xs
xsm
sm
md
lg

สูตรสร้างการเมืองใหม่

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

(บทสรุปจากการปฏิบัติ 120 วัน ระหว่างวันที่ 25 พ.ค.- 21 ก.ย. 51)

จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่องจริงจังเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ ระหว่างวันที่ 25 พ.ค.- 21 ก.ย. 51 ปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจ ขบวนการการเมืองภาคประชาชนพัฒนาเติบใหญ่เป็นประวัติการณ์ มีอำนาจกำหนดทิศทางการพัฒนาทางการเมืองใหม่เป็นเบื้องต้น มีองค์ความรู้รอบด้านพอที่จะสรุปออกมาเป็นสูตรกำกับการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ คือการสร้างการเมืองใหม่ได้ดังนี้

ตัวกระทำ
ขบวนการการเมืองภาคประชาชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ โดยมีกลุ่มบุคคล องค์กร สถาบัน ฯลฯ ในสังคมเข้าร่วมการเคลื่อนไหว ในห้วงเวลาและเงื่อนไขที่แน่นอน รวมกันเข้าเป็น “พลังรวม” กระทำการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

ทฤษฎีรองรับ
กงล้อประวัติศาสตร์ขับเคลื่อนด้วยพลังมวลชน โดยมีผู้นำหรือแกนนำที่เข้มแข็ง รอบรู้และปรีชาสามารถ กระทำการอย่างสอดคล้องกับลักษณะยุคสมัย และสภาวะเป็นจริงของประเทศตน เพื่อให้เป็นไปตามความเรียกร้องต้องการของมวลชน

ในทางปรัชญาก็คือ จะต้องมีเงื่อนไขทางภววิสัยที่จำเป็นรองรับ และมีความพร้อมทางอัตวิสัยมากพอที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง

ในกรณีของประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สอดคล้องกับลักษณะยุคสมัย ที่ประเทศต่างๆ ในสังคมโลกอยู่ในห้วงของการแสวงหาสันติภาพเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยถือเอาผลประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชนเป็นตัวตั้ง และเน้นความสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมือง ให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยถือเอาความพอใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง

แต่สภาวะเป็นจริงของประเทศไทยคือ อำนาจการเมืองตกอยู่ในมือของกลุ่มทุนนิยมสามานย์ มีแนวโน้มรวบอำนาจเบ็ดเสร็จเพื่อกอบโกยโกงกินอย่างไม่สิ้นสุด ทำให้การพัฒนาประเทศไม่ประสบความสำเร็จ มีแนวโน้มที่จะล้าหลังยิ่งกว่าประเทศใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น ไม่พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาและวิกฤตต่างๆ ที่มีลักษณะสลับซับซ้อนยิ่งกว่ายุคใดๆ ประชาชนส่วนใหญ่เดือดร้อน เป็นที่อิดหนาระอาใจของคนไทยทั่วไป ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองในเร็วพลัน

นี่คือการดำรงอยู่ของเงื่อนไขทางภววิสัยที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศที่สัมฤทธิผล ประชาชนชาวไทยได้รับผลพวงของการพัฒนาในระดับที่น่าพอใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ขบวนการการเมืองภาคประชาชน นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ก้าวเข้ามาแบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์นี้ได้พอดิบพอดี สืบเนื่องจากกลุ่มอำนาจนำอื่นๆ ในสังคมไทย เช่น กลุ่มทหาร และกลุ่มทุนต่างได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่า ไม่อยู่ในฐานะที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดี ที่สอดคล้องกับลักษณะยุคสมัยและความเรียกร้องต้องการของประชาชนชาวไทยได้อย่างแท้จริง ตรงกันข้าม ขบวนการการเมืองภาคประชาชนได้สะสมบทเรียนและประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ “14 ตุลาฯ” ได้ใช้จังหวะและโอกาสที่เปิดให้ดำเนินการเคลื่อนไหวทางการเมือง “จุดเทียนปัญญา” สร้างอำนาจทางการเมืองของประชาชนขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นอำนาจนำใหม่ในสังคมไทยอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ แกนนำทั้งห้าของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กลายเป็นต้นแบบของผู้นำขบวนการการเมืองภาคประชาชนยุคใหม่ ด้วยลักษณะการนำแบบเป็นทีม บนฐานของเอกลักษณ์ของแต่ละคน ทำให้การนำของพวกเขาดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความพร้อมยิ่งขึ้นทุกที ในการนำพาประชาชนชาวไทยต่อสู้โค่นล้มอำนาจปกครองของกลุ่มทุนนิยมสามานย์นำโดยพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนในเวลาต่อมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลา 120 วัน ระหว่างวันที่ 25 พ.ค. – 21 ก.ย. 51 ได้มีประชาชนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศประกาศตัวเข้าร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างมากมายมหาศาล ทำให้อำนาจนำทางการเมืองของภาคประชาชนเติบโตอย่างฮวบฮาบ กลายเป็น “พลังรวม” ยิ่งใหญ่ จนมิอาจที่อำนาจอื่นใดจะท้าทายหรือทำลายได้ ตรงกันข้าม จะกลายเป็นอำนาจชี้ขาด ในการโค่นล้มอำนาจปกครองของกลุ่มทุนนิยมสามานย์ได้ในที่สุด

ลักษณะดำเนินการ (กระบวนการดำเนินการตั้งแต่ต้นจนปลาย)
1. ประชาชนเป็นเจ้าภาพ
2. สร้างอำนาจประชาชน
3. สถาปนาอำนาจประชาชนแทนที่อำนาจทุนนิยมสามานย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ทฤษฎีรองรับ

1. ประชาชนเป็นเจ้าภาพ
ในการต่อสู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ที่เกี่ยวพันกับชีวิตอนาคตของประชาชนส่วนใหญ่ ประชาชนจักต้องแสดงตนเป็นเจ้าภาพตัวจริง ดำเนินการทุกอย่างบนพื้นฐานของการพึ่งลำแข้งตนเองเป็นหลัก โดยรักษาความเป็นอิสระทางความคิด ทางการจัดตั้ง ทางการนำตั้งแต่ต้นจนปลาย ไม่เช่นนั้น การเปลี่ยนแปลงก็จะไม่บรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์สูงสุดที่ตั้งไว้

การเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนชาวไทยครั้งนี้ ภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะต้องยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่อย่างมั่นคง เป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนชาวไทย คิดและทำทุกอย่างโดยเริ่มจากผลประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชนชาวไทย

ในการดำเนินการทุกๆ ขั้นตอน จักต้องรักษาความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองในทางความคิด จัดตั้ง แสดงบทบาทของความเป็นเจ้าภาพตัวจริงอย่างเต็มที่ พร้อมกับเปิดทางให้ทุกฝ่ายที่ยินดีเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหวต่อสู้ ให้สามารถแสดงบทบาทเสริมได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลรอบด้านยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

มีแต่เช่นนี้เท่านั้น ที่ขบวนการการเมืองภาคประชาชนจักเติบใหญ่เข้มแข็ง และไม่ผิดทิศทาง คือด้านหนึ่ง ก็มีผู้เข้าร่วมจากทุกฝ่าย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ และทุกเพศวัย อย่างกว้างขวาง อีกด้านหนึ่ง ก็ไม่ทำให้การเคลื่อนไหวต่อสู้เสียศูนย์ หรือผิดทิศทาง สามารถดำเนินไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้โดยตลอด

ดังกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้กำหนดภารกิจใจกลางไว้ 3 ข้อใหญ่ด้วยกัน คือ 1.ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนหรือกลุ่มตนของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคพลังประชาชน 2. ต่อต้านการใช้อำนาจบริหารประเทศของพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล และ 3. สร้างการเมืองใหม่

2. สร้างอำนาจประชาชน
การสร้างอำนาจประชาชนคือภารกิจพื้นฐานของการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่นี้
อำนาจประชาชนเป็นปัจจัยชี้ขาดในการเอาชนะอำนาจกลุ่มทุนนิยมสามานย์

กระบวนการสร้างอำนาจประชาชน ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดำเนินไปอย่างได้ผลด้วยการ จุดเทียนปัญญา เน้นการติดอาวุธทางปัญญาให้แก่มวลชน ขยายเครือข่ายมวลชนผู้ตื่นรู้ เสริมสร้างอำนาจทางการเมืองภาคประชาชน ประชันกับอำนาจรัฐของรัฐบาลหุ่นเชิด หักล้างอำนาจรัฐของรัฐบาลหุ่นเชิดในกรณีรูปธรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แสดงตนเป็นอำนาจกำหนดที่จะกำกับการขับเคลื่อนทางการเมืองของประเทศไทยจากยุคเก่าไปสู่ยุคใหม่ จากการเมืองเก่าไปเป็นการเมืองใหม่

ปัจจุบันนี้ ในทางพฤตินัย อำนาจประชาชนกลายเป็นอำนาจนำใหม่ไปแล้ว ประกอบด้วยมวลประชามหาชนทั้งในและต่างประเทศ ที่เกิดความเข้าใจใหม่ในสิ่งต่างๆ ที่กำลังเป็นไปในประเทศไทยและทั่วทั้งโลก เกิดเป็นปัญญาใหม่ ทัศนะใหม่ กระบวนทัศน์ใหม่ ค่านิยมใหม่ ความสัมพันธ์ใหม่ และคุณภาพใหม่ เป็นต้นแบบของสังคมใหม่และชีวิตใหม่ที่ประชาชนชาวไทยกำลังถวิลหา

อำนาจนำใหม่นี้เป็นอำนาจยั่งยืน จะค่อยๆ เบียดขับอำนาจนำเก่า ซึ่งเป็นอำนาจเสื่อมในตัวตกไปจากเวทีประวัติศาสตร์ อำนาจใหม่นี้จะกำหนดให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปในทิศทางที่เอื้อประโยชน์แก่ประชาชนส่วนใหญ่ แก่ประเทศชาติ แก่ธรรมชาติแวดล้อม จะเป็นต้นธารของการสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ชาติบ้านเมือง สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชน อันหมายถึงว่า สังคมไทยจักเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ประชาชนชาวไทยจะมีความรู้ มีปัญญา และมีธรรม เป็นประชากรคุณภาพของสังคมโลกยุคใหม่อย่างแท้จริง

3. สถาปนาอำนาจประชาชนแทนที่อำนาจทุนนิยมสามานย์
ขบวนการการเมืองภาคประชาชนดำเนินการสถาปนาอำนาจนำใหม่ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวต่อสู้ ดำเนินยุทธศาสตร์ “จุดเทียนปัญญา เอาธรรมนำหน้า สันติอหิงสา อารยะขัดขืน” ติดอาวุธทางปัญญาให้แก่มวลชน ทำการเปิดมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ให้การศึกษาในเรื่องต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเครือข่ายเอเอสทีวี เปิดเวทีพันธมิตรฯ ขึ้นในขอบเขตทั่วทั้งประเทศและในต่างประเทศ เคลื่อนขบวน “ดาวกระจาย” ไปยังจุดต่างๆ เพื่อให้เกิดผลทางด้านการเมือง กระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวมากขึ้น เข้าถึงความจริงมากขึ้น ให้การสนับสนุนมากขึ้น ฯลฯ อันเป็นการรุกเพื่อขยายอำนาจประชาชนอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

การดำรงอยู่ของอำนาจนำทางการเมืองในระยะเปลี่ยนผ่าน ที่อำนาจเก่ากำลังจะสูญสิ้นฐานะนำ และอำนาจใหม่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นอำนาจนำแทนที่ จะมีลักษณะเชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผลในตัวเองดังนี้

ก.อำนาจภาคประชาชน ประกอบด้วยองค์กรแกนนำ กองหน้า, มวลชนตื่นรู้ เปิดกว้าง เป็นพลวัต อารยะ (ผู้ทำ) --------- กลไกรัฐ, กลุ่มผลประโยชน์, กลุ่มอำนาจปลีกย่อย (ผู้ร่วมทำ ทำตามแนวทางกำกับ สนองตอบ สนองรับอำนาจภาคประชาชน ตามบทบาทและสถานภาพของตนในสังคม) --------- สาธารณชน (ผู้รับ ผู้ได้รับประโยชน์)

ข.อำนาจกลุ่มทุนสามานย์ ประกอบด้วยกลุ่มและขุมกำลังทุนฉวยโอกาส กลุ่มลิ่วล้อและสมุน (ผู้ทำ) -------- กลไกรัฐ, กลุ่มผลประโยชน์, กลุ่มอำนาจปลีกย่อย (ผู้ร่วมทำ ทำการโกงกิน) --------- สาธารณชน (ผู้เสียหาย)

ในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ อำนาจสองส่วนนี้จะดำรงอยู่ ประชันและเบียดขับกันไปมาอย่างเข้มข้น แต่ในที่สุด เมื่อความจริงปรากฏแก่สายตามวลชนอันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งขึ้น เกิดการตื่นรู้กว้างขวางยิ่งขึ้น อำนาจประชาชนก็จะยิ่งเข้มแข็งใหญ่โต สามารถเอาชนะอำนาจกลุ่มทุนสามานย์ได้ในที่สุด

เมื่อนั้น การเมืองใหม่ที่เราปรารถนาก็จะมาถึง ประชาชนชาวไทยจะสามารถช่วยกันสร้างการเมืองใหม่ขึ้นมาด้วยมือของตนเอง อันหมายถึงการสร้างชีวิตใหม่ด้วยมือของตนเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น