“นายกรัฐมนตรี” ท้าชนแดงถ่อย ลั่นใครประกาศชัยชนะหลังป่วนประชุมอาเซียนซัมมิตสำเร็จ ถือเป็นศัตรูของประเทศ! แอ่นอกป้องชาติด้วยชีวิต จะไม่ยอมให้ใครสร้างความเสียหายอีกต่อไป และจะรับผิดชอบเอาความสงบสุขกลับมาสู่แผ่นดินให้ได้โดยเร็ว ขณะเดียวกัน ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงในชลบุรีและพัทยา หลังส่งผู้นำอาเซียนกลับประเทศเรียบร้อยแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าว
ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา เมื่อเวลา 19.25 น. วันที่ 11 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวอีกครั้งว่า ขอทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนและหลังจากนี้จะไปปฏิบัติภารกิจก่อนที่จะแถลงการณ์กับพี่น้องประชาชนอีกครั้งในค่ำวันนี้ (11 เม.ย.) เชื่อว่าพี่น้องประชาชนรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเหตุการณ์ชุมนุมต่อต้านและมีวัตถุประสงค์ที่จะขัดขวางการประชุมอาเซียนและอาเซียนกับคู่เจรจา นำไปสู่การตัดสินใจของรัฐบาลในการเลื่อนการประชุมออกไป ขอเรียนว่าการที่เราไม่สามารถจัดการประชุมได้ครั้งนี้คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเกิดความเสียหายไม่ใช่เฉพาะแง่สาระของการประชุมแต่ในแง่ภาพลักษณ์ของประเทศ ความเชื่อมั่นของประเทศและเป็นเหตุการณ์ที่ตนมั่นใจว่า ทุกคนที่มีหัวใจของความเป็นคนไทยไม่ประสงค์จะให้เกิดขึ้น
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ลำดับเหตุการณ์ที่มาของการตัดสินใจในครั้งนี้ ขอเรียนว่าไม่มีส่วนใดเลยที่เป็นเรื่องการกระทำของรัฐบาลเป็นการกระทำอย่างมีเจตนาของผู้ที่จงใจจะขัดขวางการประชุมและรัฐบาลทำงานภายใต้ข้อจำกัดว่า เราต้องดูแลความปลอดภัยของผู้นำประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ อาเซียน 9 ประเทศเท่านั้น แต่มีประเทศคู่เจรจาอีกหลายประเทศ ซึ่งได้เดินทางมาถึงแล้ว ดังนั้น อยากจะเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลต้องขออภัยที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แม้ไม่ได้เป็นการกระทำของรัฐบาลก็ตาม แต่ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแล เพื่อให้การประชุมประสบความสำเร็จ
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนได้ประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่เมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรี และได้เรียนพี่น้องประชาชนว่าภารกิจของตนคือ การดูแลการเดินทางกลับของผู้นำประเทศต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอเรียนว่าขณะนี้การดูแลการเดินทางกลับของผู้นำประเทศต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งภารกิจเสร็จสิ้นลุล่วงด้วยดีแล้วและได้มีโอกาสไปพบกับผู้นำทุกประเทศ โดยขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ได้รับความเห็นใจและเข้าใจจากผู้นำทุกประเทศ
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนายบันคีมุน เลขาธิการยูเอ็น ซึ่งยังเดินทางมาไม่ถึงนั้นก็ได้พูดคุยพร้อมขอโทษผ่านทางโทรศัพท์แล้ว ซึ่งก็ได้รับความเห็นใจและเข้าใจเช่นกัน ยกเว้นนายกรัฐมนตรีประเทศออสเตรเลียที่ยังไม่ได้คุยด้วยเพราะอยู่ระหว่างเดินทางกลับประเทศออสเตรเลีย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้นขอเรียนว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่นี้ต่อไปจึงได้มีประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินในพื้นที่พัทยา และจังหวัดชลบุรี อย่างไรก็ดีเมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้นตนจะเดินทางเพื่อไปประชุมปรึกษาหารือถึงแนวทางต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องทำให้ความสงบเรียบร้อยกลับคืนสู่บ้านเมืองอย่างแท้จริง นี่คือเป้าหมายสำคัญที่สุด และจะปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางวิธีการที่จะได้มา ซึ่งเป้าหมายนั้น ขอยืนยันว่า การทำงานของตนจากนี้ไปจะมุ่งไปสู่เป้าหมายนั้นอย่างเดียว ไม่มีเป้าหมายอื่นแอบแฝง
“อยากเรียนว่า บนความสูญเสียของประเทศชาติในวันนี้ ใครก็ตามที่ประกาศชัยชนะ ผมถือว่าคนๆนั้น หรือกลุ่มคนเหล่านั้นคือ ศรัสตรูของประเทศไทยอย่างแท้จริง ไม่ว่าผมจะอยู่ในสถานะใด ผมจะไม่ยินยอมให้คนที่คิดร้ายกับประเทศไทยสามารถมามีอิทธิพล หรืออำนาจเหนือความเป็นอยู่ของชีวิตประชาชนคนไทย และผมจะถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่จะเอาความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาบนความถูกต้องเท่านั้น ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนสั้นๆ เพียงเท่านี้ และขออนุญาตไม่ตอบคำถามเพื่อไปปฏิบัติภารกิจต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้นนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่เข้าร่วมการแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา เลขานุการส่วนตัว นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยองโดยหลังจากแถลงข่าวเสร็จนายกรัฐมนตรีได้เดินขึ้นลิฟต์ไป โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ ศรภ.ได้ติดตามขึ้นบันไดฉุกเฉินไปบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรียังไม่ได้ขึ้นเดินทางกลับทันที แต่ยังหารือร่วมกับฝ่ายความมั่นคง