xs
xsm
sm
md
lg

คนไทยควรอ่าน ถ้าไม่อยากให้ลูกหลานบ้านเมืองฉิบหาย (1)

เผยแพร่:   โดย: ปราโมทย์ นาครทรรพ

ผมเคยลาท่านผู้อ่านไปครั้งหนึ่งแล้วว่าจะเลิกเขียน ผมเชื้อเชิญให้ท่านผู้อ่านรวมตัวกันขึ้นเป็นคณะสัก 10 ท่าน แล้ววนเวียนเปลี่ยนกันเขียนแทนคอลัมน์ของผม ในที่สุดท่านก็จะเป็น Syndicate Columnist หรือผู้เขียนเป็นคณะที่หนังสือพิมพ์ต่างๆ เอาบทความไปลงซ้ำๆ กัน ให้ผู้อ่านมีโอกาสอ่านทั่วถึงเหมือนสื่อที่เจริญในต่างประเทศ ผมอยากเห็นจริงๆ

การสร้างกลุ่มผมว่าทำไม่ยาก 50 ปีมาแล้ว เทคโนโลยีสื่อสารด้อยกว่าสมัยนี้ลิบลับ ผมรวมกลุ่มนักเรียนไทยในต่างประเทศมาเขียน “คิดถึงเมืองไทย” นักเขียนรุ่นน้องที่ยังดังอยู่ คือ ประทุมพร วัชรเสถียร ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นรนิติ เศรษฐบุตร เป็นต้น ผู้ที่ช่วยผมอย่างแข็งขันพึ่ง “เขมัง” หรือไปสู่แดนอันเขษมไป 2-3 ปีนี้ คือ ดร.วารินทร์ วงศ์หาญเชาว์

ต่างประเทศและนักวิชาการไทยที่เป็นทาสระบบคิดอย่างฝรั่ง พากันดูถูกคนไทยว่า ไม่มี Group Dynamics หรือพลังกลุ่มที่ยั่งยืน จึงเป็นประชาธิปไตยไม่เป็นหรือสร้างประชาธิปไตยไม่ได้ ผมอยากเชื่อ เมืองไทยอยู่อย่างสง่างามมาร่วมพันปีด้วยอำนาจเผด็จการหรือขาดพลังกลุ่มกระนั้นหรือ หรือพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมมาได้กว่า 4 เดือน เทคโนโลยีสื่อสารด้อยกว่าสมัยนี้ลิบลับ จะไม่เรียกว่ามี Group Dynamics หรือ

ผมจึงเห็นว่าสังคมไทยก็ไม่ต่างกับสังคมมนุษย์ทั่วไป เมื่อเกิด (เงื่อน) เวลาและเงื่อนไข (องค์ประกอบ โครงสร้าง ระบบพฤติกรรม) ที่เหมาะสม ศักยภาพหรือพลังเงียบกับพลังกลุ่มมหาศาลอาจจะถูกปลดปล่อยหรือระเบิดออกมา

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างเงื่อนไขและเงื่อนเวลา ก็คือ “ความคิด” อันเกิดจากการได้เห็น ได้ฟัง และการอ่านเป็นสมการสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้

เขาดูถูกต่อไปว่า คนไทยไม่รู้จักคิด ชมชอบไสยศาสตร์และข่าวลือ หรือคิดแบบ “พูดได้ตามใจคือไทยแท้” คือเป็นปัจเจกตัวใครตัวมัน สาเหตุสำคัญก็คือ คนไทยไม่รู้จักอ่าน ยูเนสโกเจ้ากี้เจ้าการเขาพระวิหาร เคยยกสถิติมาฉีกหน้ากระทรวงศึกษาฯ ไทยมาแล้วว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัดเท่านั้น

ถามว่า คนไทยส่วนใหญ่ทุกวันนี้ เห็นหรือได้ยินอะไรมาจากไหน ที่สำคัญที่สุดน่าจะได้แก่ ทีวี คนไทยสิบๆ ล้านดูฟรีทีวีน้ำเน่า โกหก ปกปิด บิดเบือน ปิดหูปิดตา ประชาชนเป็นกระบอกเสียงรัฐบาลลูกเดียว หรือไม่ก็ ASTV ที่ต่อต้านรัฐบาลสุดๆ พยายามจะปลุกตื่นให้ความรู้และข้อมูลการเมืองแก่ประชาชน

เราคงจะต้องรับความจริงว่า ขณะนี้คนไทยแตกออกไปเป็นสองเสี่ยง ทั้งในด้านความคิด การรวมกลุ่ม และความสามิภักดิ์ แยกกันกว้างๆ กลุ่มหนึ่งที่กุมอำนาจรัฐหรือกลุ่มระบอบทักษิณ อีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือ กลุ่มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลุ่มผู้ที่ชอบนั่งอยู่บนรั้ว คือคอยเข้าข้างผู้ชนะ ก็คือ กองทัพกับระบบราชการซึ่งมีหน้าที่รับใช้รัฐบาล โดยแยกแยะไม่เป็นว่า คำสั่งของรัฐบาลจะถูกต้องกฎหมาย หรือเป็นการทำลายประชาธิปไตย รวมทั้งพระมหากษัตริย์ทางอ้อมหรือไม่

ผมต้องยอมรับว่าประสบการณ์ในชีวิตทำให้ผมต้องช้ำใจ ช้ำใจที่เห็นประเทศด้อยพัฒนากว่าเราหลายเท่าพรวดพราดขึ้นมาเกินหน้าเราจนไม่เห็นฝุ่น นั่นก็คือ สิงคโปร์ กับเกาหลี ที่เขาเจริญพรวดพราดขึ้นมาก็เพราะประชาชนพลเมืองและผู้นำประเทศของเขา รู้จัก “คิดดี-ทำดี” ส่วนประเทศไทยของเรานั้น ไม่ว่าผู้นำในระบอบทักษิณหรือซากเดนก็ “คิดไม่เป็น” สาเหตุทักษิณอธิบายได้ดีที่สุดว่า “รัฐมนตรีของผมนั้นสบายที่สุด ไม่ต้องคิด ไม่ต้องเสนอ เพราะผมคิดไว้ให้หมดแล้ว มีหน้าที่ทำ (ตาม) ลูกเดียว”

ก่อนจะเขียนบทความนี้ ผมต้องคิดหนักเรื่องการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ผมเป็นนักวิชาการอิสระที่เห็นด้วยและสนับสนุนพันธมิตรฯ หลายอย่าง และไม่เห็นด้วยก็หลายอย่างเช่นกัน ผมไม่ต้องการเห็นการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ เป็นสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นจากอัจฉริยะของแกนนำไม่กี่คน ผมเป็นนักเรียนปรัชญาการเมือง และพรรคการเมือง ผมรู้ว่าปรัชญาเมธีที่ยิ่งใหญ่ กว่าจะคิดทฤษฎีของเขาขึ้นมาได้ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปี หรือพรรคการเมืองกว่าจะประกาศนโยบายสำคัญๆ ได้ต้องผ่านกระบวนการนับไม่ถ้วน พระพุทธเจ้าเองกว่าจะตรัสรู้ก็ต้องทรงบำเพ็ญเพียร 6 ปีเต็มๆ

พอดีผมได้รับข้อเขียนจากพันธมิตรฯ ท่านหนึ่ง เรื่อง“คุณเป็นคนไทย ควรอ่าน.... แล้วลองตอบคำถามเหล่านี้ซิครับ?”

ผมเห็นว่าเป็นคำถามที่มีคุณค่ามาก มีความสำคัญและครอบคลุมลดหลั่นกันเป็นข้อๆ มีความยาวมาก แบ่งได้เป็นบทความ 3-4 ตอน และสามารถขยายความขยายผลได้อีก

ผมเห็นว่า ถ้าเรารู้จักตั้งคำถามเป็น เราก็จะได้คำตอบที่ถูกหรือที่ดีครึ่งหนึ่งแล้ว ผมขอนำเสนอคำถามจาก “พันธมิตรฯ คนหนึ่ง” โดยไม่ตัดทอนใดๆ

(การเลือกตั้งในไทย บริสุทธิ์ปราศจากการซื้อเสียง ไม่มีหัวคะแนนไม่มีมือปืนจริงหรือไม่?

การเมืองไทย เป็นประชาธิปไตย 100% จริงหรือไม่?

ประเทศไทย ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน ในทุกชั้นทุกวงการ จริงหรือไม่?

การเมืองไทย ส.ส. ส.ว. นายกเล็ก อบต. อบจ. มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรมเทียบเท่าประเทศอย่าง ญี่ปุ่น อเมริกา หรือแค่ระดับ อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์?

นักการเมืองไทย ไม่เคยมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีการโกงกิน จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย ไม่มีผลประโยชน์ในตลาดหุ้นตลาดทุนไทย ไม่มีเงินฝากในบัญชีไม่เปิดเผยที่ต่างประเทศจริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย มีความฝักใฝ่ในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมสุดลิ่ม หรือระบบเศรษฐกิจพอเพียง?

นักการเมืองไทยเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ มีความรู้จริงๆ ไม่ได้จ้างทำวิทยานิพนธ์หรือซื้อใบประกาศนียบัตรมา จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย เป็นผู้มีแนวคิด หลักการ อุดมการณ์แน่วแน่ มั่นคง ไม่ได้เป็นโสเภณีการเมืองหรือนักธุรกิจการเมือง จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย ไม่เคยแทรกแซงการทำงานของสื่อสารมวลชน ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ศาล องค์กรอิสระ นักวิชาการ จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย มีคำพูดที่น่าเชื่อถือ กล่าวแต่ความสัตย์จริง รักษาสัญญา มีจริยธรรมคุณธรรม ศีล 5 จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย มีความตั้งใจและจริงใจ ที่จะรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ว่าเรื่อง ดินแดน-ทรัพยากร-การรุกคืบของทุนต่างชาติ-FTA- แปรรูปรัฐวิสาหกิจ จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ จริงหรือไม่? (ดั่งที่เห็นในเว็บต่างๆ ที่มีข้อความบทความรูปภาพ มิบังควร)

งบประมาณของชาติ ถูกนำไปใช้อย่างสร้างสรรค์ เป็นธรรมในทุกตำบลทุกจังหวัดและไร้การทุจริต จริงหรือไม่?

การตรวจสอบการทุจริต เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย ยอมรับการสู้คดีและยอมรับคำตัดสินของศาล ไม่เคยหนีคดี ล้มคดี กล้าทำกล้ารับ จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทยไม่ได้มีผลประโยชน์ในธุรกิจใต้ดินผิดกฎหมายไม่ได้เป็นมาเฟียนักเลง กุ๊ย เจ้าพ่อ พ่อเลี้ยงจริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย ไม่ได้ปลุกปั่นจัดจ้างประชาชนหนึ่ง (กลุ่มที่ขาดข้อมูลความรู้) มาเข่นฆ่าประชาชนอีกกลุ่มที่มีความเห็นต่าง จริงหรือไม่?

นักการเมืองไทย ให้ความสนใจจริงใจ ในการแก้ปัญหาหลักๆ ของบ้านเมือง เช่น การศึกษา ที่ดินทำกิน ราคาพืชผล ระบบขนส่ง จริงหรือไม่?

นักการเมืองที่โดนศาลตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เคารพและปฏิบัติตามคำสั่งของศาล จริงหรือไม่?

นักการเมืองที่โดนศาลตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หยุดเล่นการเมือง มีการใช้นอมินีเป็นลูก พ่อ เมีย น้อง พี่ จริงหรือไม่?

ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ คนเลี้ยงหมูเป็ดไก่ ผู้ใช้แรงงาน ร้านค้าโชวห่วย ... มีตัวแทนที่แท้จริง ที่เป็นปากเป็นเสียงของเขา ในสภาผู้แทน จริงหรือไม่?

ตำรวจไทย รับส่วยหรือไม่ รีดไถหรือไม่ ชอบจับแพะหรือไม่ ทำร้ายร่างกายหรือไม่ ยอมเป็นขี้ข้านักการเมืองหรือไม่ ชาวบ้านพึ่งพาได้หรือไม่?

อัยการสูงสุด ข้าราชการระดับสูง มีไปเป็นบอร์ดของบริษัทเอกชนหรือไม่ จะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่?

ข้าราชการไทย มีความสำนึกในหน้าที่ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความกล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้องหรือไม่ ไปดูงานต่างประเทศแล้วนำมาพัฒนา หรือไม่?

สื่อมวลชน โดยเฉพาะทีวี เสนอข่าวสารที่เป็นความรู้และความจริงแค่ไหน เจาะลึกและรอบด้านหรือไม่ หรือเสนอแค่เพียงเปลือกสีสันเท่าทัน?

นักวิชาการ เป็นที่พึ่งทางปัญญาให้กับสังคมได้มากน้อยแค่ไหน ต้องการเพียงชื่อเสียงหรือมีอุดมการณ์แท้จริง และถูกภาคการเมืองบงการหรือไม่?

ส.ว. เป็นตัวแทนของกลุ่มพรรคการเมืองหรือไม่ เป็นผัวเมียลูกหลานของนักการเมืองหรือไม่ สามารถทำหน้าที่ได้จริงหรือไม่?)

ท่านผู้อ่านที่เคารพ เมื่ออ่านคำถามสุดท้าย ผมสันนิษฐาน
ว่า คำถามนี้เขียนขึ้นในวุฒิสภายุคก่อน ดังนั้นยังมีบางคำถามที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย และเหตุการณ์ปัจจุบัน

ฉบับหน้า ผมอยากให้ท่านผู้อ่านช่วยกันตอบ ใครจะเลือกข้อใดก่อน ใครจะตอบอะไรมากกว่ากัน ผมจะคอยดูและสมทบในความคิดเห็นท้ายบทความ ซึ่งตามธรรมดา ผมไม่ค่อยมีเวลาติดตาม ขอบคุณครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น