xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ใหม่ไร้เสถียรภาพ

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรียบร้อยแล้วครับ กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภากับคณะรวม 29 คน ส่งคำร้องผ่านประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี (นายสมัคร สุนทรเวช)

ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้อง (นายสมัคร สุนทรเวช) กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 มีผลให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) และเมื่อศาลวินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้อง กระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว และเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 จึงเป็นเหตุให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง (1) แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ทำให้รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่เหลือจึงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181

สิ้นเสียงอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหัก นายสมัคร สุนทรเวช ก็ต้องคอตก แม้จะมีความหวังอยู่บ้างว่าสมาชิกพรรคพลังประชาชนจะเลือกกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เช่นเดียวกับการกระทำของเขาที่เลือกเอานายไชยา สะสมทรัพย์ กลับมาเป็นรัฐมนตรีอีก แถมให้ว่าการกระทรวงที่ใหญ่กว่าเดิม อันเป็นการตบหน้าศาลรัฐธรรมนูญที่เพิ่งวินิจฉัยให้เขาสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีในไม่กี่วันก่อนหน้านี้

เอาเข้าจริง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่นก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกับรองเท้าชำรุด หมดค่าหมดราคาจนเจ้าของต้องสลัดทิ้ง ด้วยการที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนไม่เข้าประชุมเพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ทั้งที่ตกปากรับคำแล้วว่า จะเสนอชื่อนายหอกหัก สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

มาถึงตอนนี้พรรคพลังประชาชนก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเข็นคนใดคนหนึ่งระหว่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มือหรือเท้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอีกคนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นมือหรือเท้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกคน

นี่ก็หมายความว่า การเมืองของประเทศไทยเราจะหนีไม่พ้นเงาร่างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างนั้นหรือ?

ไม่น่าจะใช่ และไม่น่าจะเป็นไปอย่างที่ว่านี้ ถ้าหากกลไกของรัฐในบางหน่วยงานทำงานเอาจริงเอาจังเสียบ้าง หน่วยงานที่ว่านี้ก็คือ สำนักงานอัยการสูงสุด มีคดีสำคัญที่ค้างอยู่ในหน่วยงานแห่งนี้ 3 คดี คือ คดียุบพรรคชาติไทย คดียุบพรรคมัฌชิมาธิปไตย และล่าสุดที่เพิ่งจะส่งไปจาก กกต. คือ คดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคซึ่งเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ต่างก็เป็นกรรมการบริหารอยู่ในขณะนี้

ถ้าหากสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ทำงานชนิดที่เรียกว่าเต็มไปด้วยความสุขุมคัมภีรภาพนี้เสียจนเกินเหตุแล้ว ป่านนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็คงจะได้พิจารณาคดียุบพรรคการเมืองของทั้งสามพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็จะเป็นที่รู้กันว่ามีพรรคการเมืองใดถูกยุบ พรรคการเมืองใดไม่ถูกยุบซึ่งจะส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศ ดีกว่าที่จะปล่อยให้คาราคาซังอยู่อย่างนี้

เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้อดคิดไม่ได้ว่า รัฐบาลใหม่หลังจากนายหอกหัก สมัคร สุนทรเวช จะบริหารประเทศไปได้สักกี่น้ำ เมื่อรัฐบาลรักษาการอยู่ขณะนี้ก็มีปัญหาทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปลงนามสนับสนุนให้กัมพูชาขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วยโดยที่ไม่ผ่านสภาหรือรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะทำอย่างไร หากพรรคที่เขาสังกัดถูกยุบ

เราจะปล่อยให้อนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนเช่นนี้ละหรือ

ทำไมไม่หาทางออก อาจจะด้วยการยุบสภา คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน นักการเมือง พรรคการเมืองที่มีอยู่ขณะนี้จับเข่าคุยกัน หาทางออกให้กับประเทศชาติ แทนที่จะสุมหัวกันต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีอย่างที่ทำกันอยู่ในขณะนี้

ยังไม่รู้อีกหรือว่าตำแหน่งแห่งที่ที่ต่อรองกันอยู่ขณะนี้ไร้เสถียรภาพ เปราะบาง จะพังครืนลงมาเมื่อใดก็ได้

ถ้าหากพรรคพลังประชาชนสนับสนุนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีสำเร็จ ไม่รู้หรือว่าภริยาของเขาซึ่งก็คือ น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีปัญหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบอยู่ว่า รวยผิดปกติหรือไม่ ไม่รู้หรือว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะหลุดพ้นเงาร่างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างไร

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ก็ไม่ต่างกัน

จะทำให้ประชาชนยอมรับได้อย่างไร ในสถานการณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยายังอยู่ในสภาพที่หนีหมายจับของศาลสถิตยุติธรรมอยู่อย่างนี้

จะไม่ให้ประชาชนคิดได้อย่างไรว่า หมดหุ่นตัวหนึ่งไปแล้วก็มีหุ่นตัวใหม่มาทำหน้าที่แทน

การยกคำอ้างที่ว่า มาจากการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความขลังนั้นเลิกอ้างได้แล้ว เพราะศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก็ให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคไปแล้ว กกต.ก็ลงมติไปแล้วว่าให้ส่งเรื่องให้อัยการ เพื่อให้อัยการส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ยังจะหน้าด้านอ้างกันอยู่อีกหรือ?
กำลังโหลดความคิดเห็น