00 ในที่สุดเกมปาหี่ของ “ระบอบทักษิณ” ก็ลงเอยตามคาดหมายกันมาล่วงหน้าแล้วว่า “ส.สมชาย”ที่เป็น “น้องเขย” ก็จะถูกอุปโลกขึ้นมาเป็น “ผู้นำหุ่นเชิด” รายใหม่ หรือแม้กระทั่งถ้าเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์พลิกล็อกกระทันหัน(จริงๆ)ในนาทีสุดท้ายก็จะเปลี่ยนเป็น “ส.สมพงษ์” หรือ “ส.สุรพงษ์” เล่นกันอยู่ในวงที่ขีดเอาไว้แค่นี้ เพราะทุกอย่างล้วนเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้เป็นขั้นเป็นตอน
00 ถามว่าแล้วคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ เปล่าเลย มีแต่กลุ่มนักการเมืองหน้าเก่าๆ เข้ามาแย่งชิงต่อรองผลประโยชน์จากการสนับสนุนคนนั้น คนนี้ มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ กลายเป็นว่า ถ้า ส.คนนี้ได้เป็นพวกของตัวเองก็จะได้มากกว่า ส่วนอีกกลุ่มก็จะได้น้อยหน่อย ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ก็แบ่งปันเค้กที่เหลือลดหลั่นกันไป
00 คนพวกนี้ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไร วันๆ คิดแต่หาผลประโยชน์ ไม่เคยคิดถึงชาติบ้านเมือง เอาแต่กอบโกย เป็นแค่นักธุรกิจเลือกตั้ง คิดว่าการหย่อนบัตรในคูหาแค่ 3-4 วินาที เป็นการลงทุน ทำกันเป็นเครือข่าย ซื้อองค์กร ซื้อเจ้าหน้าที่รัฐ บางครั้งก็แลกเปลี่ยนกับ ยศ ตำแหน่งหน้าที่ ทำทุกทางเพื่อให้ตัวเอง หรือกลุ่มของตัวเองเข้ามายึดกุมอำนาจรัฐเอาไว้ก่อน จากนั้นก็จะสะสมหากำไรเข้ามาให้มากที่สุด ดังนั้นต่อไปไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง คนกลุ่มนี้ก็จะกลับมาอีก เพราะมีทุกอย่างอยู่ในมือพร้อมสรรพ
00 อย่างไรก็ดี บางครั้งก็อดตั้งคำถามตรงๆไม่ได้ว่า เป็นไปได้อย่างไรว่าคนในสังคม หรือบรรดาข้าราชการระดับสูง ที่มองภายนอกน่าจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กลับไปให้การยอมรับ คนอย่าง “ยี้ห้อย-ยุทธ ตู้เย็น-หน่อย” หรือแม้แต่ “หลงจู๊” บางคน ฯลฯ ให้การเคารพนบนอบ โดยลืมเบื้องหลังว่ามีความเป็นมาอย่างไร อย่าว่าแต่การยอมรับเลย แค่เดินไปไหนก็น่าจะมีแต่เสียง “ถมถุย” ด้วยซ้ำ
00 แต่เชื่อหรือไม่ว่าคนเหล่านี้กำลังมีบทบาทสำคัญ นอกเหนือจาก “คนหน้าเหลี่ยม” ในลอนดอนทำหน้าที่จัดสรรอำนาจ วางตัวบุคคลที่จะมาเป็นหุ่นเชิดตัวใหม่
00 ปรากฏการณ์ “ทุเรศ” ที่เกิดขึ้นเวลานี้ ไม่ใช่เพิ่งมี แต่เป็นมาช้านานจนชาวบ้านเหลืออด ไม่ยอมทนอีกต่อไปแล้ว จึงลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ของตัวเอง กำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง ไม่ยอมให้นักธุรกิจการเมืองพันธุ์ชั่วเหล่านี้ลอยหน้าลอยตาได้อีกต่อไป
00 แต่กลับมีนักวิชาการบางคนบอกว่า “เราต้องรักษาระบอบ (ประชาธิปไตย)” เอาไว้ มองเพียงแค่การเลือกตั้ง การหย่อนบัตรเป็นประชาธิปไตยแล้ว ถือว่าตื้นเขิน มีวาระซ่อนเร้น และยอมจำนน ขณะที่ชาวบ้านเขารู้ทันเขาไม่ยอมอีกต่อไป เป็นไงเป็นกัน !!
00 นาทีนี้รู้กันแน่นอนว่า “น้องเขยแม้ว” ส.สมชาย ได้รับบัญชาจากคนหน้าเหลี่ยม เชิดเป็นนายกฯคนใหม่แหงๆ ถ้าพิจารณาด้วยสูตรคณิตศาสตร์ตายตัว เช่น สองบวกสองก็ต้องเป็นสี่วันยังค่ำ หรือถ้าพิจารณาจากระบบเสียงส่วนใหญ่ โดยไม่ดูที่มาที่ไป มีความชอบธรรม มีจริยธรรมหรือไม่ ไม่ว่า ส.ไหนก็ไม่มีปัญหา
00 แต่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริงนั้น นักการเมืองต้องเสียสละ ไม่มัวเมาในอำนาจและผลประโยชน์ ต้องมีจริยธรรมสูงกว่าคนทั่วไป นี่ยังไม่นับเรื่องการร่วมหัวจมท้ายกันปล้นชาติ ขายชาติ เป็นมือเท้าให้กับระบอบทักษิณ นักการเมืองพันธุ์นี้หมดความชอบธรรมไปนานแล้ว ที่เห็นชัดๆ ก็คือพรรคที่ตัวเองสังกัดไม่ว่าจะเป็น พลังประชาชน ชาติไทย และ มัชฌิมาธิปไตย ต่างถูกตัดสินว่าโกงการเลือกตั้ง แล้วกำลังเสนอให้ศาลสั่งยุบพรรค อย่างนี้หรือคือประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งหรือ พวกนักวิชาการบางกลุ่มหรือพวกนายทุนนักเลือกตั้งจะยอมรับ แต่ชาวบ้านเขาไม่ยอม และไม่ทนอีกต่อไป !!
00 ถามว่าแล้วคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ เปล่าเลย มีแต่กลุ่มนักการเมืองหน้าเก่าๆ เข้ามาแย่งชิงต่อรองผลประโยชน์จากการสนับสนุนคนนั้น คนนี้ มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ กลายเป็นว่า ถ้า ส.คนนี้ได้เป็นพวกของตัวเองก็จะได้มากกว่า ส่วนอีกกลุ่มก็จะได้น้อยหน่อย ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ก็แบ่งปันเค้กที่เหลือลดหลั่นกันไป
00 คนพวกนี้ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไร วันๆ คิดแต่หาผลประโยชน์ ไม่เคยคิดถึงชาติบ้านเมือง เอาแต่กอบโกย เป็นแค่นักธุรกิจเลือกตั้ง คิดว่าการหย่อนบัตรในคูหาแค่ 3-4 วินาที เป็นการลงทุน ทำกันเป็นเครือข่าย ซื้อองค์กร ซื้อเจ้าหน้าที่รัฐ บางครั้งก็แลกเปลี่ยนกับ ยศ ตำแหน่งหน้าที่ ทำทุกทางเพื่อให้ตัวเอง หรือกลุ่มของตัวเองเข้ามายึดกุมอำนาจรัฐเอาไว้ก่อน จากนั้นก็จะสะสมหากำไรเข้ามาให้มากที่สุด ดังนั้นต่อไปไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง คนกลุ่มนี้ก็จะกลับมาอีก เพราะมีทุกอย่างอยู่ในมือพร้อมสรรพ
00 อย่างไรก็ดี บางครั้งก็อดตั้งคำถามตรงๆไม่ได้ว่า เป็นไปได้อย่างไรว่าคนในสังคม หรือบรรดาข้าราชการระดับสูง ที่มองภายนอกน่าจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กลับไปให้การยอมรับ คนอย่าง “ยี้ห้อย-ยุทธ ตู้เย็น-หน่อย” หรือแม้แต่ “หลงจู๊” บางคน ฯลฯ ให้การเคารพนบนอบ โดยลืมเบื้องหลังว่ามีความเป็นมาอย่างไร อย่าว่าแต่การยอมรับเลย แค่เดินไปไหนก็น่าจะมีแต่เสียง “ถมถุย” ด้วยซ้ำ
00 แต่เชื่อหรือไม่ว่าคนเหล่านี้กำลังมีบทบาทสำคัญ นอกเหนือจาก “คนหน้าเหลี่ยม” ในลอนดอนทำหน้าที่จัดสรรอำนาจ วางตัวบุคคลที่จะมาเป็นหุ่นเชิดตัวใหม่
00 ปรากฏการณ์ “ทุเรศ” ที่เกิดขึ้นเวลานี้ ไม่ใช่เพิ่งมี แต่เป็นมาช้านานจนชาวบ้านเหลืออด ไม่ยอมทนอีกต่อไปแล้ว จึงลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ของตัวเอง กำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง ไม่ยอมให้นักธุรกิจการเมืองพันธุ์ชั่วเหล่านี้ลอยหน้าลอยตาได้อีกต่อไป
00 แต่กลับมีนักวิชาการบางคนบอกว่า “เราต้องรักษาระบอบ (ประชาธิปไตย)” เอาไว้ มองเพียงแค่การเลือกตั้ง การหย่อนบัตรเป็นประชาธิปไตยแล้ว ถือว่าตื้นเขิน มีวาระซ่อนเร้น และยอมจำนน ขณะที่ชาวบ้านเขารู้ทันเขาไม่ยอมอีกต่อไป เป็นไงเป็นกัน !!
00 นาทีนี้รู้กันแน่นอนว่า “น้องเขยแม้ว” ส.สมชาย ได้รับบัญชาจากคนหน้าเหลี่ยม เชิดเป็นนายกฯคนใหม่แหงๆ ถ้าพิจารณาด้วยสูตรคณิตศาสตร์ตายตัว เช่น สองบวกสองก็ต้องเป็นสี่วันยังค่ำ หรือถ้าพิจารณาจากระบบเสียงส่วนใหญ่ โดยไม่ดูที่มาที่ไป มีความชอบธรรม มีจริยธรรมหรือไม่ ไม่ว่า ส.ไหนก็ไม่มีปัญหา
00 แต่การเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริงนั้น นักการเมืองต้องเสียสละ ไม่มัวเมาในอำนาจและผลประโยชน์ ต้องมีจริยธรรมสูงกว่าคนทั่วไป นี่ยังไม่นับเรื่องการร่วมหัวจมท้ายกันปล้นชาติ ขายชาติ เป็นมือเท้าให้กับระบอบทักษิณ นักการเมืองพันธุ์นี้หมดความชอบธรรมไปนานแล้ว ที่เห็นชัดๆ ก็คือพรรคที่ตัวเองสังกัดไม่ว่าจะเป็น พลังประชาชน ชาติไทย และ มัชฌิมาธิปไตย ต่างถูกตัดสินว่าโกงการเลือกตั้ง แล้วกำลังเสนอให้ศาลสั่งยุบพรรค อย่างนี้หรือคือประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งหรือ พวกนักวิชาการบางกลุ่มหรือพวกนายทุนนักเลือกตั้งจะยอมรับ แต่ชาวบ้านเขาไม่ยอม และไม่ทนอีกต่อไป !!