พปช.ไม่แตกแถวเข็น "น้องเขยแม้ว" นั่งนายกฯ สมใจ ภารกิจแรก "สมชาย" บุกขอบใจ "เป๋ คลองเตย" นำม็อบเชียร์หน้าสภา ประกาศอยู่ครบเทอม นัดถกคลัง ผู้เกี่ยวข้องรับมือ "เลห์แมน-เมอริลินซ์" ล้มวันนี้ "ก๊กเพื่อนเนวิน" ออกลายอีก ประกาศดัน "ทรงศักดิ์" นั่ง รมว.คมนาคม พร้อมขอเก้าอี้ รมช.อีก 4 ตำแหน่ง ขู่หากไม่ได้รัฐบาลเกิดปัญหาแน่ พร้อมตีกันนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม เผย "เจ๊แดง-หญิงหน่อย" เปิดศึกส่งคนตัวเองคุมกองทัพ ขณะที่ปลัดฯกลาโหม รับได้ทั้งทหารและพลเรือน แย้ม "อนุพงษ์" เชียร์ "สมชาย" ควบ รมว.กลาโหม "อภิสิทธิ์" แนะผู้นำใหม่แก้โจทย์ความขัดแย้งของคนในชาติ ใช้การกระทำพิสูจน์ข้อครหาเครือญาติ "ทักษิณ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 วานนี้ (17 ก.ย.) เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อถึงวาระเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ค้างการพิจารณาเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เสนอชื่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยมีสมาชิกรับรอง 281 คน โดยที่ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อบุคคลอื่น
อย่างไรก็ตามการประชุมเพื่อวันที่ 5 ก.ย.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีค้างไว้ ประธานที่ประชุมจึงได้ดำเนินการเพื่อลงคะแนนคัดเลือก โดยใช้วิธีให้สมาชิกขานชื่อเรียงตามตัวอักษร
การลงมติด้วยการขานชื่อเป็นไปตามคาดหมายโดยสมาชิกพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค ประกอบด้วยพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคประชาราช ต่างสนับสนุนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขณะที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็โหวตหนุนนายอภิสิทธิ์
แต่เมื่อมาถึงชื่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปรากฎว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยนายอดุลย์ ไชยธนวงศ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าได้รับการประสานกับทีมงานของนายสมัครว่ากำลังเดินทางมายังสภาฯ ซึ่งการลงคะแนนดำเนินไปจนถึงเวลา 10.30 น. นายชัย ได้ประกาศผลการลงคะแนนว่า นายสมชาย ได้ 298 คะแนน นายอภิสิทธิ์ได้ 163 คะแนน มีสมาชิกงดออกเสียง 5 คน คือนายชัย ชิดชอบ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯ นายอภิสิทธิ์ และนายสมชาย ทำให้นายสมชาย ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
หลังทราบผล นายสมชาย ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกที่มาร่วมประชุม และไว้วางใจสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จากนั้นนายชัย ได้สั่งพักการประชุม ขณะที่นายสมชาย ได้เดินไปทักทายนายอภิสิทธิ์ พร้อมกล่าวขอบคุณ ขณะที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ต่างทยอยเข้าไปแสดงความยินดีอย่างคึกคัก
อย่างไรก็ตาม นายสมัคร สุนทรเวช ได้เดินทางมาร่วมประชมสภาในเวลา 10.45 น. โดยไม่ได้ลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้อารมณ์ดีไม่มีอะไร ที่ผ่านมาไปเที่ยวมาก็สนุกดี เมื่อถามว่า จะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต่อไปหรือไม่ นายสมัครปฏิเสธที่จะตอบคำถามและเดินขึ้นรถไปโดยทันที
ภารกิจแรกขอบคุณ"เป๋ คลองเตย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายสมชาย ได้เดินออกไปขอบคุณ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายณรงค์ศักดิ์ มณี หรือ "เป๋ คลองเตย" ที่มาชุมนุมสนับสนุนที่หน้ารัฐสภา
นายสมชาย กล่าวว่า ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ และต้องขอโทษที่ไม่สามารถเดินไปทักทายได้ทั่วถึง เพราะบรรยากาศหนาแน่น แต่นี่คือกำลังใจที่ดีที่สุด และขอสัญญาว่าจะทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ และที่สำคัญต้องขอขอบคุณ"เป๋ คลองเตย" ที่ได้พาประชาชนมาให้กำลังใจตนในวันนี้
หลังจากกลุ่ม นปช. มอบดอกไม้และตะโกนให้กำลังใจนายสมชายแล้ว แกนนำกลุ่ม นปช.ประกาศว่า ขอให้ผู้ชุมนุมไปเจอกันในการประชุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่ท้องสนามหลวง เพื่อปราบกบฏที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล จากนั้น กลุ่มนปช.ได้แยกย้ายเดินทางกลับทันที
"สมชาย"ประกาศขออยู่ครบเทอม
จากนั้นนายสมชาย ให้สัมภาษณ์ว่า เป้าหมายหลักในการเป็นนายกรัฐมนตรีคือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องที่ประชาชนประสบอุทกภัย ซึ่งได้สั่งการไปแล้วในการประชุม ครม. นอกจากที่ต้องดูเรื่องใหม่ที่เข้ามาคือภาวะความปั่นป่วนทางด้านเศรษฐกิจ หลังบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ และ บริษัท เมอริลินซ์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ในสหรัฐที่ลงทุนในต่างประเทศและมาลงทุนในไทยค่อนข้างเยอะ ประสบปัญหา ซึ่งตนจะเชิญ กระทรวงการคลังและตัวแทนบริษัทเหล่านี้มาหารือกันว่าจะมีแนวทาง แก้ไขอย่างไร เพราะเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ทั้งนี้ขั้นตอนต่างจะรอขั้นตอนของพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าประธานสภาฯ กำลังเตรียมที่จะนำรายชื่อตนขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ โดยจะมีการจัดสถานที่รับพระบรมราชโอการฯที่บ้านตนเอง เพราะจัดที่ทำเนียบรัฐบาลคงไม่สะดวก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งใจว่าครม.ชุดนี้จะอยู่ครบเทอมหรือเฉพาะกิจ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย เทอมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มี 4 ปี นี่ก็ผ่านไปประมาณ 8 เดือนแล้วก็คงเอาไปลบออก สำหรับการฟร์อม ครม.ขณะนี้ยังไม่มีการจัดเพราะต้องรอโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีก่อน
ท่องคาคาสร้างความปรองดอง
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ประเทศไทยเราถึงเวลา ที่ต้องมาปรองดองกันแล้ว ที่ผ่านมามีความขัดแย้งกันมากพอแล้ว สำหรับตนไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดใครเพราะถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราต้องช่วยกันให้ประเทศเกิดความสงบสุขและน่าอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาทางการเมืองจะบั่นทอนเสถียรภาพของการเมืองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ความจริงตนก็มีความคิดที่จะแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่ตนยังพูดอะไรไม่ได้ต้องรอให้ขั้นตอนทุกอย่างจบก่อน เมื่อถามว่า วันนี้นายสมัครเดินทางมา สภาด้วยได้พบกันบ้างหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ความจริงนายสมัคร ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่เรานับถือ ซึ่งจากนี้ไปตนก็คงต้องไปขอคำแนะนำจากท่าน เมื่อถามว่า หลังจากได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะไปจับมือพูดคุยกับฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนยินดีที่จะรับคำแนะนำจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายไหน พร้อมรับฟังคำแนะนำทุกอย่าง
"สมชาย"เตรียมบ้านรับโปรดเกล้าฯ
ด้านนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นาย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าทูลเกล้าฯถวายรายชื่อบุคคลที่สภามีมติให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ต่อไป
สำหรับบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 222/92 หมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี
นายสมชาย กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 10.00 น. จะไปกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับประเทศกัมพูชา จากนั้นจะไปกระทรวงการคลัง เพื่อดูสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ หลัง บริษัท เลแมน บราเธอร์ และ บริษัท เมอริลินซ์ จำกัด มีปัญหา ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้านเรา รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ ตลาดทุนจะเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วมีข้อมูลแต่หากตนเข้าไปช่วยขับเคลื่อนก็จะสามารถเดินหน้าไปได้
นายสมชาย กล่าวว่าเรื่องเศรษฐกิจอยากดูแลให้มากๆ เพราะสมัยนี้คบกันที่เศรษฐกิจ มีความจำเป็นถ้ามัวมาผิดใจกันเศรษฐกิจอ่อนแอเรื่อยๆ มันจะส่งผลให้ผ่อนส่งระยะยาว ต้องเร่งดำเนินการดูคนเก่งๆ เข้ามาช่วย เพราะตนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ส่วนในช่วงบ่ายจะกลับเข้าบ้านเพื่อเตรียมพิธี
"ก๊กเนวิน"ตีกัน"สมชาย"ควบรมว.กห.
ผู้สื่อข่าวรายงานทันที่มีลงมติเลือกนยกรัฐมนตรีเสร็จ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน นำโดย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคม นายธีระชัย แสนแก้ว รักษาการ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพงศกร อรรณนพพร รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยส.ส.ในกลุ่ม อาทิ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านก้ามปู ย่านสะพานผ่านฟ้า
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่าโควต้ารัฐมนตรียังไม่ได้หารือกัน ปล่อยให้นายสมชาย เป็นผู้ตัดสินใจเอง
ด้านนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลธานี พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า หากโควตารัฐมนตรีเป็นไปตามสัดส่วน 12 ต่อ1 กลุ่มเรามี ส.ส.73 คน ก็จะมีรัฐมนตรีถึง 6 ตำแหน่ง ส่วนจะแบ่งอะไรยังไงต้องหารือกันอีกครั้ง โดยจะให้นายสมชาย เป็นผู้ตัดสินใจเอง
อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มจะได้โควต้า รัฐมนตรี 5 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งเดิม 4 คนจะยังไม่เปลี่ยน เพราะไม่มีเหตุผลในการปรับเปลี่ยน แต่หากปรับเปลี่ยนก็จะทำให้เกิดปัญหาทั้งการทำงานและปัญหาภายในพรรคจะมีการทะเลาะกันอีก ส่วนรัฐมนตรีว่าการ 1 คน ที่ทางกลุ่มจะได้นั้นไม่จำเป็นจะต้องได้กระทรวงเกรดเอ เป็นกระทรวงอะไรก็ได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสุปคงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง
ดัน"ทรงศักดิ์"นั่งรมว.คมนาคม
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่าความเห็นส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์เวลานี้ไม่เหมาะหากนายกรัฐมนตรีควบรมว.กลาโหม เพราะเรื่องม็อบไม่มีอะไรแล้วปล่อยไปเดี๋ยวก็ตายเอง รวมทั้งยังมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ดูแลเรื่องนี้อยู่ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยตำแหน่งรมว.กลาโหม ต้องเป็นคนในพรรคและอดีตนายทหารเท่านั้น
"โควตารัฐมนตรีในกลุ่มจะพิจารณาจากหลายอย่างประกอบกัน ไม่ใช่เรื่อง อาวุโสอย่างเดียว แต่เท่าที่คุยอาจมีการผลักดันนายทรงศักดิ์ ขึ้นเป็นรมว.คมนาคม ส่วนนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน อาจได้เป็น รมช.ศึกษาธิกานร ในส่วนของที่เหลือจะปรับใครเข้าหรือออกจากตำแหน่งยังต้องมีการหารือกันอีกครั้ง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในพรรคพลังประชาชนมีอดีตนายทหารระดับสูง อยู่ในพรรค 3คน คือ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีตผบ.สูงสุด. พล.อ.อุดมชัย องคสิงห์ อดีต แม่ทัพภาคที่ 3 และพล.อ.ขวัญชาติ กล้าหาญ อดีตแม่ทัพภาค4
เย้ย"อีสานพัฒนา"ให้ได้เป็นรมต.
ด้านนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน ได้ฝากสื่อมวลชน ไปถึงส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนาที่คาดการณ์ว่าในรัฐบาลหน้าจะได้โควตาอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง โดยนายวิเชียรกล่าวทำนองประชดประชัน ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนาว่า "ขอให้นายปรีชา(เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย) นายไพจิต(ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม) นายศักดา(คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด) เพื่อนรัก ได้เป็นรัฐมนตรี ที่พูดนี่ผมจริงใจพูด"
ปูดผบ.ทบ.หนุน"สมชาย"นั่งรมว.กห.
พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าตำแหน่ง รมว.กลาโหม คงไม่มีเงื่อนไขว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ที่ผ่านมานายสมัคร สุนทรเวช นั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหมก็เป็นที่ยอมรับของกองทัพ แต่ได้ยินว่า พล.อ.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. และ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุดเหมาะหรือไม่ พล.อ.วินัย กล่าวว่าได้ทั้งนั้น เพราะทหารผู้ใหญ่เหล่านั้นเป็นที่ยอมรับนับถือจากกองทัพ ถ้าได้รับการทาบทาม ให้มาทำหน้าที่นี้ เป็นเรื่องที่ฝ่ายทหารเองก็ยินดี แต่ถ้านายกรัฐมนตรีควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม พวกเราก็คงไม่ขัดข้องและท่านก็สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายทหารได้ เหมือนกับนายสมัคร
"2ก๊ก"แย้งส่งคนนั่งรมว.กลาโหม
มีรายงานข่าวว่า สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหมนั้น ขณะนี้เกิดรายการ แย่งชิงเก้าอี้กันของแกนนำ 2 กลุ่มในพรรคพลังประชาชน โดยนางเยาวภา วงศ์สวันดิ์ ภรรยานายสมชาย เตรียมผลักดัน พล.อ.อุดมชัย องคสิงห์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 และ เป็น เลขานุการ รมว.กลาโหม ช่วงที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ซึ่งมีความสนิทสนมกัน ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำกลุ่ม กทม.สนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ให้เป็น รมว.กลาโหม
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก เพราะเป็นนายทหารเสือราชินีมาด้วยกันและอุ้มชูกันมาตลอด นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตค ยังเป็นประธานเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) รุ่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.วินัย ภัทยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สถิรพันธ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. ด้วย
พปช.นัดถกด่วนแบ่งเค้กรมต.
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรมว. ยุติธรรม กล่าวถึงความชัดเจนในการจัดวางตำแหน่งรัฐมนตรีหลังนายสมชาย ได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ก็จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด และได้แจ้งพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ส่วนรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชาชน มีความเป็นไปได้ที่จะได้คนหน้าเดิม
ทั้งนี้ในเวลา 13.00 น. วันเดียวกันนี้ พรรคพลังประชาชนได้เรียกประชุมส.ส.เป็นการด่วน เพื่อพูดคุยถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรโดยจะรีบจัดสรร ครม.ของรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด ส่วนที่พรรคชาติไทยบอกว่าจะส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ได้ภายใน 3 วัน พรรคพลังประชาชนอาจจะใช้เวลาแค่ 2 วันก็ได้
"เสนาะ"ยันให้เมียนั่งรมว.แรงงาน
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ภายหลังการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลคงมีการหารือกันอีกครั้งถึงการจัดสรรตำแหน่งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีพรรคพลังประชาชน เป็นแกนนำ ทั้งนี้คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ก็จะสามารถตั้งรัฐบาลได้ โดยในส่วนของ พรรคประชาราชคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร นางอุไรวรรณ เทียนทอง คงจะได้เป็น รมว.แรงงาน เหมือนเดิม ส่วนการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมชาย นั้น น ไม่น่ามีปัญหาในการทำงาน เพราะเป็นคนมีบุคคลิกอ่อนโยนและประนีประนอม แต่ติดที่เป็นเครือญาติของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อสังคมจับตามอง นายสมชายจะระวังตัวมากยิ่งขึ้นและจะนำบทเรียนในอดีตมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติและบริหารงาน
"อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดเล่นการเมืองและหันหน้าเข้าหากัน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประเทศชาติเป็นหลัก และยึดถือแนวทาง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแนวทางปฏิบัติแก้ปัญหาของประเทศชาติ ไม่มีแนวคิดเรื่องของการแก้ไข รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมาหารือกันอีกครั้ง"
"เติ้ง"แนะวิธีบริหารงานให้"สมชาย"
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องแนะนำนายสมชายให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่เห็นว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีลักษณะเป็นผู้ประสานงานกับทุกฝ่ายได้ดีเพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และอยากให้เร่งดู ปัญหาน้ำท่วมเพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ส.ส.พรรคชาติไทย ช่วงเช้า ก่อนการลงมติ นายบรรหาร ได้เล่าถึงบรรยากาศการหารือระหว่าง 6 พรรคร่วมรัฐบาล ที่โรงแรม เจดับบลิวแมริออต เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ย.ว่า นายบรรหาร ได้แนะนำ นายสมชายว่าการบริหารงานให้ทุกฝ่ายสบายใจนั้น อย่าไปกำหนดกฎเกณฑ์ หรือระบุระยะเวลาในการแต่งตั้งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการโปรดเกล้าฯเพราะจะเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ และอย่าทำให้รู้สึกว่าเป็นรัฐบาลนอมินี โดยเฉพาะการวางตัวเกี่ยวกับเรื่อง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งแม้เป็นเครือญาติ แต่ควรปล่อยให้ทุกอย่าง เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าแทรกแซง
ส่วนปัญหาการยึดทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้แนะนำไปว่า นายสมชายควรจะไปหารือกับแกนนำพันธมิตรฯ แม้ครั้งแรกไม่สำเร็จ ก็ควรที่จะพยายามไปเจรจาต่อเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากทำเนียบฯ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของนายกฯ
"มาร์ค"ชี้โจทย์ใหญ่คือแก้ความขัดแย้ง
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านายสมชาย กับตนได้พูดคุยกัน ซึ่งตนก็ได้แสดงความยินดี ส่วนนายสมชายระบุว่า ยังต้องร่วมงานกันในฐานะเป็นส.ส.ในสภาฯ กันต่อไป หากจะคลี่คลายวิกฤติได้ ก็ต้องช่วยกัน ทั้งนี้ ก็ต้องให้เวลานายสมชายได้สรรหา ครม. ชุดใหม่ แต่ต้องชัดเจนว่าจะใช้แนวทางไหน ในการบริหารบ้านเมืองให้ออกจากวิกฤติ ซึ่งเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่สุด และอยากให้ นายสมชายมีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน
"โจทย์สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองพ้นความขัดแย้งให้ได้ และการจะทำได้ต้องมีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงที่นายสมชายต้องตอบให้ชัดว่าสัญญาณนั้นคืออะไร และหากเป็นไปในทางที่ดีเชื่อว่าสังคมคงต้องช่วยกันหาทางออก ซึ่งฝ่ายค้าน พร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหากทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราร่วมมือแน่นอน"
ส่วนหน้าตาของครม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก แต่สิ่งสำคัญหว่าคือการเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อความขัดแย้งในสังคมว่าจะมีทางออกอย่างไร เพราะถ้าตรงนี้ยังแก้ไม่ได้ก็ยังมีความน่ากังวลว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยก็จะเหมือนอยู่กับที่ต่อไปอีก และสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ไปคิดว่าอยู่ที่รัฐบาลใหม่ว่าจะสามารถประกาศความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ไม่เหมือนรัฐบาลที่พึ่งพ้นไปว่ามีอะไรบ้าง เราก็มีความหวังแต่หากคิดในกรอบเดิม ว่าสิ่งที่ทำมาจะทำต่อไปสภาพบ้านเมืองก็คงไม่เปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ใหม่ควรจะเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อให้ยุติการ ชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรให้เวลานายสมชายพิจารณาดูว่าจะใช้แนวทางใด และถ้าจะไปพูดคุยก็ต้องมีประเด็นว่าจะคุยกันอย่างไร ถ้าเห็นถึงปัญหาของสาเหตุการชุมนุมเรียกร้อง และนายสมชายแสดงออกอย่างไรว่าเห็นว่า สามารถแก้ไขปัญหาหรือลดเงื่อนไขเหล่านั้นได้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
อย่างไรก็ตามเราไปบอกไม่ได้ว่าคู่กรณีจะมีการเจรจาอย่างไรเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องกำหนดท่าทีก่อน แต่สำหรับประชาชนทั่วไป หากสามารถคลี่คลายได้ก็เหมาะสมทั้งนั้น และการเจรจาก็เป็นทางเลือกหนึ่งแต่อาจทำได้ยาก
แนะพรรคร่วมสนใจการทุจริต"เจ๊แดง"
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่พรรครัฐบาลไม่สนใจต่อคดีเกี่ยวกับการทุจริตของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของนายสมชาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องต่างๆ ที่มีข้อติติงกันอยู่ก็อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลรับฟัง และเป็นหน้าที่ของพวกตน ในการตรวจสอบให้เข้มข้น และเราหวังว่าท่านจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของรัฐบาลชุดที่แล้วว่า ถ้ารัฐบาลกร้าว และไม่รับฟัง หรือไม่สนใจต่อคำติติงเลยก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง แต่หากรัฐบาลใช้แนวทางการรับฟังก็น่าจะช่วยได้พอสมควร
"สิ่งที่สังคมอยากเห็นคือรัฐบาลชุดใหม่ได้ไปทบทวนที่มาของปัญหาในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาว่าสาเหตุของความขัดแย้งของวิกฤติมาถึงจุดไหนและต้องคลี่คลายไม่ให้ถึงจุดนั้น จึงอยากให้เวลาท่านไปดูว่าสิ่งที่เคยมีการพูดไว้ในสภานี้ หรือข้อท้วงติงต่างๆ ที่ปรากฎในสังคมมีอะไรบ้าง ถ้าสามารถจัดเป็นประเด็น และตอบคำถามของสังคมได้ว่าจะคลี่คลายอย่างไร ก็จะมีโอกาส แต่ถ้าท่านเมินเฉย ก็น่าเป็นกังวลว่าสังคม การเมือง และเศรษฐกิจก็จะอยู่กับที่"
ส่วนที่นายสมชาย เป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสมชายต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าจะไม่เป็นอย่างที่คนกังวล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 วานนี้ (17 ก.ย.) เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อถึงวาระเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ค้างการพิจารณาเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เสนอชื่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยมีสมาชิกรับรอง 281 คน โดยที่ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อบุคคลอื่น
อย่างไรก็ตามการประชุมเพื่อวันที่ 5 ก.ย.นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีค้างไว้ ประธานที่ประชุมจึงได้ดำเนินการเพื่อลงคะแนนคัดเลือก โดยใช้วิธีให้สมาชิกขานชื่อเรียงตามตัวอักษร
การลงมติด้วยการขานชื่อเป็นไปตามคาดหมายโดยสมาชิกพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค ประกอบด้วยพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคประชาราช ต่างสนับสนุนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขณะที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็โหวตหนุนนายอภิสิทธิ์
แต่เมื่อมาถึงชื่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปรากฎว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยนายอดุลย์ ไชยธนวงศ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าได้รับการประสานกับทีมงานของนายสมัครว่ากำลังเดินทางมายังสภาฯ ซึ่งการลงคะแนนดำเนินไปจนถึงเวลา 10.30 น. นายชัย ได้ประกาศผลการลงคะแนนว่า นายสมชาย ได้ 298 คะแนน นายอภิสิทธิ์ได้ 163 คะแนน มีสมาชิกงดออกเสียง 5 คน คือนายชัย ชิดชอบ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯ นายอภิสิทธิ์ และนายสมชาย ทำให้นายสมชาย ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
หลังทราบผล นายสมชาย ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณสมาชิกที่มาร่วมประชุม และไว้วางใจสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จากนั้นนายชัย ได้สั่งพักการประชุม ขณะที่นายสมชาย ได้เดินไปทักทายนายอภิสิทธิ์ พร้อมกล่าวขอบคุณ ขณะที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ต่างทยอยเข้าไปแสดงความยินดีอย่างคึกคัก
อย่างไรก็ตาม นายสมัคร สุนทรเวช ได้เดินทางมาร่วมประชมสภาในเวลา 10.45 น. โดยไม่ได้ลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้อารมณ์ดีไม่มีอะไร ที่ผ่านมาไปเที่ยวมาก็สนุกดี เมื่อถามว่า จะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต่อไปหรือไม่ นายสมัครปฏิเสธที่จะตอบคำถามและเดินขึ้นรถไปโดยทันที
ภารกิจแรกขอบคุณ"เป๋ คลองเตย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายสมชาย ได้เดินออกไปขอบคุณ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายณรงค์ศักดิ์ มณี หรือ "เป๋ คลองเตย" ที่มาชุมนุมสนับสนุนที่หน้ารัฐสภา
นายสมชาย กล่าวว่า ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ และต้องขอโทษที่ไม่สามารถเดินไปทักทายได้ทั่วถึง เพราะบรรยากาศหนาแน่น แต่นี่คือกำลังใจที่ดีที่สุด และขอสัญญาว่าจะทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ และที่สำคัญต้องขอขอบคุณ"เป๋ คลองเตย" ที่ได้พาประชาชนมาให้กำลังใจตนในวันนี้
หลังจากกลุ่ม นปช. มอบดอกไม้และตะโกนให้กำลังใจนายสมชายแล้ว แกนนำกลุ่ม นปช.ประกาศว่า ขอให้ผู้ชุมนุมไปเจอกันในการประชุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่ท้องสนามหลวง เพื่อปราบกบฏที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล จากนั้น กลุ่มนปช.ได้แยกย้ายเดินทางกลับทันที
"สมชาย"ประกาศขออยู่ครบเทอม
จากนั้นนายสมชาย ให้สัมภาษณ์ว่า เป้าหมายหลักในการเป็นนายกรัฐมนตรีคือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องที่ประชาชนประสบอุทกภัย ซึ่งได้สั่งการไปแล้วในการประชุม ครม. นอกจากที่ต้องดูเรื่องใหม่ที่เข้ามาคือภาวะความปั่นป่วนทางด้านเศรษฐกิจ หลังบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ และ บริษัท เมอริลินซ์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ในสหรัฐที่ลงทุนในต่างประเทศและมาลงทุนในไทยค่อนข้างเยอะ ประสบปัญหา ซึ่งตนจะเชิญ กระทรวงการคลังและตัวแทนบริษัทเหล่านี้มาหารือกันว่าจะมีแนวทาง แก้ไขอย่างไร เพราะเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ทั้งนี้ขั้นตอนต่างจะรอขั้นตอนของพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งขณะนี้ทราบว่าประธานสภาฯ กำลังเตรียมที่จะนำรายชื่อตนขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ โดยจะมีการจัดสถานที่รับพระบรมราชโอการฯที่บ้านตนเอง เพราะจัดที่ทำเนียบรัฐบาลคงไม่สะดวก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งใจว่าครม.ชุดนี้จะอยู่ครบเทอมหรือเฉพาะกิจ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นไปตามกฎหมาย เทอมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มี 4 ปี นี่ก็ผ่านไปประมาณ 8 เดือนแล้วก็คงเอาไปลบออก สำหรับการฟร์อม ครม.ขณะนี้ยังไม่มีการจัดเพราะต้องรอโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีก่อน
ท่องคาคาสร้างความปรองดอง
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ประเทศไทยเราถึงเวลา ที่ต้องมาปรองดองกันแล้ว ที่ผ่านมามีความขัดแย้งกันมากพอแล้ว สำหรับตนไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดใครเพราะถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราต้องช่วยกันให้ประเทศเกิดความสงบสุขและน่าอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาทางการเมืองจะบั่นทอนเสถียรภาพของการเมืองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ความจริงตนก็มีความคิดที่จะแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่ตนยังพูดอะไรไม่ได้ต้องรอให้ขั้นตอนทุกอย่างจบก่อน เมื่อถามว่า วันนี้นายสมัครเดินทางมา สภาด้วยได้พบกันบ้างหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ความจริงนายสมัคร ก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่เรานับถือ ซึ่งจากนี้ไปตนก็คงต้องไปขอคำแนะนำจากท่าน เมื่อถามว่า หลังจากได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะไปจับมือพูดคุยกับฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนยินดีที่จะรับคำแนะนำจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายไหน พร้อมรับฟังคำแนะนำทุกอย่าง
"สมชาย"เตรียมบ้านรับโปรดเกล้าฯ
ด้านนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นาย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าทูลเกล้าฯถวายรายชื่อบุคคลที่สภามีมติให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ต่อไป
สำหรับบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 222/92 หมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี
นายสมชาย กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 10.00 น. จะไปกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับประเทศกัมพูชา จากนั้นจะไปกระทรวงการคลัง เพื่อดูสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ หลัง บริษัท เลแมน บราเธอร์ และ บริษัท เมอริลินซ์ จำกัด มีปัญหา ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้านเรา รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ ตลาดทุนจะเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วมีข้อมูลแต่หากตนเข้าไปช่วยขับเคลื่อนก็จะสามารถเดินหน้าไปได้
นายสมชาย กล่าวว่าเรื่องเศรษฐกิจอยากดูแลให้มากๆ เพราะสมัยนี้คบกันที่เศรษฐกิจ มีความจำเป็นถ้ามัวมาผิดใจกันเศรษฐกิจอ่อนแอเรื่อยๆ มันจะส่งผลให้ผ่อนส่งระยะยาว ต้องเร่งดำเนินการดูคนเก่งๆ เข้ามาช่วย เพราะตนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ส่วนในช่วงบ่ายจะกลับเข้าบ้านเพื่อเตรียมพิธี
"ก๊กเนวิน"ตีกัน"สมชาย"ควบรมว.กห.
ผู้สื่อข่าวรายงานทันที่มีลงมติเลือกนยกรัฐมนตรีเสร็จ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน นำโดย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคม นายธีระชัย แสนแก้ว รักษาการ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพงศกร อรรณนพพร รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยส.ส.ในกลุ่ม อาทิ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี เดินทางไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านก้ามปู ย่านสะพานผ่านฟ้า
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่าโควต้ารัฐมนตรียังไม่ได้หารือกัน ปล่อยให้นายสมชาย เป็นผู้ตัดสินใจเอง
ด้านนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลธานี พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า หากโควตารัฐมนตรีเป็นไปตามสัดส่วน 12 ต่อ1 กลุ่มเรามี ส.ส.73 คน ก็จะมีรัฐมนตรีถึง 6 ตำแหน่ง ส่วนจะแบ่งอะไรยังไงต้องหารือกันอีกครั้ง โดยจะให้นายสมชาย เป็นผู้ตัดสินใจเอง
อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มจะได้โควต้า รัฐมนตรี 5 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งเดิม 4 คนจะยังไม่เปลี่ยน เพราะไม่มีเหตุผลในการปรับเปลี่ยน แต่หากปรับเปลี่ยนก็จะทำให้เกิดปัญหาทั้งการทำงานและปัญหาภายในพรรคจะมีการทะเลาะกันอีก ส่วนรัฐมนตรีว่าการ 1 คน ที่ทางกลุ่มจะได้นั้นไม่จำเป็นจะต้องได้กระทรวงเกรดเอ เป็นกระทรวงอะไรก็ได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสุปคงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง
ดัน"ทรงศักดิ์"นั่งรมว.คมนาคม
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่าความเห็นส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์เวลานี้ไม่เหมาะหากนายกรัฐมนตรีควบรมว.กลาโหม เพราะเรื่องม็อบไม่มีอะไรแล้วปล่อยไปเดี๋ยวก็ตายเอง รวมทั้งยังมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ดูแลเรื่องนี้อยู่ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยตำแหน่งรมว.กลาโหม ต้องเป็นคนในพรรคและอดีตนายทหารเท่านั้น
"โควตารัฐมนตรีในกลุ่มจะพิจารณาจากหลายอย่างประกอบกัน ไม่ใช่เรื่อง อาวุโสอย่างเดียว แต่เท่าที่คุยอาจมีการผลักดันนายทรงศักดิ์ ขึ้นเป็นรมว.คมนาคม ส่วนนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน อาจได้เป็น รมช.ศึกษาธิกานร ในส่วนของที่เหลือจะปรับใครเข้าหรือออกจากตำแหน่งยังต้องมีการหารือกันอีกครั้ง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในพรรคพลังประชาชนมีอดีตนายทหารระดับสูง อยู่ในพรรค 3คน คือ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีตผบ.สูงสุด. พล.อ.อุดมชัย องคสิงห์ อดีต แม่ทัพภาคที่ 3 และพล.อ.ขวัญชาติ กล้าหาญ อดีตแม่ทัพภาค4
เย้ย"อีสานพัฒนา"ให้ได้เป็นรมต.
ด้านนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน ได้ฝากสื่อมวลชน ไปถึงส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนาที่คาดการณ์ว่าในรัฐบาลหน้าจะได้โควตาอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง โดยนายวิเชียรกล่าวทำนองประชดประชัน ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนาว่า "ขอให้นายปรีชา(เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย) นายไพจิต(ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม) นายศักดา(คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด) เพื่อนรัก ได้เป็นรัฐมนตรี ที่พูดนี่ผมจริงใจพูด"
ปูดผบ.ทบ.หนุน"สมชาย"นั่งรมว.กห.
พล.อ. วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าตำแหน่ง รมว.กลาโหม คงไม่มีเงื่อนไขว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ที่ผ่านมานายสมัคร สุนทรเวช นั่งควบเก้าอี้ รมว.กลาโหมก็เป็นที่ยอมรับของกองทัพ แต่ได้ยินว่า พล.อ.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.สนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. และ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุดเหมาะหรือไม่ พล.อ.วินัย กล่าวว่าได้ทั้งนั้น เพราะทหารผู้ใหญ่เหล่านั้นเป็นที่ยอมรับนับถือจากกองทัพ ถ้าได้รับการทาบทาม ให้มาทำหน้าที่นี้ เป็นเรื่องที่ฝ่ายทหารเองก็ยินดี แต่ถ้านายกรัฐมนตรีควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม พวกเราก็คงไม่ขัดข้องและท่านก็สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายทหารได้ เหมือนกับนายสมัคร
"2ก๊ก"แย้งส่งคนนั่งรมว.กลาโหม
มีรายงานข่าวว่า สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหมนั้น ขณะนี้เกิดรายการ แย่งชิงเก้าอี้กันของแกนนำ 2 กลุ่มในพรรคพลังประชาชน โดยนางเยาวภา วงศ์สวันดิ์ ภรรยานายสมชาย เตรียมผลักดัน พล.อ.อุดมชัย องคสิงห์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 และ เป็น เลขานุการ รมว.กลาโหม ช่วงที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ซึ่งมีความสนิทสนมกัน ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำกลุ่ม กทม.สนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ให้เป็น รมว.กลาโหม
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก เพราะเป็นนายทหารเสือราชินีมาด้วยกันและอุ้มชูกันมาตลอด นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตค ยังเป็นประธานเตรียมทหารรุ่น 6 (ตท.6) รุ่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.วินัย ภัทยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สถิรพันธ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. ด้วย
พปช.นัดถกด่วนแบ่งเค้กรมต.
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรมว. ยุติธรรม กล่าวถึงความชัดเจนในการจัดวางตำแหน่งรัฐมนตรีหลังนายสมชาย ได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ก็จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด และได้แจ้งพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ส่วนรัฐมนตรีในส่วนของพรรคพลังประชาชน มีความเป็นไปได้ที่จะได้คนหน้าเดิม
ทั้งนี้ในเวลา 13.00 น. วันเดียวกันนี้ พรรคพลังประชาชนได้เรียกประชุมส.ส.เป็นการด่วน เพื่อพูดคุยถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรโดยจะรีบจัดสรร ครม.ของรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด ส่วนที่พรรคชาติไทยบอกว่าจะส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ได้ภายใน 3 วัน พรรคพลังประชาชนอาจจะใช้เวลาแค่ 2 วันก็ได้
"เสนาะ"ยันให้เมียนั่งรมว.แรงงาน
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ภายหลังการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคร่วมรัฐบาลคงมีการหารือกันอีกครั้งถึงการจัดสรรตำแหน่งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีพรรคพลังประชาชน เป็นแกนนำ ทั้งนี้คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ก็จะสามารถตั้งรัฐบาลได้ โดยในส่วนของ พรรคประชาราชคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร นางอุไรวรรณ เทียนทอง คงจะได้เป็น รมว.แรงงาน เหมือนเดิม ส่วนการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมชาย นั้น น ไม่น่ามีปัญหาในการทำงาน เพราะเป็นคนมีบุคคลิกอ่อนโยนและประนีประนอม แต่ติดที่เป็นเครือญาติของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อสังคมจับตามอง นายสมชายจะระวังตัวมากยิ่งขึ้นและจะนำบทเรียนในอดีตมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติและบริหารงาน
"อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดเล่นการเมืองและหันหน้าเข้าหากัน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประเทศชาติเป็นหลัก และยึดถือแนวทาง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแนวทางปฏิบัติแก้ปัญหาของประเทศชาติ ไม่มีแนวคิดเรื่องของการแก้ไข รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องมาหารือกันอีกครั้ง"
"เติ้ง"แนะวิธีบริหารงานให้"สมชาย"
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องแนะนำนายสมชายให้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่เห็นว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีลักษณะเป็นผู้ประสานงานกับทุกฝ่ายได้ดีเพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และอยากให้เร่งดู ปัญหาน้ำท่วมเพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ส.ส.พรรคชาติไทย ช่วงเช้า ก่อนการลงมติ นายบรรหาร ได้เล่าถึงบรรยากาศการหารือระหว่าง 6 พรรคร่วมรัฐบาล ที่โรงแรม เจดับบลิวแมริออต เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ย.ว่า นายบรรหาร ได้แนะนำ นายสมชายว่าการบริหารงานให้ทุกฝ่ายสบายใจนั้น อย่าไปกำหนดกฎเกณฑ์ หรือระบุระยะเวลาในการแต่งตั้งต่างๆ ที่เกี่ยวกับการโปรดเกล้าฯเพราะจะเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ และอย่าทำให้รู้สึกว่าเป็นรัฐบาลนอมินี โดยเฉพาะการวางตัวเกี่ยวกับเรื่อง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งแม้เป็นเครือญาติ แต่ควรปล่อยให้ทุกอย่าง เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าแทรกแซง
ส่วนปัญหาการยึดทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ได้แนะนำไปว่า นายสมชายควรจะไปหารือกับแกนนำพันธมิตรฯ แม้ครั้งแรกไม่สำเร็จ ก็ควรที่จะพยายามไปเจรจาต่อเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯออกจากทำเนียบฯ ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของนายกฯ
"มาร์ค"ชี้โจทย์ใหญ่คือแก้ความขัดแย้ง
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านายสมชาย กับตนได้พูดคุยกัน ซึ่งตนก็ได้แสดงความยินดี ส่วนนายสมชายระบุว่า ยังต้องร่วมงานกันในฐานะเป็นส.ส.ในสภาฯ กันต่อไป หากจะคลี่คลายวิกฤติได้ ก็ต้องช่วยกัน ทั้งนี้ ก็ต้องให้เวลานายสมชายได้สรรหา ครม. ชุดใหม่ แต่ต้องชัดเจนว่าจะใช้แนวทางไหน ในการบริหารบ้านเมืองให้ออกจากวิกฤติ ซึ่งเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่สุด และอยากให้ นายสมชายมีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงาน
"โจทย์สำคัญที่สุดคือทำให้บ้านเมืองพ้นความขัดแย้งให้ได้ และการจะทำได้ต้องมีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงที่นายสมชายต้องตอบให้ชัดว่าสัญญาณนั้นคืออะไร และหากเป็นไปในทางที่ดีเชื่อว่าสังคมคงต้องช่วยกันหาทางออก ซึ่งฝ่ายค้าน พร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหากทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราร่วมมือแน่นอน"
ส่วนหน้าตาของครม.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก แต่สิ่งสำคัญหว่าคือการเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อความขัดแย้งในสังคมว่าจะมีทางออกอย่างไร เพราะถ้าตรงนี้ยังแก้ไม่ได้ก็ยังมีความน่ากังวลว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยก็จะเหมือนอยู่กับที่ต่อไปอีก และสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ไปคิดว่าอยู่ที่รัฐบาลใหม่ว่าจะสามารถประกาศความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ไม่เหมือนรัฐบาลที่พึ่งพ้นไปว่ามีอะไรบ้าง เราก็มีความหวังแต่หากคิดในกรอบเดิม ว่าสิ่งที่ทำมาจะทำต่อไปสภาพบ้านเมืองก็คงไม่เปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ใหม่ควรจะเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ เพื่อให้ยุติการ ชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรให้เวลานายสมชายพิจารณาดูว่าจะใช้แนวทางใด และถ้าจะไปพูดคุยก็ต้องมีประเด็นว่าจะคุยกันอย่างไร ถ้าเห็นถึงปัญหาของสาเหตุการชุมนุมเรียกร้อง และนายสมชายแสดงออกอย่างไรว่าเห็นว่า สามารถแก้ไขปัญหาหรือลดเงื่อนไขเหล่านั้นได้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
อย่างไรก็ตามเราไปบอกไม่ได้ว่าคู่กรณีจะมีการเจรจาอย่างไรเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องกำหนดท่าทีก่อน แต่สำหรับประชาชนทั่วไป หากสามารถคลี่คลายได้ก็เหมาะสมทั้งนั้น และการเจรจาก็เป็นทางเลือกหนึ่งแต่อาจทำได้ยาก
แนะพรรคร่วมสนใจการทุจริต"เจ๊แดง"
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่พรรครัฐบาลไม่สนใจต่อคดีเกี่ยวกับการทุจริตของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของนายสมชาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องต่างๆ ที่มีข้อติติงกันอยู่ก็อยากให้พรรคร่วมรัฐบาลรับฟัง และเป็นหน้าที่ของพวกตน ในการตรวจสอบให้เข้มข้น และเราหวังว่าท่านจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของรัฐบาลชุดที่แล้วว่า ถ้ารัฐบาลกร้าว และไม่รับฟัง หรือไม่สนใจต่อคำติติงเลยก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง แต่หากรัฐบาลใช้แนวทางการรับฟังก็น่าจะช่วยได้พอสมควร
"สิ่งที่สังคมอยากเห็นคือรัฐบาลชุดใหม่ได้ไปทบทวนที่มาของปัญหาในช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาว่าสาเหตุของความขัดแย้งของวิกฤติมาถึงจุดไหนและต้องคลี่คลายไม่ให้ถึงจุดนั้น จึงอยากให้เวลาท่านไปดูว่าสิ่งที่เคยมีการพูดไว้ในสภานี้ หรือข้อท้วงติงต่างๆ ที่ปรากฎในสังคมมีอะไรบ้าง ถ้าสามารถจัดเป็นประเด็น และตอบคำถามของสังคมได้ว่าจะคลี่คลายอย่างไร ก็จะมีโอกาส แต่ถ้าท่านเมินเฉย ก็น่าเป็นกังวลว่าสังคม การเมือง และเศรษฐกิจก็จะอยู่กับที่"
ส่วนที่นายสมชาย เป็นน้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสมชายต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าจะไม่เป็นอย่างที่คนกังวล