จากกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และจะกลับเมืองไทยเมื่อถึงเวลา ส่วนคดีความของตนเกี่ยวกับเรื่องการทุจริต คอร์รัปชั่น ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลนั้น เป็นเรื่องทางการเมืองที่ตนถูกกลั่นแกล้ง ใส่ร้าย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทบกับกระบวนการยุติธรรมไทย โดยพยายามลดความน่าเชื่อถือ ซึ่งตนก็กำลังรอดูว่านายสมชาย จะตอบอย่างไร โดยเฉพาะท่านมาจากกระทรวงยุติธรรม ท่านต้องปกป้องประเทศไทย ปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย ถ้าแสดงอย่างนี้ก็จะช่วยลดความกังวล หรือความระแวงที่คนมีอยู่ ในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ถ้าไม่ทำ ก็จะเป็นปัญหาทำให้คนระแวงต่อไป อันนี้เป็นจุดทดสอบง่ายๆ ที่อยากเห็นท่านแสดงท่าทีตอบโต้ อดีตนายกฯ เพราะท่านต้องเลือกยืนข้างประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นนายกฯ ต้องชี้แจงว่าปัญหาคดีความทั้งหลายของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่จะแก้ด้วยการเมือง คือไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง แต่เป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายกฯ ต้องยืนยันตรงนี้ก่อน และหากไม่มีปฏิกริยาอะไรออกมา ก็เป็นเรื่องยาก ที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติความขัดแย้งในสังคมได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนที่ นายสมชาย จะเป็นนายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ววันนี้เมื่อเป็นนายกฯ จะไม่ตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณหรือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บุญคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ แผ่นดิน และประเทศไทย วันนี้นายสมชายต้องแสดงให้ชัด ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวอย่างในบททดสอบว่า ท่านจะเลือกยืนข้างไหน จึงคาดหวังว่า นายกฯของไทยต้องยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย ไม่ได้มีปัญหา และการดำเนินการทุกอย่าง จะว่าไปตามข้อเท็จจริง
**เตือน"แม้ว"ควรสงบปากสงบคำ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า จะทำอะไรคงต้องขออนุญาตพันธมิตรฯ ก่อนว่า ตนคงไม่สามารถแนะนำพ.ต.ท.ทักษิณได้ แต่เชื่อว่าถ้าคนไทยจำนวนมากสามารถพูดให้พ.ต.ท.ทักษิณได้ยินได้ คงจะพูดเหมือนกันว่า ขอให้สงบปาก สงบคำ สงบบทบาท อยู่เฉยๆ จะช่วยประเทศได้มาก หากยังแสดงความเป็นเจ้าของพรรคพลังประชาชนอยู่ ยังแสดงว่าเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลอยู่ จะทำให้ประชาชนยิ่งรู้สึกว่าระบอบทักษิณ ยังไม่หมดสิ้น และไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และไม่เป็นผลดีต่อนายสมชาย
ส่วนจะต้องยกเลิกพาสปอร์ตการทูตของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่นั้น นายกฯจะต้องทราบว่า จะต้องทำอะไรบ้างที่จะทำให้สถานการณ์ที่กำลังวิกฤติอยู่คลี่คลายลง ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ ปัญหาประชาชน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และความสามัคคีของคนในชาติ เป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องทราบ ว่า จะต้องจัดการกับสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ไม่ควรปล่อยให้เป็นเครื่องมือสร้างความร้าวฉาน ไม่เช่นนั้น จะไม่เกิดความสามัคคีในชาติ
**จี้"สมชาย"พิสูจน์คำปฏิญาณตน
นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ อ้างว่าเรื่องที่ถูกฟ้องคดีต่อศาลมาจากปัญหาการเมือง และถูกใส่ร้ายทางการเมืองว่า ขอยืนยันว่าคตส.ปฏิบัติหน้าที่ เป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริง ไม่มีการกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอ้าง และการดำเนินคดี ก็ไม่ใช่เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่ต้องการต่อต้านพ.ต.ท. ทักษิณทางการเมือง ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยเข้ามาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเรื่องการให้สินบนกับศาลผ่านขนม 2 ล้านบาท ไม่สำเร็จ ก็ทำให้ไม่ยอมสู้คดีต่อ
นายสัก กล่าวว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในกล่าวหากระบวนการยุติธรรมไทยจึงไร้เหตุผล ขาดน้ำหนัก ซึ่งสิ่งที่ยืนยันคือการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ เองที่ใช้กระบวนการยุติธรรมฟ้องคดีแพ่ง และอาญาต่อคตส. และบุคคลอื่นๆ ดังนั้นจะมาอ้างว่ากระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือไม่ได้ เพราะกระบวนการยุติธรรมไทยเป็นหนึ่งใน 3 ของอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งล้วนแต่มีกลไกตรวจสอบถ่วงดุล เช่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ก็สามารถถูกถอดถอนได้ การจะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเพียงเพราะพอใจในคำตัดสิน คงไม่ถูกต้อง
"ขอให้รัฐบาลตอบโต้การพูดของพ.ต.ท.ทักษิณทันที เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างรุนแรง หากรัฐบาลไม่ทำ ก็จะถือว่าเป็นพวกเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นบทพิสูจน์นายกรัฐมนตรีด้วยว่า สิ่งที่ได้ประกาศจะทำตามคำปฏิญาณตน จะเป็นความจริงหรือไม่ โดยขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ก็สามารถดำเนินการได้เลย แม้จะเป็นรัฐมนตรีรักษาการก็ตาม" อดีตโฆษก คตส.กล่าว
**ย้ำความผิดแม้วไม่ใช่เกมการเมือง
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรยอมรับความจริง ควรเคารพกระบวนการยุติธรรม
"จะแก้ปัญหาตัวเองด้วยการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อคุณไม่เคารพกฎหมายประเทศนี้ ฐานะที่เคยเป็นนายกฯ ทั้งโลกจะทำอะไรก็ต้องมาถามพันธมิตรฯ คำพูดนี้ ไม่น่าจะเป็นคำพูดของคนที่เคยเป็นนายกฯ ไม่มีความกล้าหาญที่จะขึ้นศาล ที่มากล่าวหาว่า ทำอะไรจะต้องขออนุญาตจากพันธมิตรฯ ไม่ถูก เพราะเรากำลังตรวจสอบการประวัติการโกง ทุจริต ของคุณทักษิณ และพรรคพวก โดยผ่านกระบวนการยุติธรรม เราทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม คุณทักษิณ เป็นนักการเมือง ที่โกงชาติ ทุจริตชาติ แล้วยังไม่ยอมรับความจริงอีก" นายสมศักดิ์กล่าว
นายพิภพ ธงชัย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อนายสมชาย ขึ้นเป็นนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ส่งสัญญาณทันทีว่า ต้องการใช้การเมืองแก้ไขปัญหาส่วนตัว ซึ่งชี้ชัดว่าการมาดำรงตำแหน่งของนายสมชายนั้น มีนัยยะทางการเมือง ต้องการฟอกความผิดให้กับพี่เขย ดังนั้นนายสมชาย ต้องตอบคำถามตรงนี้ว่า การเข้ารับตำแหน่งนั้น ต้องการช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่
**วัดใจด้วยการถอนพาสปอร์ตแดง
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เพื่อแสดงความจริงใจ ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเครือญาติ นายสมชาย ควรจะดำเนินการถอนพาสสปอร์ตแดงของพ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะหากตัดสินใจไม่ดี ก็จะเป็นปัญหาที่จะนำไปสู่ ความขัดแย้งได้ ซึ่งก็ต้องรอดูในวันที่ 21 ต.ค. หากศาลฎีกาตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดจริง คิดว่าเสียงเรียกร้องของประชาชน ก็จะมากยิ่งขึ้น และจะเป็นการวัดฝีมือของนายกฯ คนใหม่ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร และในเรื่องนี้จะถึงขั้นจะเป็นจุดจบของรัฐบาลหรือไม่ เพราะขณะนี้เมื่อศาลยังไม่พิจารณา ก็ยังพอฟังได้อยู่ ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังมีความชอบธรรมในการที่ยังไม่ถอนพาสปอร์ตแดง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทบกับกระบวนการยุติธรรมไทย โดยพยายามลดความน่าเชื่อถือ ซึ่งตนก็กำลังรอดูว่านายสมชาย จะตอบอย่างไร โดยเฉพาะท่านมาจากกระทรวงยุติธรรม ท่านต้องปกป้องประเทศไทย ปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย ถ้าแสดงอย่างนี้ก็จะช่วยลดความกังวล หรือความระแวงที่คนมีอยู่ ในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ถ้าไม่ทำ ก็จะเป็นปัญหาทำให้คนระแวงต่อไป อันนี้เป็นจุดทดสอบง่ายๆ ที่อยากเห็นท่านแสดงท่าทีตอบโต้ อดีตนายกฯ เพราะท่านต้องเลือกยืนข้างประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นนายกฯ ต้องชี้แจงว่าปัญหาคดีความทั้งหลายของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่จะแก้ด้วยการเมือง คือไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง แต่เป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายกฯ ต้องยืนยันตรงนี้ก่อน และหากไม่มีปฏิกริยาอะไรออกมา ก็เป็นเรื่องยาก ที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติความขัดแย้งในสังคมได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนที่ นายสมชาย จะเป็นนายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ววันนี้เมื่อเป็นนายกฯ จะไม่ตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณหรือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บุญคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ แผ่นดิน และประเทศไทย วันนี้นายสมชายต้องแสดงให้ชัด ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวอย่างในบททดสอบว่า ท่านจะเลือกยืนข้างไหน จึงคาดหวังว่า นายกฯของไทยต้องยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย ไม่ได้มีปัญหา และการดำเนินการทุกอย่าง จะว่าไปตามข้อเท็จจริง
**เตือน"แม้ว"ควรสงบปากสงบคำ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า จะทำอะไรคงต้องขออนุญาตพันธมิตรฯ ก่อนว่า ตนคงไม่สามารถแนะนำพ.ต.ท.ทักษิณได้ แต่เชื่อว่าถ้าคนไทยจำนวนมากสามารถพูดให้พ.ต.ท.ทักษิณได้ยินได้ คงจะพูดเหมือนกันว่า ขอให้สงบปาก สงบคำ สงบบทบาท อยู่เฉยๆ จะช่วยประเทศได้มาก หากยังแสดงความเป็นเจ้าของพรรคพลังประชาชนอยู่ ยังแสดงว่าเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลอยู่ จะทำให้ประชาชนยิ่งรู้สึกว่าระบอบทักษิณ ยังไม่หมดสิ้น และไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และไม่เป็นผลดีต่อนายสมชาย
ส่วนจะต้องยกเลิกพาสปอร์ตการทูตของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่นั้น นายกฯจะต้องทราบว่า จะต้องทำอะไรบ้างที่จะทำให้สถานการณ์ที่กำลังวิกฤติอยู่คลี่คลายลง ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ ปัญหาประชาชน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และความสามัคคีของคนในชาติ เป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องทราบ ว่า จะต้องจัดการกับสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ไม่ควรปล่อยให้เป็นเครื่องมือสร้างความร้าวฉาน ไม่เช่นนั้น จะไม่เกิดความสามัคคีในชาติ
**จี้"สมชาย"พิสูจน์คำปฏิญาณตน
นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ อ้างว่าเรื่องที่ถูกฟ้องคดีต่อศาลมาจากปัญหาการเมือง และถูกใส่ร้ายทางการเมืองว่า ขอยืนยันว่าคตส.ปฏิบัติหน้าที่ เป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริง ไม่มีการกลั่นแกล้งทางการเมืองอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอ้าง และการดำเนินคดี ก็ไม่ใช่เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่ต้องการต่อต้านพ.ต.ท. ทักษิณทางการเมือง ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยเข้ามาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเรื่องการให้สินบนกับศาลผ่านขนม 2 ล้านบาท ไม่สำเร็จ ก็ทำให้ไม่ยอมสู้คดีต่อ
นายสัก กล่าวว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในกล่าวหากระบวนการยุติธรรมไทยจึงไร้เหตุผล ขาดน้ำหนัก ซึ่งสิ่งที่ยืนยันคือการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ เองที่ใช้กระบวนการยุติธรรมฟ้องคดีแพ่ง และอาญาต่อคตส. และบุคคลอื่นๆ ดังนั้นจะมาอ้างว่ากระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือไม่ได้ เพราะกระบวนการยุติธรรมไทยเป็นหนึ่งใน 3 ของอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งล้วนแต่มีกลไกตรวจสอบถ่วงดุล เช่น ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ก็สามารถถูกถอดถอนได้ การจะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเพียงเพราะพอใจในคำตัดสิน คงไม่ถูกต้อง
"ขอให้รัฐบาลตอบโต้การพูดของพ.ต.ท.ทักษิณทันที เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างรุนแรง หากรัฐบาลไม่ทำ ก็จะถือว่าเป็นพวกเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นบทพิสูจน์นายกรัฐมนตรีด้วยว่า สิ่งที่ได้ประกาศจะทำตามคำปฏิญาณตน จะเป็นความจริงหรือไม่ โดยขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ก็สามารถดำเนินการได้เลย แม้จะเป็นรัฐมนตรีรักษาการก็ตาม" อดีตโฆษก คตส.กล่าว
**ย้ำความผิดแม้วไม่ใช่เกมการเมือง
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรยอมรับความจริง ควรเคารพกระบวนการยุติธรรม
"จะแก้ปัญหาตัวเองด้วยการเมืองได้อย่างไร ในเมื่อคุณไม่เคารพกฎหมายประเทศนี้ ฐานะที่เคยเป็นนายกฯ ทั้งโลกจะทำอะไรก็ต้องมาถามพันธมิตรฯ คำพูดนี้ ไม่น่าจะเป็นคำพูดของคนที่เคยเป็นนายกฯ ไม่มีความกล้าหาญที่จะขึ้นศาล ที่มากล่าวหาว่า ทำอะไรจะต้องขออนุญาตจากพันธมิตรฯ ไม่ถูก เพราะเรากำลังตรวจสอบการประวัติการโกง ทุจริต ของคุณทักษิณ และพรรคพวก โดยผ่านกระบวนการยุติธรรม เราทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม คุณทักษิณ เป็นนักการเมือง ที่โกงชาติ ทุจริตชาติ แล้วยังไม่ยอมรับความจริงอีก" นายสมศักดิ์กล่าว
นายพิภพ ธงชัย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า เมื่อนายสมชาย ขึ้นเป็นนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ส่งสัญญาณทันทีว่า ต้องการใช้การเมืองแก้ไขปัญหาส่วนตัว ซึ่งชี้ชัดว่าการมาดำรงตำแหน่งของนายสมชายนั้น มีนัยยะทางการเมือง ต้องการฟอกความผิดให้กับพี่เขย ดังนั้นนายสมชาย ต้องตอบคำถามตรงนี้ว่า การเข้ารับตำแหน่งนั้น ต้องการช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่
**วัดใจด้วยการถอนพาสปอร์ตแดง
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เพื่อแสดงความจริงใจ ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องเครือญาติ นายสมชาย ควรจะดำเนินการถอนพาสสปอร์ตแดงของพ.ต.ท.ทักษิณ ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะหากตัดสินใจไม่ดี ก็จะเป็นปัญหาที่จะนำไปสู่ ความขัดแย้งได้ ซึ่งก็ต้องรอดูในวันที่ 21 ต.ค. หากศาลฎีกาตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ผิดจริง คิดว่าเสียงเรียกร้องของประชาชน ก็จะมากยิ่งขึ้น และจะเป็นการวัดฝีมือของนายกฯ คนใหม่ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร และในเรื่องนี้จะถึงขั้นจะเป็นจุดจบของรัฐบาลหรือไม่ เพราะขณะนี้เมื่อศาลยังไม่พิจารณา ก็ยังพอฟังได้อยู่ ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังมีความชอบธรรมในการที่ยังไม่ถอนพาสปอร์ตแดง