00 จนถึงนาทีนี้แนวความคิดของลูกพรรคพลังประชาชนจำนวนไม่น้อย ยังคงมีความพยายามที่จะดันก้น “ไอ้หอกหัก” กลับเข้ามาอีกครั้ง ทำเสมือนว่ามีเจตนา “ตบหน้า” ศาลรัฐธรรมนูญ ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่สนใจใยดีใดๆ ทั้งสิ้น
00 อีกมุมหนึ่งมันก็น่าแปลกใจเช่นเดียวกันว่า ถ้าออกโทนนี้ก็ต้องโดนสวดกันขรม ทั้งบ้านทั้งเมืองแน่ เชื่อแน่ว่าแม้กระทั่งพวก “ริบบิ้น” ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม หรือพวกนักวิชาการ “อ่อนหัด” แถวมหาวิทยาลัยรอบดึก ก็คงกระอักกระอ่วนไปไม่เป็นแน่
00 ใจหนึ่งก็อยากให้คนในพรรคพลังประชาชนกับ 5 พรรคร่วมรัฐบาล อย่าได้เปลี่ยนใจเป็นอันขาด ช่วยกันแบก “หามศพ” นายสมัคร กันต่อไป เพราะจะได้รู้กันเสียทีว่า“นรก” มันเป็นแบบไหน และมันมีจริง แต่อีกใจหนึ่งก็อยากภาวนาให้พวกเขาเปลี่ยนใจ หยุดทำร้ายบ้านเมืองเสียที เพราะถ้ายังขืนดึงดันแบบหน้าด้านๆ แบบนี้ต่อไปมันก็จะปั่นป่วนกันทั้งประเทศ
00 ไม่อยากจะคิดในทางลบว่านี่มันเป็น “เจตนาชั่วร้าย” ที่พยายามจงใจให้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดแรงต้านขนานใหญ่ ทำให้เกิดความโกลาหล ดีไม่ดีอาจก่อ “สงครามประชาชน” ตามที่พวกสัตว์นรกพันธุ์นี้ต้องการก็เป็นได้ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้วันใด โอกาสขอลี้ภัยของ“นายหน้าเหลี่ยม” เพื่อตั้งหลักทำให้เป็นเรื่องการเมืองก็จะสมประสงค์ ซื้อเวลา ชักใยอยู่ข้างนอก รอวันเปลี่ยนแปลงแล้วค่อยกลับเข้ามาอย่างวีรบุรุษ
00 ทุกอย่างมีสิทธิ์ฝันกันได้ แต่จะเป็นไปได้แค่ไหน และที่สำคัญขึ้นอยู่กับว่าคนในสังคมจะ “รู้ทัน” แค่ไหน ถ้าพูดถึงบรรยากาศก่อนหน้านี้อาจเป็นไปได้ แต่นาทีนี้สังคมได้ตื่นขึ้นแล้ว รู้ทันแล้ว อย่างน้อยคนที่ดู"เอเอสทีวี" และเข้าร่วมชุมนุมในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาอย่างยาวนาน รับรองไม่ “เสียรู้” คนพวกนี้แน่
00 อีกด้านหนึ่งในช่วงวันสองวันนี้ ถ้าใครผ่านไปแถวถนนจรัญสนิทวงศ์ก็จะเห็น “ชายร่างสั้น” คนหนึ่ง กำลังนั่งฝันจนน้ำลายเยิ้ม ไอ้ประเภท “ผมไม่รับ” หรือ “ผมทนแรงเสียดทาน” แบบนี้ไม่ไหวสุดที่จะพรั่งพรูออกมา ถ้ารู้ทันก็เป็นแค่เกมลวง ต้องการนิ่งไว้ก่อน โดยใช้หลักที่ว่า ถ้าอยากเป็นต้องพูดไปว่าไม่อยากเป็นแล้วจะได้เป็น อะไรประมาณนี้แหละ
00 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะนักการเมืองประเภท “ล้าหลัง” พวกนี้จะเคลิ้มฝันอย่างไรก็ตาม แต่ ณ นาทีนี้ ชาวบ้านที่สุดทนกับนักการเมืองเก่าก็จะปฏิเสธต่อไป และหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อก็คอยดูไปก็แล้วกัน
00 เพราะถือว่าทั้ง 6 พรรคร่วมรัฐบาล หมดความชอบธรรมไปตั้งนานแล้วหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ว่ารัฐบาลได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา190 กรณีรับรองแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเรื่องการยกอธิปไตยปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา การรับรองการออกพระราชกำหนดประกาศภาวะฉุกเฉินโดยไร้เหตุผล และไม่สมเหตุสมผล หรือไล่เรียงกันมาในเรื่องที่ กกต. ส่งเรื่องให้ยุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย เนื่องจากโกงการเลือกตั้ง หรือ ล่าสุดพรรคพลังประชาชน ก็ถูก กกต.ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรค เนื่องจากโกงการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ไม่นับเรื่องโครงการทุจริตอีกมากมาย
00 แค่นี้ก็เพียงพอที่จะบอกว่า “พวกแก” หมดความชอบธรรมในการเป็นรัฐบาล หรือการเป็นนักการเมืองอีกต่อไป เพราะนี่คือการเมืองเก่าสามานย์ ชาวบ้านเขาสะอิดสะเอียน ไม่เอาแล้ว !!
00 อีกมุมหนึ่งมันก็น่าแปลกใจเช่นเดียวกันว่า ถ้าออกโทนนี้ก็ต้องโดนสวดกันขรม ทั้งบ้านทั้งเมืองแน่ เชื่อแน่ว่าแม้กระทั่งพวก “ริบบิ้น” ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม หรือพวกนักวิชาการ “อ่อนหัด” แถวมหาวิทยาลัยรอบดึก ก็คงกระอักกระอ่วนไปไม่เป็นแน่
00 ใจหนึ่งก็อยากให้คนในพรรคพลังประชาชนกับ 5 พรรคร่วมรัฐบาล อย่าได้เปลี่ยนใจเป็นอันขาด ช่วยกันแบก “หามศพ” นายสมัคร กันต่อไป เพราะจะได้รู้กันเสียทีว่า“นรก” มันเป็นแบบไหน และมันมีจริง แต่อีกใจหนึ่งก็อยากภาวนาให้พวกเขาเปลี่ยนใจ หยุดทำร้ายบ้านเมืองเสียที เพราะถ้ายังขืนดึงดันแบบหน้าด้านๆ แบบนี้ต่อไปมันก็จะปั่นป่วนกันทั้งประเทศ
00 ไม่อยากจะคิดในทางลบว่านี่มันเป็น “เจตนาชั่วร้าย” ที่พยายามจงใจให้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดแรงต้านขนานใหญ่ ทำให้เกิดความโกลาหล ดีไม่ดีอาจก่อ “สงครามประชาชน” ตามที่พวกสัตว์นรกพันธุ์นี้ต้องการก็เป็นได้ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้วันใด โอกาสขอลี้ภัยของ“นายหน้าเหลี่ยม” เพื่อตั้งหลักทำให้เป็นเรื่องการเมืองก็จะสมประสงค์ ซื้อเวลา ชักใยอยู่ข้างนอก รอวันเปลี่ยนแปลงแล้วค่อยกลับเข้ามาอย่างวีรบุรุษ
00 ทุกอย่างมีสิทธิ์ฝันกันได้ แต่จะเป็นไปได้แค่ไหน และที่สำคัญขึ้นอยู่กับว่าคนในสังคมจะ “รู้ทัน” แค่ไหน ถ้าพูดถึงบรรยากาศก่อนหน้านี้อาจเป็นไปได้ แต่นาทีนี้สังคมได้ตื่นขึ้นแล้ว รู้ทันแล้ว อย่างน้อยคนที่ดู"เอเอสทีวี" และเข้าร่วมชุมนุมในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาอย่างยาวนาน รับรองไม่ “เสียรู้” คนพวกนี้แน่
00 อีกด้านหนึ่งในช่วงวันสองวันนี้ ถ้าใครผ่านไปแถวถนนจรัญสนิทวงศ์ก็จะเห็น “ชายร่างสั้น” คนหนึ่ง กำลังนั่งฝันจนน้ำลายเยิ้ม ไอ้ประเภท “ผมไม่รับ” หรือ “ผมทนแรงเสียดทาน” แบบนี้ไม่ไหวสุดที่จะพรั่งพรูออกมา ถ้ารู้ทันก็เป็นแค่เกมลวง ต้องการนิ่งไว้ก่อน โดยใช้หลักที่ว่า ถ้าอยากเป็นต้องพูดไปว่าไม่อยากเป็นแล้วจะได้เป็น อะไรประมาณนี้แหละ
00 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะนักการเมืองประเภท “ล้าหลัง” พวกนี้จะเคลิ้มฝันอย่างไรก็ตาม แต่ ณ นาทีนี้ ชาวบ้านที่สุดทนกับนักการเมืองเก่าก็จะปฏิเสธต่อไป และหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อก็คอยดูไปก็แล้วกัน
00 เพราะถือว่าทั้ง 6 พรรคร่วมรัฐบาล หมดความชอบธรรมไปตั้งนานแล้วหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ว่ารัฐบาลได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา190 กรณีรับรองแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเรื่องการยกอธิปไตยปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา การรับรองการออกพระราชกำหนดประกาศภาวะฉุกเฉินโดยไร้เหตุผล และไม่สมเหตุสมผล หรือไล่เรียงกันมาในเรื่องที่ กกต. ส่งเรื่องให้ยุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย เนื่องจากโกงการเลือกตั้ง หรือ ล่าสุดพรรคพลังประชาชน ก็ถูก กกต.ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรค เนื่องจากโกงการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ไม่นับเรื่องโครงการทุจริตอีกมากมาย
00 แค่นี้ก็เพียงพอที่จะบอกว่า “พวกแก” หมดความชอบธรรมในการเป็นรัฐบาล หรือการเป็นนักการเมืองอีกต่อไป เพราะนี่คือการเมืองเก่าสามานย์ ชาวบ้านเขาสะอิดสะเอียน ไม่เอาแล้ว !!
