xs
xsm
sm
md
lg

เรืองไกรยื่นปปช.ตรวจสอบ "ลูกนายกฯ"ซุกเงิน100ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (24ก.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน บุตรสาวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อป.ป.ช.ไปเมื่อวันที่ 22 ม.ค.51 ว่า มีทรัพย์สินรวมเป็นเงิน 362,164.40 บาท เงินกู้จากธนาคารจำนวน 75,163,207.53 บาท รวมมีทรัพย์สิน มากกว่าหนี้สินเป็นเงิน 287,028,450.46 บาท ซึ่งน.ส.ชินณิชาได้แสดงทรัพย์สินไว้ 3 รายการคือ เงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 229,546.96 บาท เงินกู้จากธนาคารจำนวน 74,163,207.53 บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 743,766.45 บาท มีหนี้สินรวมเป็นเงิน 75,136,520.94 บาท
นายเรืองไกร กล่าวว่า แต่มีข่าวจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 51 ได้ระบุว่า คตส.ได้อายัดเงินในส่วน ของน.ส.ชินณิชา จำนวน 100 ล้าบาท ซึ่งเป็นเงินที่น.ส.ชินณิชา แจ้งว่ากู้ยืมมาจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ เพื่อมาดำเนินด้านธุรกิจหลายอย่าง แต่น.ส.ชินณิชา ได้แจ้งต่อ คตส. ว่าจะส่งเอกสารด้านบัญชีอีก 2-3 รายการให้แก่ คตส. ภายใน 7 วัน ซึ่งทำให้เข้าใจว่าวันที่ 22 ม.ค.51 นั้น น.ส.ชินณิชา ควรมีภาระหนี้สินต่อนายบรรณพจน์ จำนวน 100 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กลับไม่มีการแสดงทรัพย์สินในส่วนนี้ไว้ต่อคตส. ถือว่าเข้าลักษณะจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สิน และเอกสารประกอบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินเอกสารประกอบด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือปกปิด ข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ซึ่งเข้าข่ายผิดตามมาตรา 263 หรือไม่
"ผมจึงอยากให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าน.ส.ชินณิชา มีการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบอย่างถูกต้องหรือไม่ มีกรณีที่เข้าลักษณะปกปิดข้อเท็จจริง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 263 หรือไม่" นายเรืองไกรกล่าว

**"สมชาย"ยังไม่ได้หารือกับลูกสาว
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกติกา และตนก็ไม่ได้ชี้แจงอะไรกับบุตรสาวในเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะตกเป็นเป้าทางการเมืองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า การเมืองไม่ต้องอะไรมาก ควรให้เป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า เพราะหากคิดมากไปก็จะเสียเวลาการทำงาน ตอนนี้ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์อะไร ผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้คงต้องมีเหตุผล และตนขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับลูกสาวแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องรอให้ป.ป.ช.เป็นคนตรวจสอบว่ายื่นถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการจงใจยื่น จึงทำให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่งเป็นเรื่องขององค์กรที่ต้องชี้ขาด ดังนั้น นายกฯ หรือไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ควรออกมาให้ความเห็น น่าจะปล่อยเป็นเรื่องกระบวนการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา
กำลังโหลดความคิดเห็น