xs
xsm
sm
md
lg

วาระสุดท้ายของไอ้หอกหัก!

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

นับตั้งแต่รัฐบาลหุ่น สมัคร สุนทรเวช ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยหวังเอาว่า ประกาศดังกล่าวจะสามารถยุติการชุมนุมของผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยที่ปักหลักพักค้างอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และบริเวณสะพานมัฆวานฯ ได้ การณ์กลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่นายกรัฐมนตรีที่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรีที่สุดนับตั้งแต่ที่เราเคยมีนายกรัฐมนตรีมา

เพราะการประกาศภาวะฉุกเฉินก็เป็นเพียงประกาศที่ไม่มีผลบังคับใดๆ เหมือนสายลมที่วูบมาแล้วก็เลยผ่านไป

หวังว่าจะใช้ทหารเป็นเครื่องมือในการปราบปรามประชาชน ทหารก็ไม่เล่นด้วย จนนายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหักต้องบ่นออกมาว่า “ให้ปืนไปแล้วก็พกไว้เฉยๆ”

หวังว่าประชาชนจะตื่นกลัว ไม่กล้าออกมานอกบ้าน ไม่กล้าออกจากเคหสถาน กลับกลายเป็นว่า มีผู้มาร่วมชุมนุมมากขึ้น แถมขยายไปยังรั้วมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนเข้าร่วมชุมนุม และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหักลาออกไปเสีย

แต่นายสมัคร สุนทรเวช ก็ยังคงรักษามาตรฐานของความเป็นคนดื้อด้านได้อย่างคงเส้นคงวา นั่นก็คือ ไม่ยุบสภาฯ และไม่คิดจะลาออก

พูดอยู่คำเดียวว่า เขามาจากการเลือกตั้งจะยอมแพ้เสียงเรียกร้องข้างถนนของคนไม่กี่คนไม่ได้เด็ดขาด

เป็นการพูดที่ไม่ได้สำรวจตัวเองว่าลำพังความเป็นนายสมัคร สุนทรเวช จะมีวันนี้หรือก้าวมาถึงวันนี้หรือ ถ้าหากไม่ได้รับความอนุเคราะห์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีลูกพรรคมากมายพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือ

และถ้าไม่เป็นคนบอกได้ใช้ฟังของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่มาได้ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงวันนี้หรือ?

แต่ก็นั่นแหละ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่น จะดื้อด้านอย่างไรก็หนีไม่พ้นชะตากรรม

ประการแรก ศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ แล้ว เป็นวันที่ 25 กันยายน 2551 ที่จะถึงนี้

คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกโดยที่ไม่รอลงอาญามาเป็นปีแล้ว ถึงศาลอุทธรณ์ ถ้าหากจะพิจารณาโดยไม่รอคิวก็ใช้เวลาไม่นาน แต่เพราะมีคดีความมากมายค้างอยู่ที่ศาล (ทุกศาลทั้งอุทธรณ์ ฎีกา) มาถึงวันนี้ศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาแล้ว

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหักดื้อ เปิดเผยว่า จะขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจะต้องไปประชุมสหประชาชาติ

ไม่แน่นักว่า ศาลอุทธรณ์อาจจะเลื่อนอ่านคำพิพากษาให้เร็วขึ้นก็ได้ เพราะคำพิพากษาเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

อาจจะเป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็เป็นได้ และถ้าหากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหัก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ

หรืออีกคดี คือ คดีชิมไปบ่นไป ที่นายกรัฐมนตรีหอกหักโอดครวญว่า อะไรกัน แค่ทำกับข้าวก็ผิดด้วยหรือ?

ก็แค่ทำกับข้าวนั่นแหละ ได้รับค่าจ้างหรือค่าแสดงเท่าไร ถ้าหากมิใช่นายกรัฐมนตรีค่าโฆษณาจะได้ขนาดนั้นหรือ ถ้ามิใช่นายกรัฐมนตรี ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของบริษัท เจ้าของรายการจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดการบินไทยหรือ

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เขาเรียกกันว่า ผลประโยชน์ทับซ้อน
เล่นการเมืองมาตั้งแต่เป็นสมาชิกเทศบาลนครกรุงเทพฯ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะการอนุเคราะห์เกื้อหนุนของคนอื่นเขา และอีกไม่กี่วันก็จะเข้าโลงอยู่แล้ว ยังไม่รู้เรื่องทำนองนี้อีกหรือ

จะรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่อง จะเข้าใจไปจนเข้าโลงว่า อะไรกันทำกับข้าวแค่นี้ก็ผิดด้วยหรือ นั่นก็ช่างนายสมัคร สุนทรเวช เถอะ เพราะผู้ที่พิจารณาและตัดสินเรื่องนี้มิใช่นายสมัคร สุนทรเวช
หากคือ ตุลาการรัฐธรรมนูญ
หลังจากฟังและพิจารณาหลักฐานพยานต่างๆ แล้ว ก็เชื่อว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาได้ว่า นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหักนายนี้ผิดหรือไม่ผิด

และก็คงจะไม่ใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปีในการพิจารณาชนิดที่เรียกกันว่า สุขุมคัมภีรภาพเหมือนบางองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อัยการ” ที่พิจารณาจะฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีที่ คตส. และ กกต.ส่งให้พิจารณาเป็นไปด้วยความสุขุมรอบคอบเป็นพิเศษ

ยิ่งถ้าหากเกี่ยวข้องกับญาติโกโหติกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคพลังประชาชน หรือพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ยิ่งต้องเพิ่มความสุขุม

ถ้าหากท่านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาได้รวดเร็ว ไม่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี เราก็คงจะได้เห็นกันแหละครับว่า นายกรัฐมนตรีหอกหักคนนี้จะดื้อด้านไปได้สักกี่น้ำ หลังจากที่ดื้อด้านแสดงความหน้าหนาออกมาแล้ว เมื่อครั้งที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่า การทำหนังสือหรือข้อตกลงกับกัมพูชาสมัยที่นายนพดล ปัทมะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190

ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีคนอื่น เขาก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกไปแล้ว
แต่นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหักแสดงความรับผิดชอบด้วยการหน้าหนา
เรื่องจึงได้ยืดเยื้อยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เที่ยวได้บอกใครต่อใครว่า บรรดาทูตประเทศต่างๆ รับไม่ได้กับการปฏิวัติรัฐประหาร

แม้แต่การปฏิวัติหรือการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชน!
พูดง่ายๆ ก็คือ ให้ยอมรับไอ้จิ้งจอกหอกหักคนนี้คนเดียว เป็นนายกรัฐมนตรี (ทูตประเทศต่างๆ จึงจะยอมรับได้)

ผมเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหารหรอกครับ แต่กิจการภายในประเทศของเรามันกงการของทูตหน้าไหน ประเทศไหนมันจะมากำหนดให้เราเดินได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเคลื่อนไหวของประชาชนไทยทั้งหลายทั้งปวง
ทูตหน้าไหนมันจะมากำหนดแล้วไอ้ที่มันเคยสนับสนุนทรราชชาติชั่วให้กดขี่ข่มเหงประชาชนคนไทยล่ะ มันใครที่ไหน

มันรับรู้ และรับได้แต่กับคนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยที่ไม่พิจารณาเลยหรือว่า ไอ้คนที่มาจากการเลือกตั้งมาอย่างไร เป็นมือปืนรับจ้างเขามาหรือเปล่า พื้นเพเดิม หรือจิตสำนึกเดิมๆ ของมันเคยเป็นเผด็จการมาบ้างไหม เคยสนับสนุนการเข่นฆ่าประชาชนมาบ้างไหม

หรือแท้จริงแล้ว นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหักพูดเอง เออเอง อันเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนวาระสุดท้ายจะมาถึง
กำลังโหลดความคิดเห็น