xs
xsm
sm
md
lg

นักรัฐศาสตร์ชี้ยุบพรรคแค่เปลี่ยนตัวนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักรัฐศาสตร์ชี้เสื้อเหลือง-เสื้อแดงต้องมีความอดทนต่อไป เพราะถือเป็นอาภรณ์ในการอยู่ร่วมกันทางการเมืองหากเกิดนอมินีใหม่ เชื่อยุบพรรคแค่เปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการเมืองไทย เชื่อทั้งสองฝ่ายไม่ยอมถอย

วันนี้ (2 ธ.ค.) รศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเสวนาทางวิชาการปรัชญาการเมือง ในหัวข้อ “ขันติธรรม (Toleration) ว่า ขันติธรรม หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ความทนกันได้ ทั้งความจำเป็นที่จะต้องทน ทนกับความปกติหรือเคยชิน รวมทั้งการทนตามๆ กันไป หากมองในผลที่มีต้อสังคมการเมือง ถือเป็นอาภรณ์ในการอยู่ร่วมกันทางการเมือง ความที่จะทนกันได้ อาจจะทำให้ความแตกต่างทางการเมืองเป็นไปได้ และอาจจะเป็นของจำเป็นในสังคมความหลากหลาย ดังนั้น จะทำอย่างไรให้มีการสร้างพื้นที่ เช่น สร้างพื้นที่ในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้เป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้มีรูปแบบของความหลากหลายเพื่อสังคมการเมือง ซึ่งความอดทนถือเป็นเบื้องต้นที่จะนำไปสู่การเมืองที่เป็นมิตรภาพ หรือสันติภาพ

“ความอดทนที่มีผลต่อสังคมการเมือง เช่น ความทนกันได้ เพื่อกำหนดขอบเขตทางการเมือง หมายความว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคการเมือง ทั้ง 3 พรรคแล้ว และศาลก็ไม่ให้ประธานฝ่ายบริหารอยู่ในตำแหน่งต่อไป เช่น กรณี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อถูกออกจากตำแหน่ง และจะมีลิสต์รายชื่อ นายกรัฐมนตรีคนใหม่เกิดขึ้น เมื่อนั้นจะทำให้เกิดความทนกันได้หรือไม่ จะเป็น นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ หรือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หรือจะเป็นคนคนนั้น (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง) ตรงนี้จะสร้างขอบเขตความทนกันได้ให้กับทั้งคนเสื้อเหลือง เสื้อแดงหรือไม่” อาจารย์รัฐศาสตร์ มธ.กล่าว

รศ.ดร.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ความทนกันได้บางฝ่ายอาจจะบุว่าการที่พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบ เป็นเรื่องที่พอทน แต่เมื่อย้ายไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ความทนกันได้จะมีมากน้อยเพียงใด หรือความทนกันได้ของบางคนก็อาจจะลดน้อยลง ตรงนี้น่าจะต้องหาคำอธิบายว่า ทำไมความทนกันได้ถึงน้อยลง ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ความทนกันได้ก็มีลิมิตของมันเอง เพราะหากถึงจุดหนึ่งความทนไม่ได้ก็อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น ความทนกันได้จึงถือว่า เป็นเงื่อนไขที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ในความคิดเห็นที่แตกต่าง

ดร.จันทนา สุทธิจารี ประธานสาขาวิชาการเมืองและการปกครอง คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงมติยุบพรรคของศาลตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า มติของศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองไทยได้ในขณะนี้ เพราะเมื่อนำจำนวน กรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองหักกับจำนวน ส.ส.ที่เหลืออยู่ก็ยังเกินครึ่ง ซึ่งชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะยังไม่มีการย้ายขั้ว หลังจากนี้ไปก็จะเป็นแค่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เท่านั้นซึ่งก็จะมาจากกลุ่มพลังประชาชนเช่นเดิม และกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ก็ยังคง บริหารสั่งการอยู่เบื้องหลังได้เหมือนเดิม

ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งในสังคมก็จะยังดำเนินต่อไป เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขยายข้อเรียกร้องว่าหากไม่ได้การเมืองใหม่จะไม่เลิกการชุมนุม ขณะที่กลุ่ม นปช.ก็ระดมมวลชนปราศัยที่ลานคนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีการปราศรัยโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักหน่วง

ดร.จันทนา ให้ความเห็นว่า การยุติปัญหาด้วยการทำรัฐประหารเป็นเรื่องยาก เพราะจะมีการต่อต้านที่ซับซ้อนทั้งโดยเปิดเผยและที่ลับ เรื่องนี้ทหารเองก็คงหนักใจ เพราะเงื่อนไขต่างจากพฤษภาทมิฬ แม้กระทั่งเอกภาพในกองทัพก็เป็นเรื่องที่น่าจับตา สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ซึ่งอาจหมายถึงการปะทะกันระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น