“สุเทพ” เชื่อ พปช.แตกคอแค่ปาหี่ ชี้ รีโมต “แม้ว” ยังเจ๋ง

เลขาธิการ ปชป.ตั้งข้อสังเกตุเกาเหลา พปช.แค่ปาหี่การเมือง เชื่อลายคราม “หมัก” ปัญหาภายในได้เพราะมีทีเด็ดอยู่ในกำมือ ชี้ รีโมตที่ “แม้ว” กดมาจากต่างประเทศ แรงส่งแบตเตอรี่ยังดีอยู่และแรงรับของ ส.ส.พปช.ก็ยังชัดเจน

วันนี้ (21 ส.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชาชน ว่า เราต้องทำใจต้องถือว่าเป็นอนิจจัง เป็นเรื่องปกติ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อนายทุนใหญ่ของพรรค คือ หัวหน้าพรรคตัวจริงไม่สามารถที่จะลงมากำกับอย่างใกล้ชิดได้ การไปกดรีโมตอยู่ไกลๆ ก็ไม่หนักแน่นเท่าที่เคยกำกับอย่างใกล้ชิดเหมือนเมื่อก่อน ก็คงจะต้องมีแรงกระเพื่อม อาจจะถึงขั้นแยกเป็นกลุ่มเป็นก้อนแตกต่างกันออกไป เช่น อาจจะมีแก๊งออฟโฟร์สู้กับแก๊งออฟไฟต์ ซึ่งตนก็ติดตามฟังข่าวนี้อยู่ เพราะเห็นว่าคงจะมีผลกระทบต่อการเมืองโดยรวม ในการบริหารงานของรัฐบาลบ้าง แต่ในส่วนที่จะกระทบต่อรัฐบาลนั้น ตนคิดว่าคงจะคลี่คลายได้

เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่คิดว่าคงจะคลี่คลายได้เพราะประการที่ 1.นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนักการเมืองเก่า รู้และเข้าใจเรื่องของการเมืองดี โดยเฉพาะการเมืองในพรรคที่มีความสลับซับซ้อน แต่ตนก็เชื่อว่า นายสมัคร จะควบคุมสถานการณ์ได้ เห็นได้ชัดเจน คือ ส.ส.พรรคพลังประชาชน พยายามกดดันนายสมัคร ให้อธิบาย ให้ตอบคำถาม ให้รับผิดชอบ เรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา ไปทั่วประเทศ แต่พอถึงวันประชุมพรรคจริง ส.ส.เหล่านั้นก็ต้องถอย เพราะนายสมัครก็มีทีเด็ด มีไม้ตาย มีคำขาดที่จะยื่นกับสมาชิกพรรคพลังประชาชน ที่ลุกฮือขึ้นเหล่านั้น

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนประการที่ 2.ตนคิดว่า สมาชิกพรรคพลังประชาชนไม่มีความคิดที่เป็นอิสระ เพราะส่วนหนึ่งต้องฟังคำสั่งจากกรุงลอนดอน จากเจ้าของพรรคตัวจริง อีกส่วนหนึ่งก็พะวงเรื่องอนาคตของตัวเอง ถ้าเกิดผลีผลามทำอะไรไปจะมีผลกระทบ เช่น ถ้าไปกดดันนายสมัคร มากๆ นายสมัคร ก็อาจจะลาออก หรือยุบสภา วันนี้ พรุ่งนี้ สมาชิกก็คงเดือดร้อนพอสมควร เพราะฉะนั้นสมาชิกก็ยังห่วงตัวเองอยู่ ตนจึงไม่คิดว่ากระแสความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชาชน จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของนายสมัครในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมากนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าหากมีการกดดันอีก นายสมัครจะตัดสินใจยุบสภาตามที่เคยขู่เอาไว้ เลขาธิการพรรคประชิปัตย์ กล่าวว่า นายสมัคร คงไม่ขู่เฉยๆ คงมีแนวทางที่จะเลือกปฏิบัติ เมื่อสถานการณ์คับขันมากคงคิดเอาไว้แล้วในใจว่า จะยุบสภาหรือลาออก ซึ่งตนเชื่อว่าจะยุบสภาฯมากกว่าลาออกเพราะคนอย่างนายสมัครไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสายตรงถึงกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า แม้พรรคพลังประชาชนจะแตกออกเป็นกลุ่มๆ แต่ทุกกลุ่มก็ต้องพึ่งพา พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องเงิน และเป็นกลุ่มที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กดปุ่มได้ทั้งนั้น ที่ตนยังจับตามองอยู่ว่าการแตกกันอย่างที่ว่านี้ เป็นการแตกกันอย่างถาวรหรือแตกให้ฝ่ายอื่นตายใจกันแน่ก็ยังไม่รู้ ส่วนการต่อสายตรงจะทำให้ลดความหวาดระแวงระหว่างกลุ่มภายในพรรคได้หรือไม่นั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก็คงจะมีส่วน คงมีการต่อรองกันว่าต้องคิดถึงว่าถ้าจำเป็นต้องไปอยู่ที่ใหม่ ใครจะต้องมีบทบาทอะไรบ้าง เขาคงคิดกัน แต่ตนเชื่อว่าการเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ อย่าเพิ่งรีบไปกังวลใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ารีโมตที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กดมาจากต่างประเทศอ่อนไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่อ่อนหรอก ตราบเท่าที่นักการเมืองยังจะต้องพึ่งพาเงินทองค่าใช้จ่ายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ ยกเว้นหัวหน้ากลุ่มแต่ละกลุ่มใช้เวลาที่เหลืออยู่หาเงินด้วยตัวเองได้อย่างแข็งแรง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะทำให้แบตเตอรี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อ่อนได้ด้วยเหตุผลนั้น ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับเงินทุน และตนเชื่อว่า แบตเตอรี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังแรงอยู่ แรงส่งยังดี และแรงรับก็ยังชัดเจนอยู่

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทำเรื่องขอลี้ภัยจากทางการอังกฤษนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องทำอยู่แล้ว เมื่อออกจากประเทศไทยก็ต้องไปกำหนดสถานภาพของตัวเองว่า จะอยู่ประเทศนั้นอย่างถาวรหรืออยู่นานๆ ได้อย่างไร เพราะถ้ายังถือวีซ่าเข้าประเทศอยู่ก็มีเวลาจำกัดที่จะอาศัยอยู่ประเทศนั้นๆ