เพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวรายวัน ปูดถามกองทัพผลาญงบประมาณตั้งทีมเสื้อแดงเทียม สะกดรอยสมาชิกเสื้อแดงจริง ร้อง นายกฯสั่งปลดอิสระฐานแทรกแซงการสอบสวนปลากระป๋องเน่า ตีโพยตีพายอภิปราชานิยมบกพร่อง สนับสนุนนักการเมืองเบียดบังงบ
วันนี้ (22 ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกับ นางสาวฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว โดย นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า การที่พรรคแถลงข่าวว่า เหล่าทัพใช้งบประมาณจัดทำเสื้อแดงเทียม 1 หมื่นตัว และฝ่ายความมั่นคงปฏิเสธไปนั้น ตนขอพูดแทนคนเสื้อแดงที่มาเรียกร้องความบริสุทธิ์ แต่ต้องถามว่า การใช้งบตัวนี้นั้นมาจากไหน และวันนี้ตนยังทราบว่า มีงบประมาณการติดตั้งกล้องถ่ายภาพขนาดจิ๋วของคนเสื้อแดงเทียม ที่ซื้อมาจากต่างประเทศมาติดตั้งในหลายพี้นที่ โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีศูนย์โมบายอีกหลายจุด เพื่อป้อนข้อมูลไปให้ศูนย์ต่อต้านคนเสื้อแดง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ว่า งบประมาณตัวนี้มาจากไหนในการจัดซื้อเครื่องมือ การจ้างบุคลากร และการซื้อเสื้อแดง รัฐบาลนี้มีเส้น มีทุน มีแบ็กอัพ แต่ตนอยากรู้ว่า งบประมาณตัวนี้เป็นงบลับหรืองบเปิดเผย เพราะเงินคงคลังของรัฐบาลในตอนนี้มีเพียง 3 หมื่นล้านบาทเศษ และตัวเลขต่างๆ ติดลบไปหมด ปัญหาบ้านเมืองมีมาก แต่การใช้งบประมาณนั้นไม่ควรนำมาใช้ต้านคนเสื้อแดงแบบสุรุ่ยสุร่ายเกินความจำเป็น ขอถามว่า เรื่องนี้มีใบเสร็จไหม เพราะมันใช้เทคโนโลยีชั้นสูง แต่ตนยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยข่าวทำร้ายรัฐบาล และกองทัพ เพราะพรรคตรวจสอบข้อมูลแบบถูกต้อง ก่อนที่จะแถลงข่าวทุกครั้ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากการที่พรรคติดตามกระทรวงพัฒนาสังคมฯมาตลอด ตั้งแต่นายวิฑูรย์ นามบุตร ลาออกจากตำแหน่ง และนายกฯ แต่งตั้ง นายอิสสระ สมชัย เข้าเป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนั้น เวลา 13 วันที่ผ่านมานั้น เรื่องราวที่เกี่ยวกับถุงยังชีพและปลากระป๋องเน่านั้น ข้าราชการที่หวังดีรายงานข้อมูล ว่า ข้าราชการบางคนให้ข้อมูลเป็นเท็จ กับการสอบสวนในเรื่องนี้ และอึดอัดกับการทำงานของ รมว.คนปัจจุบัน เนื่องจากมาจากพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น ส.ส.จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นทีมเดียวกับ นายวิฑูรย์ ตนทราบว่า นายอิสสระ ไปสั่งการด้วยวาจาเพื่อให้ข้าราชการช่วยเหลือ โดยให้ข้อมูลเท็จกับกรรมการชุดต่างๆ แม้ นายวิฑูรย์ ลาออกไปแล้ว ก็ตามบางคนถามว่า ตนจะตามไปฆ่าอีกทำไม แต่กฎเหล็ก 9 ข้อของนายกฯนั้นบัญญัติว่าห้ามรัฐมนตรีก้าวก่ายสั่งการการตรวจสอบต่างๆ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า แต่ นายอิสสระ ใช้ความเป็นพวกพ้องและคงจะอดไม่ได้ ฉะนั้น ในเรื่องนี้ตนเห็นว่ามีข้อเท็จจริง ตนจึงจะส่งหนังสือฉบับหนึ่งไปให้นายกฯให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งให้ นายอิสสระ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะดำเนินการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 และ 268 หากยังฝ่าฝืนอีกนั้นตน ยังมีระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองประกอบไป ฉะนั้น นายกฯควรให้นายอิสสระยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่า ผลการสอบสวนเรื่องปลากระป๋องเน่าจะบังเกิดผล
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หลักฐานต่างๆ ในเรื่องนี้มาจากข้อร้องเรียน และคำให้การกับ กมธ.ป.ป.ช.แต่นายกฯกลับไม่ทำอะไร มันมองเห็นว่าเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่กลับซูเอี๊ย มวยล้ม และปาหี่ คนดู เพราะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสอบสวนนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะล่าสุดรองประธาน กมธ.ป.ป.ช.ที่ออกมาพูดว่าไม่มีการทุจริตในเรื่องนี้ ก็คือ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แม้นายวิฑูรย์ จะลาออกไปแล้ว แต่นายกฯก็อยู่พรรคเดียวกันกับ นายวิฑูรย์ เรื่องนี้ข้าราชการกระทรวงนี้อึดอัดมาก หากตนเป็นข้าราชการกระทรวงนี้ก็กลัว เพราะแต่งตั้งคนในกระทรวงเดียวกันสอบสวนกันเอง แม้เรื่องนี้ ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ไปสอบสวนแล้ว แต่ตนจะฝาก กมธ.ชุดต่างๆ ของพรรคไปอภิปรายในสภา จากนั้นตนจะไปฟ้องศาลและองค์กรอิสระอีกด้วย หากนายวิเชียร สมมาตร ออกมาเมื่อใด ตนจะฟ้องศาลแน่นอนเพราะมีข้อมูลแล้ว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เพราะงบประมาณในเรื่องนี้จะไปถึงประชาชนเท่าใด แม้รัฐบาลชุดนี้จะมีอภิมหาประชานิยมก็ตาม แต่ต่างประเทศที่ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลแก้วิกฤตเศรษฐกิจแต่มันยังดิ่งเหว ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบกับเรื่องดังกล่าว แต่รัฐบาลชุดนี้ใช้นโยบายบริหารประเทศแบบบกพร่อง แล้วยังมีการฉ้อฉลงบประมาณกันแบบนี้ประชาชนจะเดือดร้อนอีกเท่าใด เรื่องนี้ทราบว่ากระทรวงนี้มีการทำหนังสือย้อนหลังในเรื่องนี้เพื่อปิดคดีแล้ว แม้เรื่องนี้จะแทรกแซงโดยวาจาและไม่มีหนังสือสั่งการ แต่ข้าราชการในกระทรวงนี้อึดอัด เพราะไม่อยากให้นักการเมืองเบียดบังงบประมาณ เนื่องจากนักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่ข้าราชการไม่อยากเป็นแพะในเรื่องนี้
“ฉะนั้น วันที่ 23 ก.พ.ตน และ ส.ส.ในพรรคจะไปพบนายกฯและยื่นหนังสือฉบับนี้ หากนายกฯไม่ดำเนินการ จะใช้วิธีการทางกฎหมายกับนายกฯและนายอิสสระในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยตนจะนำหนังสือรวมทั้งปลากระป๋องจากจ.พัทลุงไปให้นายกฯ ณ ทำเนียบฯ ในเวลา 09.30 น.วันที่ 23 ก.พ.จึงขอให้นายกฯรอรับด้วย ไม่อย่างนั้นจะเข้าข่ายนายกฯเป็นผงซักฟอกที่ช่วยเหลือพรรคพวกตัวเอง” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ด้าน นางสาวฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวด้านเศรษฐกิจว่า การส่งออกของประเทศติดลบนั้น ส่งผลให้คนตกงานเพิ่มขึ้นและเพิ่มวิกฤต เพราะตัวเลขการส่งออกที่ย่ำแย่ในเดือน ม.ค.ติดลบร้อยละ 26.5 นั้น น่าเป็นห่วง เพราะเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมีการขยายตัวร้อยละ 3.6 แต่ตัวเลขในปีนี้สร้างแรงช็อกกับประชาชน
โดยคาดว่าปีนี้จะมีคนตกงานทั้งปีเกินสองล้านคน ฉะนั้น พรรคเป็นห่วงว่าประชาชนจะโดนเลิกจ้าง
ขอถามว่า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร รัฐบาลขออนุมัติรัฐสภาเพื่อกู้เงิน 9.7 หมื่นล้านบาท แต่แก้ปัญหาแบบไม่ตรงจุดและไม่ถูกต้อง คือ ไปช่วยคนที่ไม่ตกงานคนละ 2,000 บาท แต่ประชาชนอีกเยอะที่ไม่มีเงินเดือน และไม่ได้เงินช่วยเหลือ รัฐบาลควรใช้วิธีลดเงินสมทบจากนายจ้างลงจากร้อยละ 2.5 โดยรัฐบาลจ่ายเพิ่มขึ้นให้แทน ตนยังเสียดายที่กระทรวงพาณิชย์ มีที่ปรึกษาเยอะ แต่กลับสร้างงานไม่ได้ดั่งที่ประชาชนหวังไว้ ฉะนั้น การส่งออกที่ต่ำลงจนน่าเป็นห่วงแบบนี้จะส่งผลกระทบกับประชาชนแน่นอน
วันนี้ (22 ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกับ นางสาวฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว โดย นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า การที่พรรคแถลงข่าวว่า เหล่าทัพใช้งบประมาณจัดทำเสื้อแดงเทียม 1 หมื่นตัว และฝ่ายความมั่นคงปฏิเสธไปนั้น ตนขอพูดแทนคนเสื้อแดงที่มาเรียกร้องความบริสุทธิ์ แต่ต้องถามว่า การใช้งบตัวนี้นั้นมาจากไหน และวันนี้ตนยังทราบว่า มีงบประมาณการติดตั้งกล้องถ่ายภาพขนาดจิ๋วของคนเสื้อแดงเทียม ที่ซื้อมาจากต่างประเทศมาติดตั้งในหลายพี้นที่ โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีศูนย์โมบายอีกหลายจุด เพื่อป้อนข้อมูลไปให้ศูนย์ต่อต้านคนเสื้อแดง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ ว่า งบประมาณตัวนี้มาจากไหนในการจัดซื้อเครื่องมือ การจ้างบุคลากร และการซื้อเสื้อแดง รัฐบาลนี้มีเส้น มีทุน มีแบ็กอัพ แต่ตนอยากรู้ว่า งบประมาณตัวนี้เป็นงบลับหรืองบเปิดเผย เพราะเงินคงคลังของรัฐบาลในตอนนี้มีเพียง 3 หมื่นล้านบาทเศษ และตัวเลขต่างๆ ติดลบไปหมด ปัญหาบ้านเมืองมีมาก แต่การใช้งบประมาณนั้นไม่ควรนำมาใช้ต้านคนเสื้อแดงแบบสุรุ่ยสุร่ายเกินความจำเป็น ขอถามว่า เรื่องนี้มีใบเสร็จไหม เพราะมันใช้เทคโนโลยีชั้นสูง แต่ตนยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยข่าวทำร้ายรัฐบาล และกองทัพ เพราะพรรคตรวจสอบข้อมูลแบบถูกต้อง ก่อนที่จะแถลงข่าวทุกครั้ง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากการที่พรรคติดตามกระทรวงพัฒนาสังคมฯมาตลอด ตั้งแต่นายวิฑูรย์ นามบุตร ลาออกจากตำแหน่ง และนายกฯ แต่งตั้ง นายอิสสระ สมชัย เข้าเป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนั้น เวลา 13 วันที่ผ่านมานั้น เรื่องราวที่เกี่ยวกับถุงยังชีพและปลากระป๋องเน่านั้น ข้าราชการที่หวังดีรายงานข้อมูล ว่า ข้าราชการบางคนให้ข้อมูลเป็นเท็จ กับการสอบสวนในเรื่องนี้ และอึดอัดกับการทำงานของ รมว.คนปัจจุบัน เนื่องจากมาจากพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น ส.ส.จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นทีมเดียวกับ นายวิฑูรย์ ตนทราบว่า นายอิสสระ ไปสั่งการด้วยวาจาเพื่อให้ข้าราชการช่วยเหลือ โดยให้ข้อมูลเท็จกับกรรมการชุดต่างๆ แม้ นายวิฑูรย์ ลาออกไปแล้ว ก็ตามบางคนถามว่า ตนจะตามไปฆ่าอีกทำไม แต่กฎเหล็ก 9 ข้อของนายกฯนั้นบัญญัติว่าห้ามรัฐมนตรีก้าวก่ายสั่งการการตรวจสอบต่างๆ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า แต่ นายอิสสระ ใช้ความเป็นพวกพ้องและคงจะอดไม่ได้ ฉะนั้น ในเรื่องนี้ตนเห็นว่ามีข้อเท็จจริง ตนจึงจะส่งหนังสือฉบับหนึ่งไปให้นายกฯให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งให้ นายอิสสระ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะดำเนินการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 และ 268 หากยังฝ่าฝืนอีกนั้นตน ยังมีระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองประกอบไป ฉะนั้น นายกฯควรให้นายอิสสระยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่า ผลการสอบสวนเรื่องปลากระป๋องเน่าจะบังเกิดผล
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หลักฐานต่างๆ ในเรื่องนี้มาจากข้อร้องเรียน และคำให้การกับ กมธ.ป.ป.ช.แต่นายกฯกลับไม่ทำอะไร มันมองเห็นว่าเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่กลับซูเอี๊ย มวยล้ม และปาหี่ คนดู เพราะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาสอบสวนนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะล่าสุดรองประธาน กมธ.ป.ป.ช.ที่ออกมาพูดว่าไม่มีการทุจริตในเรื่องนี้ ก็คือ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แม้นายวิฑูรย์ จะลาออกไปแล้ว แต่นายกฯก็อยู่พรรคเดียวกันกับ นายวิฑูรย์ เรื่องนี้ข้าราชการกระทรวงนี้อึดอัดมาก หากตนเป็นข้าราชการกระทรวงนี้ก็กลัว เพราะแต่งตั้งคนในกระทรวงเดียวกันสอบสวนกันเอง แม้เรื่องนี้ ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ไปสอบสวนแล้ว แต่ตนจะฝาก กมธ.ชุดต่างๆ ของพรรคไปอภิปรายในสภา จากนั้นตนจะไปฟ้องศาลและองค์กรอิสระอีกด้วย หากนายวิเชียร สมมาตร ออกมาเมื่อใด ตนจะฟ้องศาลแน่นอนเพราะมีข้อมูลแล้ว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เพราะงบประมาณในเรื่องนี้จะไปถึงประชาชนเท่าใด แม้รัฐบาลชุดนี้จะมีอภิมหาประชานิยมก็ตาม แต่ต่างประเทศที่ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลแก้วิกฤตเศรษฐกิจแต่มันยังดิ่งเหว ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบกับเรื่องดังกล่าว แต่รัฐบาลชุดนี้ใช้นโยบายบริหารประเทศแบบบกพร่อง แล้วยังมีการฉ้อฉลงบประมาณกันแบบนี้ประชาชนจะเดือดร้อนอีกเท่าใด เรื่องนี้ทราบว่ากระทรวงนี้มีการทำหนังสือย้อนหลังในเรื่องนี้เพื่อปิดคดีแล้ว แม้เรื่องนี้จะแทรกแซงโดยวาจาและไม่มีหนังสือสั่งการ แต่ข้าราชการในกระทรวงนี้อึดอัด เพราะไม่อยากให้นักการเมืองเบียดบังงบประมาณ เนื่องจากนักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่ข้าราชการไม่อยากเป็นแพะในเรื่องนี้
“ฉะนั้น วันที่ 23 ก.พ.ตน และ ส.ส.ในพรรคจะไปพบนายกฯและยื่นหนังสือฉบับนี้ หากนายกฯไม่ดำเนินการ จะใช้วิธีการทางกฎหมายกับนายกฯและนายอิสสระในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยตนจะนำหนังสือรวมทั้งปลากระป๋องจากจ.พัทลุงไปให้นายกฯ ณ ทำเนียบฯ ในเวลา 09.30 น.วันที่ 23 ก.พ.จึงขอให้นายกฯรอรับด้วย ไม่อย่างนั้นจะเข้าข่ายนายกฯเป็นผงซักฟอกที่ช่วยเหลือพรรคพวกตัวเอง” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ด้าน นางสาวฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวด้านเศรษฐกิจว่า การส่งออกของประเทศติดลบนั้น ส่งผลให้คนตกงานเพิ่มขึ้นและเพิ่มวิกฤต เพราะตัวเลขการส่งออกที่ย่ำแย่ในเดือน ม.ค.ติดลบร้อยละ 26.5 นั้น น่าเป็นห่วง เพราะเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมีการขยายตัวร้อยละ 3.6 แต่ตัวเลขในปีนี้สร้างแรงช็อกกับประชาชน
โดยคาดว่าปีนี้จะมีคนตกงานทั้งปีเกินสองล้านคน ฉะนั้น พรรคเป็นห่วงว่าประชาชนจะโดนเลิกจ้าง
ขอถามว่า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร รัฐบาลขออนุมัติรัฐสภาเพื่อกู้เงิน 9.7 หมื่นล้านบาท แต่แก้ปัญหาแบบไม่ตรงจุดและไม่ถูกต้อง คือ ไปช่วยคนที่ไม่ตกงานคนละ 2,000 บาท แต่ประชาชนอีกเยอะที่ไม่มีเงินเดือน และไม่ได้เงินช่วยเหลือ รัฐบาลควรใช้วิธีลดเงินสมทบจากนายจ้างลงจากร้อยละ 2.5 โดยรัฐบาลจ่ายเพิ่มขึ้นให้แทน ตนยังเสียดายที่กระทรวงพาณิชย์ มีที่ปรึกษาเยอะ แต่กลับสร้างงานไม่ได้ดั่งที่ประชาชนหวังไว้ ฉะนั้น การส่งออกที่ต่ำลงจนน่าเป็นห่วงแบบนี้จะส่งผลกระทบกับประชาชนแน่นอน
