xs
xsm
sm
md
lg

“เลห์แมน”ยักษ์วอลล์สตรีทย่ำแย่หนัก ราคาหุ้นดิ่ง46%หลังข่าวระดมทุนไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – เลห์แมน บราเธอร์ส วานณิชธนกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของสหรัฐฯกำลังกลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของวิกฤตอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯและวิกฤตการเงินทั่วโลก ข่าวลือที่ว่าบริษัทไม่สามารถจะระดมทุนใหม่ได้ในเร็ววันนี้ ส่งผลให้หุ้นของเลห์แมนดิ่งลงไป 46% เมื่อวันอังคาร (9)

หนึ่งในสัญญาณที่แสดงให้เห็นความร้ายแรงของปัญหา น่าจะเห็นได้จากเลห์แมน บราเธอร์ส ประกาศเลื่อนการเผยแพร่เอกสาร “ยุทธศาสตร์ความริเริ่มสำคัญ” รวมทั้งรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสให้เร็วขึ้นเป็นวันพุธ (10) ก่อนหน้ากำหนดเดิมหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม บรรดาแบงก์รายสำคัญของวอลสตรีท อาทิ โกลด์แมนแซคส์ แถลงว่ายังคงทำธุรกรรมทางการเงินกับเลห์แมนอยู่

ในสภาพที่อาจจะต้องตัดยอดขาดทุนเพิ่มเติมอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์ มีรายงานว่าเลห์แมนกำลังดิ้นรนพิจารณาทางเลือกต่างๆ ในการระดมเม็ดเงินใหม่เข้ามา ตั้งแต่ การขายหุ้นจำนวนหนึ่งให้แก่ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเกาหลี (เคดีบี) ไปจนถึงการตัดขายกิจการในเครือส่วนที่ยังทำกำไรได้ อาทิ หน่วยงานบริหารจัดการการลงทุน ทว่า ความพยายามเหล่านี้ยังไม่บังเกิดผล

“การเจรจาดำเนินไปสักพักหนึ่งแล้ว และผู้คนก็ยิ่งกังวลเรื่องสภาพคล่องและความอยู่รอดของเลห์แมนเพิ่มมากขึ้น” โรเบิร์ต แกรนท์ จาก อิสเทิร์น อินเวสเมนท์ แอดไวเซอร์ส ในบอสตันกล่าว บริษัทแห่งนี้มีเม็ดเงินลงทุน 1,800 ล้านดอลลาร์ ทว่าไม่เคยถือครองหุ้นของเลห์แมนแต่อย่างใด

ปัญหาอันสาหัสของเลห์แมน ยังทำให้เกิดการคาดเดาจากคนในวงการด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะเข้ามาแทรกแซงอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ หลังจากเพิ่งเข้าไปกอบกู้ช่วยเหลือ แฟนนี เม และ เฟรดดี แมค 2 สถาบันสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายยักษ์ใหญ่ไม่ให้ประสบภาวะล้มละลายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน รวมทั้งการเข้าไปสนับสนุนการเทคโอเวอร์วาณิชธนกิจแบร์สเติร์นส์ เมื่อหลายเดือนก่อน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯต่างก็ไม่ยอมตอบคำถามนี้

หุ้นของเลห์แมนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กวันอังคาร ปิดลดลง 6.36 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 7.79 ดอลลาร์ โดยในช่วงการค้าระหว่างวันได้ร่วงลงไปถึง 7.64 ดอลลาร์ อันเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนตุลาคมปี 1998 การร่วงลงรุนแรงนี้ทำให้มูลค่าตลาดของเลห์แมนหายไปถึง 4,400 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว อีกทั้งเป็นสาเหตุใหญ่ที่ดึงตลาดหุ้นสหรัฐฯให้ลงไปปิดในแดนลบ ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรกระทรวงการคลังขยับขึ้น

แต่หลังจากนั้นหุ้นเลห์แมนสามารถขยับขึ้น กลับมาเป็น 8.35 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหุ้นในการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หลังตลาดปิด และหลังจากที่เลห์แมนออกมาบอกว่าจะประกาศผลประกอบการและมาตรการต่าง ๆ เร็วขึ้นกว่าที่ได้กำหนดไว้

นักลงทุนต่างก็วิตกว่า ริชาร์ด ฟัลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเลห์แมน จะไม่สามารถระดมทุนได้เพียงพอต่อการดำเนินงานของบริษัท หากว่าเลห์แมนต้องตัดยอดขาดทุนเพิ่มขึ้นที่มาจากการลงทุนในตราสารสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินทรัพย์ที่ไร้สภาพคล่องไปแล้วอื่น ๆ

มีรายงานออกมาว่าเลห์แมนกำลังดูทางเลือกอื่น ๆ อย่างเช่นการขาย นิวเบอร์เกอร์ แอนด์ เบอร์แมน ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการสินทรัพย์ และเป็นธุรกิจที่ยังแข็งแกร่งที่สุดธุรกิจหนึ่งของเลห์แมน นักวิเคราะห์คาดกันว่าน่าจะทำเงินได้ราว 7,000-8,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้เลห์แมนก็ยังอาจจะขายทิ้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่เลห์แมนถืออยู่จำนวนมหาศาลไป

ส่วนอีกทางหนึ่ง อันได้แก่การขายหุ้นให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาของเกาหลี(เคดีบี) นั้นน่าจะเป็นไปได้น้อยมาก โดยมีรายงานที่สับสนว่ายังมีการเจรจากันอยู่หรือไม่ ทว่าสิ่งที่แน่ๆ คือ การหารือหลายครั้งที่ผ่านมายังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ

“มันเหมือนกับฉายภาพตอนแบร์สเติร์นสล้มอีกครั้ง” เกรก ซัลแวกจิโอ นักค้าตราสารของเทมปัส คอนซัลติง กล่าว แบร์สเติร์นส ซึ่งเป็นวานิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯเช่นกัน ได้ล้มครืนลงไปด้วยปัญหาขาดสภาพคล่องและการตัดยอดขาดทุนมหาศาลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สิ่งที่ไม่เหมือนกับแบร์สเติรนส ก็คือ แบร์สเติร์นสนั้นให้ผู้บริหาระดับสูงออกมาพูดอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งบริษัทล้มไป แต่ผู้บริหารของเลห์แมนกลับปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใด ๆ โดยแบงก์แห่งนี้กล่าวแต่เพียงว่า ผู้บริหารจะพูดและตอบคำถามเมื่อรายงานผลประกอบการและมาตรการใหม่ ๆ ออกมาในวันพุธ (10)นี้เท่านั้น

สำหรับหน่วยงานกำกับตรวจสอบอย่างเช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(เอสอีซี) ต่างปฏิเสธที่จะให้ข่าวใด ๆออกมา ส่วนโฆษกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯบอกเพียงแต่ว่าเจ้าหน้าที่ยังคงติดต่อกับภาคเอกชนในวอลล์สตรีทเป็นระยะ ทางด้านโฆษกหน่วยงานกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กกล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของหุ้นเลห์แมนอย่างใกล้ชิด

ในส่วนของ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายยักษ์ใหญ่ กล่าวว่า อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของเลห์แมน ซึ่งเวลานี้อยู่ที่ “A” เพราะตอนนี้เลห์แมนมี “ความไม่มั่นคงสูง” โดยเฉพาะเรื่องการระดมทุนเพื่อพยุงสถานะ ขณะที่ราคาหุ้นลดลงอย่างรวดเร็ว เอสแอนด์พียังกล่าวอีกว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถืออาจจะมากกว่าหนึ่งขั้นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น