ท้องถิ่น ชุมชน หน่วยงานรัฐ ให้เข้าใจตรงกัน เพื่อให้งานเดินทางอย่างมีจุดหมายเดียวกัน
นอกจากนั้น จะสำรวจและพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดยจะร่วมกับสถานศึกษา พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน โดยเฉพาะเรื่องมัคคุเทศก์ในภาษาที่ขาดแคลน เช่น จีน รัสเซีย เกาหลี เป็นต้น โดยจะต้องผลิตบุคลากรให้เพียงพอกับการขยายตัวของอุตสาหกรรม ไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับมือการเปิดเสรีธุรกิจบริการ