นาย สุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งใหม่แทนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ลาออกจากการเป็น ผู้ว่าฯ กทม.หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีรถและเรือดับเพลิงว่า คงจะใช้งบประมาณใกล้เคียงกับครั้งที่แล้วคือ 154 ล้านบาท ทั้งนี้ประชาชนทุกคน ไม่ควรที่จะเบื่อหากมีการเลือกตั้งกันอีก
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การพิจารณา สำนวนร้องเรียนของนายอภิรักษ์นั้น ตามข้อกฎหมายแล้ว หาก กกต. มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) แก่ นายอภิรักษ์แล้ว หากศาลอุทธรณ์ยืนตามมติ กกต. นายอภิรักษ์ ก็จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี และห้ามลงสมัคร ส.ส. ส.ว. รวมถึง ผู้ว่าฯ กทม. ส่วนจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่หรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เนื่องจากมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ไปแล้ว ซึ่งมาจากผลของการลาออก ไม่ใช่ผลของการ ให้ใบแดง ซึ่ง กกต.จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะสั่งให้มีการชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพราะยังมีปัญหาข้อกฎหมายอยู่
ขณะที่นาง สดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ในอนาคตก็คงจะต้องมีการพูดคุยเพื่อวางกรอบ เรื่องของคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งกันใหม่ จะได้ไม่ต้องเสียเงินสำหรับใช้จ่ายในการเลือกตั้งกันบ่อยๆ และเป็นจำนวนมาก
คนที่คิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งใด ๆ ก็ตามควรที่จะเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนที่จะลงสมัครจะได้ไม่ต้องเป็นภาระต่องบประมาณที่จะใช้จ่ายในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอีกครั้งก็คงจะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทั้งนี้ถ้าหากดูตามกรอบเวลา 60 วันแล้ว คาดว่าวันเปิดรับสมัครน่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 26-30 พ.ย.หรือไม่ก็น่าจะเป็นช่วงวันที่ 1-5 ธ.ค. นี้ ส่วนวันเลือกตั้งก็น่าจะเป็นวันที่ 11 ม.ค.52
ปชป.เผยมีคนสนใจชิงผู้ว่า6ราย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสรรหาบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. แทนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เปิดกว้าง หน้าที่ของเราคือนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุด และบุคคลที่ดีที่สุด เพื่อนำมาสานต่องาน สำคัญและนโยบายหลายเรื่องของ กทม. เพื่อให้สมกับความต้องการของคนกทม. ที่เคยให้การสนับสนุนพรรคและนายอภิรักษ์ โดยขณะนี้มีบุคคลทั้งในและนอกพรรค แสดงความสนใจจำนวนมาก ซึ่งมีมากกว่าที่เป็นข่าวไม่ต่ำกว่า 6 รายชื่อ โดยมีคนนอก ที่ไม่นับว่าเป็นส.ส. มีจำนวนมาก แต่ถ้าไม่นับว่าอยู่แวดวงการเมืองมี 2-3 คน
อย่างไรก็ตาม พรรคจะสรรหาคนที่ดีที่สุด ดูทางเลือกต่างๆให้มากที่สุด เพราะเรามีหน้าที่กลั่นกรองให้ประชาชนตัดสินใจ และรายชื่อที่เสนอมานั้น ทุกคน มีความเหมาะสม ไม่มีรายชื่อบุคคลไหนที่มีปัญหา อยู่ที่ว่าพรรคจะเลือกคนไหนเท่านั้น
กรณ์อยู่ในข่ายปชป.รับพิจารณา
ส่วนกรณีนายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชื่อว่า พรรคอาจจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม. อาจมีปัญหาได้เพราะเป็นส.ส.เขต ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะพิจารณาตรงนี้ และสมาชิกพรรค ก็ควรที่จะปฏิบัติตามมติพรรค รวมทั้งรองหัวหน้าพรรคด้วย และตัดสินต่อไปว่าควรให้นายกรณ์ เล่นการเมืองระดับไหน ซึ่งพรรคจะพิจารณาความเหมาะสมให้เร็วที่สุด เพราะพรรคอยากให้ผู้ที่อาสาตัวลงสมัครในนามพรรคได้ลงพื้นที่หาเสียงได้นานที่สุด
ส่วนมาตรฐานของบุคคล ที่พรรคเห็นว่า เหมาะสมควรมีคุณสมบัติอย่างนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนที่ความสามารถบริหารจัดการเมืองได้ โดยใช้ความรู้ ความสามารถ มีมุมมองที่ทันสมัย เพราะขณะนี้ปัญหาของเมืองซับซ้อนมากขึ้น และสานต่อนโยบายต่างๆ ที่พรรคเคยเสนอไปได้ รวมทั้งทุ่มเทด้วยความสามารถ และซื้อสัตย์
ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจหรือไม่ว่า อาจจะถูกโจมตีจากคู่แข่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หนักใจทุกครั้งแต่เราไม่เคยประมาท เพราะไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนง่ายอยู่แล้ว และเราก็รู้ว่าประชาชนเพิ่งเลือกตั้งไปไม่นาน แต่พรรคจะทำให้ดีที่สุด ส่วนคู่ต่อสู้เขาก็โจมตี อยู่แล้ว ก็ไม่หนักใจ เราก็ต้องชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นอย่างไร ต่อข้อถามว่า ยังมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน แต่พรรคจะสรรหาผู้สมัครที่ดีที่สุด และรณรงค์ชี้แจงให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายอภิรักษ์ ลาออกอย่างนี้ หวังผลให้พรรคได้รับเลือกตั้งครั้งใหม่ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่านายอภิรักษ์ไม่ได้คิดเรื่องนั้น แต่คิดว่า นายอภิรักษ์จะวางแนวทางมาตรฐานทางการเมืองมากกว่า และพรรคก็คิดอย่างนั้น ไม่ได้คิดเรื่องการหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น
เทพไทอัดพปช.ให้ย้อนดูตัวเอง
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นาย อภิรักษ์ แสดงสิปิริตลาออกเป็นที่ชื่นชมของประชาชนทั่วไป แต่น่าแปลกใจว่า ท่ามกลางเสียงชื่นชมการแสดงสปิริตนี้ กลับมีสมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมากระแหนะกระแหน่และเสียดสี เหมือนกันว่าการลาออกของนายอภิรักษ์ไปแทงใจดำใคร ทั้งนี้การลาออกของนายอภิรักษ์เป็นการตัดสินใจส่วนตัวในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่
นายเทพไท กล่าวว่าที่ผ่านมาจะเห็นว่าเมื่อเกิดกรณีทุจริต 16 โครงการสะพานข้ามแยกนายอภิรักษ์ก็ยังให้นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่ากทม.ในขณะนั้นแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งภายหลังนายสามารถก็ชนะคดีนายสมัคร สุนทรเวช ในเรื่องนี้ หรือแม้แต่ในคดีที่ คตส.แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกรณีทุจริตรถและเรือดับเพลิงกทม. ซึ่งมีชื่อของนายอภิรักษ์เพิ่มเติม นายอภิรักษ์ก็ยุติการทำหน้าที่ และครั้งนี้เมื่อป.ป.ช.ชี้มูล นายอภิรักษ์ก็ตัดสินใจลาออกโดยไม่ลังเล ถือเป็นสปิริตที่สูง ตามมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีมาแล้วสมัยพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรมว.มหาดไทยและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินว่าเป็นเท็จก็ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากสองตำแหน่งในทันที
ดังนั้นก่อนที่คนของพรรคพลังประชาชนจะมาเยาะเย้ยถากถางคนอื่น ตนอยาก ให้กลับไปดูมาตรฐานนักการเมืองของคนในรัฐบาลบ้างว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในสมัยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย หรือรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อย่างน้อย 2 คน ที่ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหวยบนดินก็ยังปฎิบัติหน้าที่โดยไม่สนใจกระแสสังคม ซึ่งรวมไปถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ขาดคุณสมบัติและจริยธรรม อย่างรุนแรง ต้องหนีคดีหลบอยู่ต่างประเทศ
ดังนั้นพรรคพลังประชาชนควรจะยอมรับสปิริตของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำไว้ เป็นแบบอย่าง เพื่อยกระดับมาตรฐานของนักการเมืองให้สูงขึ้น เพราะไม่มียุคไหนที่คุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมืองตกต่ำเหมือนยุคนี้
นายกฯสมชายน่าจะเป็นแบบอย่างในการแสดงความรับผิดชอบทางด้าน คุณธรรมและจริยธรรม เพราะล่าสุดยังมีภาพออกในคลิปฉาวที่นายกฯก็ยอมรับว่า เป็นความจริงบางส่วน ถ้าเป็นในต่างประเทศนายกฯจะต้องลาออกเพราะเป็นที่อับอายคนทั้งประเทศ และถ้าเป็นประเทศญี่ปุ่นคงใช้วิธีการฮาราคีรี เพื่อหนีความผิดไปแล้ว แต่นายกฯกลับลอยหน้าลอยตาไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นยุคที่ขาดคุณธรรม และคุณจริยธรรม
พปช.จ่อทาบประภัสร์ชิงผู้ว่าฯอีกรอบ
นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธาน ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เตรียมหารือ ส.ส. กทม. ในการประชุมพรรคเพื่อพิจารณาผู้สมัครชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม. รอบใหม่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมไม่เกิน 2 วัน สำหรับบุคคลในดวงใจนั้น เบื้องต้นคาดว่า เป็นนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคพลังประชาชนครั้งที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุย หรือทามทาม นายประภัสร์ และยังไม่แน่ใจว่า นายประภัสร์ จะตอบรับหรือปฏิเสธ
ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์เตรียมส่ง นายกรณ์ จาติกวณิช ลงชิงชัยนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของนายประภัสร์ เพราะถือว่าใหม่ด้วยกันทั้งคู่
ชูวิทย์ชี้อภิรักษ์ออกไม่ใช่สปิริต
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า การแสดงสปิริตลาออก ของนายอภิรักษ์ ที่มีผู้ชื่นชมถึงการเมืองใหม่นั้น ความจริงแล้วประชาชนและประเทศชาติต้องตกเป็นผู้เสียหาย เพราะต้องใช้งบประมาณเลือกตั้งใหม่อีก 154 ล้านบาท คน กทม.ต้องทำหน้าที่เลือกตั้งอีกครั้ง เสียเวลา เสียความรู้สึก ขณะที่ตนได้เตือนพรรคประชาธิปัตย์ก่อนหน้านี้ว่า นายอภิรักษ์ ติดเงื่อนไขเรื่องคดี การทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.ไม่ควรส่งลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ฟังตน ทั้งที่รู้แก่ใจว่าต้องเกิดขึ้น รวมทั้งต้องเสียงบประมาณเลือกตั้งซ่อมแทนนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องลาออกจาก ส.ส.เพื่อลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อีกด้วยความจริงอยากประกาศว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมือง ที่ควรได้รับการสรรเสริญหรือเป็นธรรมาภิบาล แต่อย่างใด ไม่มีสิทธิได้รับการชื่นชม
การลาออกของนายอภิรักษ์ เป็นไปตามกฎหมายไม่ใช่เป็นสปิริต และมีข้อสังเกตว่า ที่นายอภิรักษ์อ้างว่าติดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต้องลาออกในวันที่ 19 พ.ย.เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะขาดนายอภิรักษ์งานพระราชพิธีฯ ก็ดำเนินต่อไปได้ ผมมองว่าน่าจะมีผลประโยชน์ตรงนี้อยู่
ส่วนอนาคตการเมืองจะลงเลือกตั้งอีกหรือไม่ นายชูวิทย์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การพิจารณา สำนวนร้องเรียนของนายอภิรักษ์นั้น ตามข้อกฎหมายแล้ว หาก กกต. มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) แก่ นายอภิรักษ์แล้ว หากศาลอุทธรณ์ยืนตามมติ กกต. นายอภิรักษ์ ก็จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี และห้ามลงสมัคร ส.ส. ส.ว. รวมถึง ผู้ว่าฯ กทม. ส่วนจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่หรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เนื่องจากมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ไปแล้ว ซึ่งมาจากผลของการลาออก ไม่ใช่ผลของการ ให้ใบแดง ซึ่ง กกต.จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะสั่งให้มีการชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เพราะยังมีปัญหาข้อกฎหมายอยู่
ขณะที่นาง สดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ในอนาคตก็คงจะต้องมีการพูดคุยเพื่อวางกรอบ เรื่องของคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งกันใหม่ จะได้ไม่ต้องเสียเงินสำหรับใช้จ่ายในการเลือกตั้งกันบ่อยๆ และเป็นจำนวนมาก
คนที่คิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งใด ๆ ก็ตามควรที่จะเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนที่จะลงสมัครจะได้ไม่ต้องเป็นภาระต่องบประมาณที่จะใช้จ่ายในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอีกครั้งก็คงจะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ทั้งนี้ถ้าหากดูตามกรอบเวลา 60 วันแล้ว คาดว่าวันเปิดรับสมัครน่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 26-30 พ.ย.หรือไม่ก็น่าจะเป็นช่วงวันที่ 1-5 ธ.ค. นี้ ส่วนวันเลือกตั้งก็น่าจะเป็นวันที่ 11 ม.ค.52
ปชป.เผยมีคนสนใจชิงผู้ว่า6ราย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสรรหาบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. แทนนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่เปิดกว้าง หน้าที่ของเราคือนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุด และบุคคลที่ดีที่สุด เพื่อนำมาสานต่องาน สำคัญและนโยบายหลายเรื่องของ กทม. เพื่อให้สมกับความต้องการของคนกทม. ที่เคยให้การสนับสนุนพรรคและนายอภิรักษ์ โดยขณะนี้มีบุคคลทั้งในและนอกพรรค แสดงความสนใจจำนวนมาก ซึ่งมีมากกว่าที่เป็นข่าวไม่ต่ำกว่า 6 รายชื่อ โดยมีคนนอก ที่ไม่นับว่าเป็นส.ส. มีจำนวนมาก แต่ถ้าไม่นับว่าอยู่แวดวงการเมืองมี 2-3 คน
อย่างไรก็ตาม พรรคจะสรรหาคนที่ดีที่สุด ดูทางเลือกต่างๆให้มากที่สุด เพราะเรามีหน้าที่กลั่นกรองให้ประชาชนตัดสินใจ และรายชื่อที่เสนอมานั้น ทุกคน มีความเหมาะสม ไม่มีรายชื่อบุคคลไหนที่มีปัญหา อยู่ที่ว่าพรรคจะเลือกคนไหนเท่านั้น
กรณ์อยู่ในข่ายปชป.รับพิจารณา
ส่วนกรณีนายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชื่อว่า พรรคอาจจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม. อาจมีปัญหาได้เพราะเป็นส.ส.เขต ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะพิจารณาตรงนี้ และสมาชิกพรรค ก็ควรที่จะปฏิบัติตามมติพรรค รวมทั้งรองหัวหน้าพรรคด้วย และตัดสินต่อไปว่าควรให้นายกรณ์ เล่นการเมืองระดับไหน ซึ่งพรรคจะพิจารณาความเหมาะสมให้เร็วที่สุด เพราะพรรคอยากให้ผู้ที่อาสาตัวลงสมัครในนามพรรคได้ลงพื้นที่หาเสียงได้นานที่สุด
ส่วนมาตรฐานของบุคคล ที่พรรคเห็นว่า เหมาะสมควรมีคุณสมบัติอย่างนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนที่ความสามารถบริหารจัดการเมืองได้ โดยใช้ความรู้ ความสามารถ มีมุมมองที่ทันสมัย เพราะขณะนี้ปัญหาของเมืองซับซ้อนมากขึ้น และสานต่อนโยบายต่างๆ ที่พรรคเคยเสนอไปได้ รวมทั้งทุ่มเทด้วยความสามารถ และซื้อสัตย์
ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจหรือไม่ว่า อาจจะถูกโจมตีจากคู่แข่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หนักใจทุกครั้งแต่เราไม่เคยประมาท เพราะไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนง่ายอยู่แล้ว และเราก็รู้ว่าประชาชนเพิ่งเลือกตั้งไปไม่นาน แต่พรรคจะทำให้ดีที่สุด ส่วนคู่ต่อสู้เขาก็โจมตี อยู่แล้ว ก็ไม่หนักใจ เราก็ต้องชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นอย่างไร ต่อข้อถามว่า ยังมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน แต่พรรคจะสรรหาผู้สมัครที่ดีที่สุด และรณรงค์ชี้แจงให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายอภิรักษ์ ลาออกอย่างนี้ หวังผลให้พรรคได้รับเลือกตั้งครั้งใหม่ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่านายอภิรักษ์ไม่ได้คิดเรื่องนั้น แต่คิดว่า นายอภิรักษ์จะวางแนวทางมาตรฐานทางการเมืองมากกว่า และพรรคก็คิดอย่างนั้น ไม่ได้คิดเรื่องการหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น
เทพไทอัดพปช.ให้ย้อนดูตัวเอง
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นาย อภิรักษ์ แสดงสิปิริตลาออกเป็นที่ชื่นชมของประชาชนทั่วไป แต่น่าแปลกใจว่า ท่ามกลางเสียงชื่นชมการแสดงสปิริตนี้ กลับมีสมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมากระแหนะกระแหน่และเสียดสี เหมือนกันว่าการลาออกของนายอภิรักษ์ไปแทงใจดำใคร ทั้งนี้การลาออกของนายอภิรักษ์เป็นการตัดสินใจส่วนตัวในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่
นายเทพไท กล่าวว่าที่ผ่านมาจะเห็นว่าเมื่อเกิดกรณีทุจริต 16 โครงการสะพานข้ามแยกนายอภิรักษ์ก็ยังให้นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่ากทม.ในขณะนั้นแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งภายหลังนายสามารถก็ชนะคดีนายสมัคร สุนทรเวช ในเรื่องนี้ หรือแม้แต่ในคดีที่ คตส.แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกรณีทุจริตรถและเรือดับเพลิงกทม. ซึ่งมีชื่อของนายอภิรักษ์เพิ่มเติม นายอภิรักษ์ก็ยุติการทำหน้าที่ และครั้งนี้เมื่อป.ป.ช.ชี้มูล นายอภิรักษ์ก็ตัดสินใจลาออกโดยไม่ลังเล ถือเป็นสปิริตที่สูง ตามมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาก็เคยมีมาแล้วสมัยพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรมว.มหาดไทยและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินว่าเป็นเท็จก็ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากสองตำแหน่งในทันที
ดังนั้นก่อนที่คนของพรรคพลังประชาชนจะมาเยาะเย้ยถากถางคนอื่น ตนอยาก ให้กลับไปดูมาตรฐานนักการเมืองของคนในรัฐบาลบ้างว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในสมัยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย หรือรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อย่างน้อย 2 คน ที่ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหวยบนดินก็ยังปฎิบัติหน้าที่โดยไม่สนใจกระแสสังคม ซึ่งรวมไปถึงพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ขาดคุณสมบัติและจริยธรรม อย่างรุนแรง ต้องหนีคดีหลบอยู่ต่างประเทศ
ดังนั้นพรรคพลังประชาชนควรจะยอมรับสปิริตของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำไว้ เป็นแบบอย่าง เพื่อยกระดับมาตรฐานของนักการเมืองให้สูงขึ้น เพราะไม่มียุคไหนที่คุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมืองตกต่ำเหมือนยุคนี้
นายกฯสมชายน่าจะเป็นแบบอย่างในการแสดงความรับผิดชอบทางด้าน คุณธรรมและจริยธรรม เพราะล่าสุดยังมีภาพออกในคลิปฉาวที่นายกฯก็ยอมรับว่า เป็นความจริงบางส่วน ถ้าเป็นในต่างประเทศนายกฯจะต้องลาออกเพราะเป็นที่อับอายคนทั้งประเทศ และถ้าเป็นประเทศญี่ปุ่นคงใช้วิธีการฮาราคีรี เพื่อหนีความผิดไปแล้ว แต่นายกฯกลับลอยหน้าลอยตาไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นยุคที่ขาดคุณธรรม และคุณจริยธรรม
พปช.จ่อทาบประภัสร์ชิงผู้ว่าฯอีกรอบ
นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธาน ส.ส.กทม. พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เตรียมหารือ ส.ส. กทม. ในการประชุมพรรคเพื่อพิจารณาผู้สมัครชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม. รอบใหม่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมไม่เกิน 2 วัน สำหรับบุคคลในดวงใจนั้น เบื้องต้นคาดว่า เป็นนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคพลังประชาชนครั้งที่ผ่านมาอย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุย หรือทามทาม นายประภัสร์ และยังไม่แน่ใจว่า นายประภัสร์ จะตอบรับหรือปฏิเสธ
ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์เตรียมส่ง นายกรณ์ จาติกวณิช ลงชิงชัยนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของนายประภัสร์ เพราะถือว่าใหม่ด้วยกันทั้งคู่
ชูวิทย์ชี้อภิรักษ์ออกไม่ใช่สปิริต
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า การแสดงสปิริตลาออก ของนายอภิรักษ์ ที่มีผู้ชื่นชมถึงการเมืองใหม่นั้น ความจริงแล้วประชาชนและประเทศชาติต้องตกเป็นผู้เสียหาย เพราะต้องใช้งบประมาณเลือกตั้งใหม่อีก 154 ล้านบาท คน กทม.ต้องทำหน้าที่เลือกตั้งอีกครั้ง เสียเวลา เสียความรู้สึก ขณะที่ตนได้เตือนพรรคประชาธิปัตย์ก่อนหน้านี้ว่า นายอภิรักษ์ ติดเงื่อนไขเรื่องคดี การทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.ไม่ควรส่งลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ฟังตน ทั้งที่รู้แก่ใจว่าต้องเกิดขึ้น รวมทั้งต้องเสียงบประมาณเลือกตั้งซ่อมแทนนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องลาออกจาก ส.ส.เพื่อลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อีกด้วยความจริงอยากประกาศว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมือง ที่ควรได้รับการสรรเสริญหรือเป็นธรรมาภิบาล แต่อย่างใด ไม่มีสิทธิได้รับการชื่นชม
การลาออกของนายอภิรักษ์ เป็นไปตามกฎหมายไม่ใช่เป็นสปิริต และมีข้อสังเกตว่า ที่นายอภิรักษ์อ้างว่าติดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต้องลาออกในวันที่ 19 พ.ย.เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะขาดนายอภิรักษ์งานพระราชพิธีฯ ก็ดำเนินต่อไปได้ ผมมองว่าน่าจะมีผลประโยชน์ตรงนี้อยู่
ส่วนอนาคตการเมืองจะลงเลือกตั้งอีกหรือไม่ นายชูวิทย์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
