“สนธิ” ชี้ต้นตอการเมืองป่วน เหตุรัฐบาลประนีประนอมกลุ่มทหาร-ตำรวจและ “เนวิน” ที่แอบเป็นใจให้ม็อบแดงป่วนชาติ หวังลดความน่าเชื่อถือนายกฯ สร้างเงื่อนไขล่อ “เสื้อเหลือง” ออกมาปะทะ ก่อนฉวยโอกาสยึดอำนาจ แนะ “มาร์ค” ใจกล้าเปลี่ยน รมว.กลาโหม พร้อมย้าย ผบ.ทบ., ผบ.ตร. และ ผบ.ทร. นำบ้านเมืองสู่ความสงบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ความเห็นผ่านรายการ “คนในข่าว” คืนวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อการจัดการกับม็อบเสื้อแดงของรัฐบาลว่า ว่า เราต้องไล่มาตั้งแต่ต้นเลยว่า การตั้งรัฐบาลชุดนี้เป็นการประนีประนอมกับกลุ่มหลายๆ กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือที่เห็นชัดเจน คือกลุ่มของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง 3 คนนี้มีความผูกพันกันอย่างแน่นหนา พล.อ.ประวิตร ก็ห่วงน้องชาย (พล.ต.อ.พัชรวาท) ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ก็ต้องการให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้ต่อไปโดยไม่มีการกระทบกระเทือน โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นตัวเชื่อม
“นายเนวินก่อนที่จะมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ก็อยู่ระหว่างกำลังหาที่พึ่งพิงใหม่ และเห็นว่าไม่มีอะไรดีไปกว่า มาพึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ก็ต้องการใช้นายเนวินในทางการเมือง เหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า”
นายสนธิกล่าวต่อว่า การตั้งรัฐบาลนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยอมให้นายเนวิน และ พล.อ.อนุพงษ์ มากเกินไป จะเห็นว่า สิ่งแรกที่เขาควรจะเปลี่ยน คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้ที่ตำรวจไม่ทำงาน พล.ต.อ.พัชรวาทมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดขึ้นเกินกว่า 50% นอกจากนี้นายตำรวจที่ควรจะย้ายก็ไม่ย้าย เช่น พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. ที่ถูกกล่าวหามีส่วนฆ่าประชาชน แทนที่จะถูกย้ายเข้าประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับได้ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ตามคำขอร้องของนายเวนิน ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ก็ยังอยู่ที่เดิม ให้มาเล่นงานพันธมิตรฯ เหมือนเดิมตามคำขอร้องของนายเนวิน เพราะฉะนั้นจึงถือว่านายสุเทพสอบตกเรื่องนี้อย่างมาก
นายสนธิกล่าวอีกว่า จากที่เฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่าเหตุการณ์ที่พัทยานั้นไม่ใช่แค่ตำรวจใส่เกียร์ว่าง ทหารก็ใส่เกียร์ว่างด้วย ทั้งทหารตำรวจทุกคนรวมกันเบ็ดเสร็จแล้วมี 1 หมื่นกว่าคน แต่ตนเห็นคนเสื้อแดงเดินผ่าน ด้านซ้ายตำรวจตั้งแถว ด้านขวาทหารตั้งแถว แล้วคนเสื้อแดงเดินตรงกลาง แต่ก็ยืนดูอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เสื้อแดงเดินขึ้นไปหน้าตาเฉย
“ผมคิดว่ามีการวางยากันที่พัทยา เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของคุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ถ้าผมจะฟันธงไปเลยก็คือว่า จริงๆ แล้ว ถ้าเสื้อเหลืองออกไปวันนั้นมีปฏิวัติเกิดขึ้นแล้ว และคนที่จะปฏิวัติวันนั้นจะเป็นคุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา เผอิญผมไม่ได้ตกหลุมพรางอันนั้น และแกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่ได้ตกหลุมพรางด้วย มันก็เลยเกิดกระบวนการเสื้อน้ำเงินตีเสื้อแดง แต่ถ้าเราพิจารณาให้ชัด จะเห็นว่าเขาตีกันประเดี๋ยวเดียว พอขึ้นไปข้างบนแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็จับมือกัน ให้สังเกตดูดีๆ ไม่ได้ตีกันจริง นี่คือกระบวนการสร้างสาถนการณ์เพื่อต้อนนายอภิสิทธิ์ให้จนมุม”
นายสนธิกล่าวต่อว่า หลังจากนั้น เชื่อว่านายอภิสิทธิ์คงจะได้ยาดี อาจได้ปรึกษาหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองบางคน จึงตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากนั้นอำนาจการสั่งการ โยกย้ายข้าราชการก็มาอยู่ในมือนายกฯ ทันที ตนเข้าใจว่า ถ้ายังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน พวกที่พัทยาก็ยังสร้างเรื่องอยู่ พวกที่กรุงเทพฯ ก็เริ่มอาละวาด เราจะได้เห็นรถถังออกมาทันที เผอิญการแก้เกมทำได้ทันควัน
“สังเกตว่าในการแถลงข่าวของนายกฯ นั้นทหารบางคนหน้าตาดูไม่ดีเลย อย่าลืมว่าหน้าตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แสดงว่า มันพลาดไปแค่ดีดนิ้วเท่านั้นเอง ฉะนั้นวันนี้เราจึงยังต้องให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ อย่างเต็มที่ ถ้านายอภิสิทธิ์มีความกล้าหาญจริง อย่างที่พันธมิตรฯ เคยพูดไว้แล้วว่า จะต้องเปลี่ยนนายสุเทพซะ”
นายสนธิกล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่านายสุเทพโง่ หรือแกล้งโง่ หรือว่าแอบให้ความร่วมมือกับเขา (คนเสื้อแดง) แต่ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพราะว่าตำรวจให้ความร่วมมือ(กับคนเสื้อแดง)หมดทุกอย่าง ในเมื่อนายสุเทพคุมตำรวจแต่ไม่สามารถสั่งตำรวจได้ นายสุเทพต้องละอายใจตัวเอง นายสุเทพเป็นตัวการทำให้ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ (เลขาธิการนายกฯ – พี่ภรรยา) ต้องเจ็บตัว นายสุเทพต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.พัชรวาทต้องไปทันที พล.อ.อนุพงษ์ ก็ต้องไป ผู้บัญชาการทหารเรือก็ต้องไป เพราะว่าเขตขลบุรีเป็นเขตทหารเรือ กองบัญชาการหนาวิกโยธินก็อยู่ที่นั่น แต่ไม่ทำอะไร แค่มายืนดันไปดันมา ข้อสุดท้าย พล.อ.ประวิตร ก็ควรจะไปเช่นกัน
“ถ้าเปลี่ยน 4 คนนี้ได้ ก็จะสงบทันที ผมไม่เชื่อว่า พล.อนุพงษ์จะกล้าหาญทำอะไร เพราะไม่กล้ามาแต่ต้นแล้ว ถ้าคุณอภิสิทธิ์จะกล้าทำอะไร ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะสงบ ตำรวจก็จะเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ถ้าตำรวจเปลี่ยนปั๊บ ทหารอยู่ในแถว ไม่แอบไปจับมือกับนักการเมืองบางคน ผมเชื่อว่าเราจะเห็นการเมืองดีขึ้น” นายสนธิ กล่าว